13 มี.ค. 2021 เวลา 16:40 • ประวัติศาสตร์
ปกรณัมกรีก ตอนที่ 6 : ยูโรปา ต้นตำนานแห่งมิโนทอร์
ผมกลับมาแล้วนะครับ สอบเสร็จพอดี เครื่องกั้นทั้งหลายได้พังทลายลงแล้ว เอาล่ะ ถึงเวลากลับมาทำเพจเต็มรูปแบบแล้ว ขอสัญญาว่าจะลงบทความถี่ๆ นะครับ
เอาล่ะครับ เรื่องที่ผมจะมาเล่าต่อจากนี้ คือเรื่องราวของปฐมบทแห่งอีกหลายเรื่องราวต่อจากนี้ เป็นเรื่องราวของสตรีคนหนึ่ง ที่จะมาเป็นต้นธารแห่งตำนานของเหล่าวีรบุรุษในรุ่นหลัง เธอคนนั้น จับพัดจับผลู จากบ้านเกิดของเธอ มาสู่เกาะที่เธอไม่คุ้นเคย โดยหารู้ไม่ว่า เธอจะกลายเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวอันแสนเข้มข้นสืบมา
ใช่แล้วล่ะครับ ผมกำลังพูดถึง ยูโรปา (Europa) หญิงสาวแห่งเกาะครีต เกาะแห่งวัว
ก่อนจะเล่าเรื่อง ผมอยากจะบอกเรื่องหนึ่งให้ทราบ นั่นคือ เทพซูส พระเอกในเรื่องนี้ อย่างที่รู้กัน ว่าเจ้าตัวเป็นคนเจ้าชู้ยิ่งนัก มีเมียน้อย อนุภรรยาไปทั่ว ทั้งเทพด้วยกัน มนุษย์ สัตว์ประหลาด มิวายให้เฮรา ภรรยาตัวจริง (แต่ไม่ใช่คนแรกเน้อ) ต้องแสดงนิสัยแบบเสียหลวงลวงสังหารในละครไทยอยู่เป็นนิจ ยูโรปาก็เป็นคนหลังๆ ไปแล้ว
ยูโรปา เป็นเจ้าหญิงแห่งเมือง ฟินิเซีย บุตรีแห่งท้าว อจีนอร์ (Agenor) บุตรแห่งโพไซดอน และนางลิเบีย นางยังมีพี่น้อง อีก 3 คน คือ แคดมัส (Cadmus) ฟินิกซ์ (Phoenix) และซิลิกซ์ (Cillix) ซึ่งต่อมา ตัวของแคดมัส ก็จะได้เป็นผู้ก่อตั้งกรุงธีบส์ (Thebes) เมืองแห่งเหล่าวีรบุรุษอีกเมืองหนึ่ง
เรื่องราวเริ่มขึ้นตรงนี้ครับ วันหนึ่ง ยูโรปา ก็ได้ไปเล่นน้ำและเก็บดอกไม้กับเหล่านางกำนัลและมิตรสหายกันอย่างสนุกสนาน ตามประสาเจ้าหญิงที่แสนสดใส เทพซูส ผู้มองลงมาจากเบื้องบน ได้ยลโฉมนางยูโรปา ก็เกิดอาการตกหลุมรัก อยากจะได้นางมา
เทพซูสก็เลยจัดการแปลงร่างเป็นวัวหนุ่มรูปร่างสวยงามขนาดใหญ่ มีสีขาวสวยงาม น่าดึงดูด ย่างเข้ามาหายูโรปาและเหล่านางกำนัลด้วยอากัปกิริยาที่เรียบร้อยและทรงเสน่ห์ เข้ามาหายูโรปาด้วยอาการเชื่องและแววตาที่ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย นางจึงหลงไหลในวัวตัวนั้นและนำพวงดอกไม้ไปคล้องคอเจ้าวัวตัวนั้น
1
เมื่อสบโอกาส ซูสในร่างของวัว จึงทำท่าจะให้นางขึ้นขี่หลัง เมื่อยูโรปาขึ้นขี่หลังเรียบร้อยแล้ว มันก็ได้ค่อยๆเดินพานางไปจนถึงริมฝั่งทะเล จากนั้นมันก็ส่งแววตาที่ดูมีเลศนัยอย่างเทพเจ้า และวิ่งออกไปสู่ท้องทะเลในทันทีทันใด โดยทิ้งเหล่านางกำนัลไว้ที่แห่งนั้น
The Rape of Europa by Titian (1562)
เมื่อออกวิ่งสู่ท้องทะเลแล้ว ระหว่างทางก็มีเหล่านางพราย และพวกมิวส์ มาคอยต้อนรับและขับกล่อมบทเพลงและโปรยดอกไม้ทิพย์ดั่งสวงสวรรค์ พร้อมทั้งเหล่าเทพบุตรแห่งท้องทะเล ก็ออกมาเป่าแตรสรรเสริญ
เมื่อวิ่งมานานแสนนานจนมาถึงเกาะครีต ยูโรปา ก็ได้ลงจากวัว และเดินดูสถานที่แห่งใหม่ที่นางไม่คุ้นเคย เมื่อหันกลับมา วัวตัวนั้นก็ไม่อยู่เสียแล้ว แต่ปรากฎเป็นชายหนุ่มผู้มีแสงสว่างเรืองรองแผ่ซ่านออกมาจากลำตัว พร้อมแนะนำตนเองว่าคือซูส ผู้ปกครองแห่งโอลิมปัส บิดาแห่งทวยเทพทั้งปวง
ยูโรปากลับไม่มีความหวาดกลัวใดๆ รู้สึกมีใจปฏิพัทธ์ต่อพระองค์เช่นกัน จากนั้นทั้งสองก็ได้ร่วมภิรมย์รักกัน จนเกิดโอรสสามองค์ คือ ไมนอส (ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเกาะครีตในเวลาต่อมา) ราดามานธิส และซาร์ปิดอน
เทพซูส ก็ได้ให้นางอยู่ที่นี่ เป็นราชินีแห่งเกาะครีต อันเป็นสถานที่ที่ตัวพระองค์เองได้เติบโตมา พร้อมทั้งมอบของขวัญสามชิ้นให้แก่นาง คือ จาเวลิน (Javelin) หรือ พิลัม (Pilum) แหลนวิเศษที่ไม่มีวันพลาดเป้า ลาเลพส์ (Laeleps) สุนัขล่าเนื้อที่ไม่มีวันล่าพลาด ซึ่งต่อมาก็จะได้กลายไปเป็นกลุ่มดาวหมาใหญ่ (Canis Major) และทาลอส (Talos) คนยักษ์ทองแดง ผู้อารักขาเกาะครีต จากนั้นก็จากนางไป
ต่อมานางก็ได้แต่งงานใหม่กับแอสเทอเรียส (Asterius) ผู้เป็นราชาแห่งเกาะครีตมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเขาได้ตายไปโดยที่ไม่มีบุตรสืบสกุล ก็ได้ยกบัลลังก์ให้ไมนอส บุตรแห่งยูโรปา และเขานี่แหละ ที่จะเป็นต้นเรื่องของมิโนทอร์ สัตว์ประหลาดแห่งเขาวงกตใต้พระราชวัง
และเรื่องราวของนางก็จบลงเพียงตรงนี้ ชื่อของนาง ก็เป็นรากศัพท์ของคำว่า ยุโรป (Europe) ทวีปแห่งความหรูหราและอารยธรรมอันเฟื่องฟูสืบมาปัจจุบัน ในเกาะครีตเอง ก็มีร่องรอยของวัฒนธรรมที่บูชาวัวเหลืออยู่มากมาย เรียกว่า วัฒนธรรม มิโนอัน (Minoan culture) ไว้ผมจะมาเล่าเรื่องของอารยธรรมนี้ให้ฟังนะครับ
เรื่องราวตอนหน้า จะเป็นเรื่องราวของใคร ผมขอใบ้ว่า
“ผู้ที่ทำให้เรารู้ซึ้งถึงความโศกเศร้าอันเป็นที่สุดยามจากผู้เป็นที่รัก”
จะตรงกับที่ท่านคิดหรือไม่ รอติดตามครับ กระผม @Krishna ขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ตอนหน้า เร็วๆนี้
Au revoir

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา