Blockdit Logo (Mobile)
Daily Stock by Po
•
15 มี.ค. 2021 เวลา 14:47 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#กองทุนดีที่อยากแนะนำ EP.8
วันนี้เราลองเปลี่ยน บรรยากาศ จากกองทุน "หุ้น" มาเป็นกองทุน" ตราสารหนี้" บ้างครับ โดยที่กองทุนที่จะมาแนะนำคือ กองทุน K-Fixed ของกสิกร นั่นเองง
1
ตราสารหนี้ คือ สิ่งที่กิจการออกให้ผู้ลงทุนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าหนี้ โดยผลตอบแทนที่ผู้ถือตราสารหนี้จะได้รับคือ "ดอกเบี้ย" โดยสถานะของผู้ลงทุนจะถูกเรียกว่า "เจ้าหนี้" และบริษัทหรือกิจการจะมีสถานะเป็น "ลูกหนี้"
ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่จะถูกกำหนดในตราสารหนี้นั้นจะขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของบริษัทว่ามีมากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีความมั่นคงมากโอกาสเบี้ยวหนี้จะต่ำ ก็สามารถกำหนด ดอกเบี้ยที่ต่ำได้
ประเภทของตราสารหนี้นั้นมีความหลากหลาย โดยชื่อของตราสารนั้นจะแบ่งไปตามประเภทของผู้ออกตราสาร เช่นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลจะเรียกว่า "พันธบัตรรัฐบาล" ส่วนตราสารหนี้ที่ออกโดยเอกชนจะเรียกว่า "หุ้นกู้"
นโยบายการลงทุน : กองทุนนี้จะลงทุนทั้งในภาครัฐและเอกชนและเงินฝากในประเทศ และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน : กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัดและในบางโอกาสอาจสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด (โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าเป็นการบริหารแบบ Active management)
สัดส่วนการลงทุน : โดยที่กลุ่มตราสารหนี้ที่ถือสูงสุดจะเป็น "หุ้นกู้" ที่ออกโดยบริษัทเอกชน (สัดส่วนตั้ง 47%) และ "พันธบัตรรัฐบาล" (สัดส่วน34%)
แต่ว่าหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด คือ "พันธบัตรรัฐบาล" (สัดส่วนตั้ง 25%)
*ไม่งงกันนะครับ ประเภทของตราสารหนี้ที่กองทุนถือมากสุดจะเป็นของ "หุ้นกู้" ซึ่งอาจจะถือหลายๆบริษัทรวมๆกันจนคิดเป็น 47% ของพอร์ต (ถือบริษัทละนิดละหน่อย) แต่ตัวตราสารที่ถือมากสุดจะเป็น "พันธบัตรรัฐบาล"
อ้างอิงข้อมูลจาก Fund fact sheet K-Fixed
ค่าธรรมเนียม : ถึงจะดูเหมือนแค่ 0.5% แต่นี่เป็นกองตราสารหนี้ซึ่งผลตอบแทนไม่มากเท่าหุ้นก็อาจจะทำให้เสียกำไรไปบ้าง (แต่นิดเดียวเองครับ)
อ้างอิงข้อมูลจาก Fund fact sheet K-Fixed
เงินขั้นต่ำของการซื้อขาย : สำหรับกอง K-Fixed จะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 500 บาท
อ้างอิงข้อมูลจาก Fund fact sheet K-Fixed
ผลตอบแทน : หากอ้างอิงข้อมูลจาก Fund fact sheet ของกองทุนแล้ว ผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี จะตกเฉลี่ยปีละ 2.90% (ก็ถือว่าใช้ได้เลย) และที่สำคัญขาดทุนสูงสุดในช่วงเวลา 5 ปี อยู่ที่ 1.72% ซึ่งน้อยมากๆๆ (หากใครอยากหาแหล่งพักเงินที่ไม่ใช่ออมทรัพย์อาจจะลองมองมาที่กองทุนนี้ก็ได้)
อ้างอิงข้อมูลจาก Fund fact sheet K-Fixed
ข้อควรระวัง : หากทุกคนสังเกตุกราฟดีๆ จะเห็นช่วงที่มูลค่ากองทุนนั้นตกหนักมากๆ (ขาดทุนไปประมาณ 50%เลยทีเดียว) ซึ่งช่วงที่กราฟตกอย่างรุนแรงนั้นเป็นช่วงของวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 นั่นเอง (ในวิกฤตนี้มีบริษัทหลายตัวปิดกิจการลงเนื่องจากไม่มีเงินใช้หนี้ทำให้กองทุนได้รับผลกระทบไปด้วย) แต่หากผ่านช่วงเวลาวิกฤตต้มยำกุ้งแล้วจะเห็นมูลค่าของกองทุนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอเลย
อ้างอิงข้อมูลจาก Finnomena.com
ผลตอบแทนจากเทคนิค DCA (20ปี ย้อนหลัง หลังต้มยำกุ้ง) : เงื่อนไขการลงทุน
-เพิ่มทุน 1000 บาท
-ทุกๆวันที่ 26 ของทุกเดือน
-ระยะเวลา 20 ปี
-ผลตอบแทน ต้นทุนทั้งหมด 240K มูลค่าตลาด 312K คิดเป็นกำไร 312K - 240K = 72K หรือ 30% (ถือว่าไม่เยอะและไม่น้อยเกินไปเลยครับ)
อ้างอิงข้อมูลจาก WealthMagik DCA Simulator
สรุปความคิดเห็นส่วนตัว : กองทุนตราสารหนี้ก็ถือว่าเป็นกองทุนที่ไว้สำหรับพักเงินได้ดีเลยครับ เพราะจากประวัติมีการขาดทุนที่ต่ำมาก (เว้นวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะหลังจากผ่านวิกฤตมาแล้วธนาคารก็ได้รับบทเรียนและมีการเปลี่ยนกฏต่างๆในการกู้แล้ว) และผลตอบแทนค่อนข้างสม่ำเสมอ ดังนั้นแล้วหากใครอยากหาที่ฝากเงินแทนออมทรัพย์อาจจะลองหันมามองกองทุนนี้ได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา