17 มี.ค. 2021 เวลา 12:22 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Titanic (1997)
"Titanic (1997)"
**คำเตือนข้อความด้านล่างมีการ Spoil ภาพยนตร์**
01. หลังเสร็จจากภาพยนตร์เรื่อง Terminator 2: Judgment Day (1991) แล้ว James Cameron ได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์เรื่อง A Night to Remember (1958) ก็เกิดความคิดว่าอยากจะทำภาพยนตร์เกี่ยวกับเรือ Titanic
02. James Cameron ใช้เวลายาวนานถึงห้าปีเพื่อศึกษาเรือ Titanic รวมถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดของเหตุการณ์ดังกล่าว
03. เมื่อ James Cameron นำโครงเรื่องไปเสนอกับค่าย 20th Century Fox โดยอธิบายสั้น ๆ ว่า "มันคือ โรมิโอ กับ จูเรียส บนเรือ Titanic" ทุกคนต่างเข้าใจว่าภาพยนตร์จะต้องมีความเป็นคนเหล็กที่มีกลิ่นอายของโรแมนติกผสมอยู่ แต่เมื่อเขาอธิบายว่าจะไม่มีฉากอะไรแบบนั้น ทุกคนก็เริ่มหวั่นใจว่าภาพยนตร์จะไม่เป็นที่นิยม แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่มีกันมานาน พวกเขาจึงยอมให้ไฟเขียวกับ James Cameron
04. เดิมที James Cameron เขียนบทภาพยนตร์ให้มีความยาวถึง 4 ชั่วโมง แต่สุดท้ายต้องหั่นออกจนเหลือแค่เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นทางค่าย 20th Century Fox กลับต้องการให้หั่นลงไปจนเหลือแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าความยาวของภาพยนตร์จะทำให้รอบฉายน้อยและได้เงินไม่เยอะ แต่ James Cameron ไม่ยิมยอม
05. ช่วงเริ่มแรกของการดำเนินงานสร้างได้ใช้ชื่อเรียกภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "Planet Ice"
06. การจองสื่อโฆษณาสำหรับโปรโมทภาพยนตร์เรื่องนี้ ทางค่าย 20th Century Fox ได้จองเอาไว้ด้วยชื่อภาพยนตร์ว่า "Baby's Day Out 2"
07. ในขณะที่ James Cameron เขียนบทภาพยนตร์นั้น เขาได้สร้างตัวละครสมมติขึ้นมาเป็นตัวเอกของเรื่อง โดยเขาตั้งชื่อให้ว่า Jack Dawson และ Rose DeWitt Bukater ซึ่งเป็นความบังเอิญที่ภายหลังเขาได้มาทราบว่ามีผู้เสียชีวิตบนเรือนามว่า J. Dawson ย่อมาจาก Joseph Dawson
1
08. ร่างของ J. Dawson ถูกฝังรวมกับบรรดาเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเรือ Titanic ที่สุสาน Fairview Lawn ในเมือง Nova Scotia โดยหลุมศพของเขาอยู่ลำดับที่ 227 หลังจากภาพยนตร์ประสบความสำเร็จได้มีประชาชนเข้าไปเยี่ยมหลุมศพของเขาเป็นจำนวนมาก
"หลุมศพหมายเลข 227 (J. Dawson)"
09. ผู้กำกับอย่าง James Cameron ได้ลงเรือดำน้ำไปดูซากเรือ Titanic ของจริงด้วยตัวเองถึง 12 ครั้ง เขาเล่าว่ามันเป็นอารมณ์ที่ท่วมท้นเมื่อได้เห็นของจริง รวมถึงตระหนักได้ถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อกลับขึ้นมาบนผิวน้ำแล้วเขาถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้
10. มีการรายงานว่า James Cameron ได้เรียกนักแสดงตัวประกอบฉากจำนวนไม่ต่ำกว่า 150 รายเพื่อคุยเป็นการส่วนตัว โดยเขาได้แจกรายชื่อพร้อมเล่าประวัติความเป็นมาของชื่อเหล่านั้นเพื่อให้พวกเขาสวมบทบาทเป็นผู้โดยสารเรือ Titanic จากเหตุการณ์จริง
11. นักแสดงตัวเลือกแรกของ James Cameron ที่ต้องการให้มารับบทบาทเป็น Jack Dawson คือ River Phoenix แต่เขากลับเสียชีวิตไปก่อนที่ภาพยนตร์จะถูกถ่ายทำ
"River Phoenix"
12. Johnny Depp ถูกเสนอให้มารับบทบาทเป็น Jack Dawson แต่กลับปฏิเสธไป โดยในภายหลังเขาได้ออกมาเปิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจที่น่าเสียดายมากที่สุด
13. ทางค่ายต้องการให้นักแสดง Matthew McConaughey มาแสดงเป็น Jack Dawson แต่ James Cameron ไม่ยินยอม ทางค่ายจึงเสนอให้ Matthew McConaughey แสดงเป็น Caledon Hockley แทน แต่ก็ยังไม่ได้แสดงบทบาทดังกล่าวอยู่ดี
14. Christian Bale เข้ามาคัดตัวเพื่อแสดงบทบาท Jack Dawson แต่ James Cameron ปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ภาพยนตร์มีนักแสดงนำเป็นชาวอังกฤษถึงสองคน
1
15. นักแสดง Tom Cruise, Macaulay Culkin, Ethan Hawke and Brad Pitt ต่างก็เคยถูกเสนอให้เข้ามารับบทเป็น Jack Dawson
16. นักแสดง Mädchen Amick, Jennifer Aniston, Vanessa Angel, Gabrielle Anwar, Christina Applegate, Rosanna Arquette, Drew Barrymore, Kate Beckinsale, Julie Benz, Rose Byrne, Neve Campbell, Gabrielle Carteris, Jennifer Connelly, Holly Marie Combs, Claire Danes, Brittany Daniel, Amanda Donohoe, Cameron Diaz, Minnie Driver, Eliza Dushku, Claire Forlani, Maggie Gyllenhaal, Sally Hawkins, Katherine Heigl, Amelia Heinle, Natasha Henstridge, Eva Herzigova, Amy Jo Johnson, Angelina Jolie, Milla Jovovich, Nicole Kidman, Alison King, Jordan Ladd, Robyn Lively, Carey Lowell, Leslie Mann, Sophie Marceau, Penelope Ann Miller, Michelle Monaghan, Emily Mortimer, Thandie Newton, Gwyneth Paltrow, Christina Ricci, Joely Richardson, Keri Russell, Jeri Ryan, Winona Ryder, Nicollette Sheridan, Ione Skye, Tori Spelling, Charlize Theron, Uma Thurman, Rachel Weisz, Reese Witherspoon และ Alicia Witt ต่างถูกเสนอให้มารับบทเป็น Rose DeWitt Bukater
17. Kate Winslet ต้องการแสดงบทบาทเป็น Rose DeWitt Bukater มากจนถึงกับส่งจดหมายตรงมาจากอังกฤษมาถึง James Cameron ที่ลอสแอนเจลิส รวมถึงคอยโทรศัพท์หาเขาว่า "คุณไม่เข้าใจเหรอว่าฉันคือ Rose! ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงยังมองหานักแสดงคนอื่นอีก!"
"Kate Winslet ในบท Rose"
18. นักแสดง Hugh Grant, Pierce Brosnan, Rupert Everett, Peter Greene, William Hurt, Jason Isaacs, Rob Lowe, Adrian Paul และ Rufus Sewell ต่างถูกทาบทามให้มาแสดงบทบาทเป็น Caledon Hockley
19. James Cameron ได้เห็นนักแสดง Billy Zane จากภาพยนตร์เรื่อง The Phantom (1996) จึงได้เรียกให้เขามาคัดเลือกมาแสดงเป็น Caledon Hockley
20. Robert De Niro ถูกทาบทามให้มาแสดงเป็น Captain Smith แต่ต้องปฏิเสธไปเพราะติดเชื้อทางเดินอาหารในช่วงเวลานั้น
21. Reba McEntire ถูกทาบทามให้มารับบทบาทเป็น Molly Brown แต่ตารางงานไม่ตรงกันจึงทำให้เธอต้องปฏิเสธไปในที่สุด ซึ่งหลังจากนั้น Barbra Streisand ก็ถูกทาบทามให้มาแสดงแทนแต่ก็ถูกปฏิเสธ
22. Leonardo DiCaprio และ Kate Winslet ตกลงรับแสดงนำในภาพยนตร์ก่อนที่บทภาพยนตร์จะเสร็จ ซึ่งทั้งสองคนได้อ่านเฉพาะโครงเรื่องจำนวน 165 หน้าที่ถูกเขียนโดย James Cameron
"Leonardo และ Kate ในภาพยนตร์"
23. เมื่อ Kate Winslet รู้ตัวว่าต้องแสดงฉากเปลือยกายต่อหน้า Leonardo DiCaprio เธอจึงตัดสินใจขยิบตาให้กับเขาในการเจอกันครั้งแรก เพื่อทำลายกำแพงลง
24. Kate Winslet แสดงฉากเปลือยกายด้วยตัวเองและปฏิเสธการใช้ตัวแสดงแทน
25. ในขณะที่ Jack Dawson เตรียมพร้อมสำหรับวาดรูปเปลือยกายของ Rose DeWitt Bukater ตามบทสนทนาเขาต้องบอกกับเธอว่า "เอนกายลงบนโซฟาตัวนี้" แต่ทว่า Leonardo DiCaprio รู้สึกเคอะเขินจนพูดผิดว่า "มานอนบนเตียง...หมายถึงโซฟาน่ะ" ซึ่ง James Cameron รู้สึกชอบมากจึงเก็บฉากดังกล่าวเอาไว้แล้วใส่มันลงในภาพยนตร์
26. มือที่วาดรูปของ Rose DeWitt Bukater ไม่ใช่มือของ Leonardo DiCaprio แต่เป็นมือของ James Cameron ซึ่งเขาลงมือวาดภาพนั้นด้วยตัวเอง โดยต้องถ่ายภาพจากกระจกเพื่อให้ผู้ชมเห็นว่าผู้วาดเป็นคนถนัดมือขวา ทั้งที่เขาเป็นคนถนัดมือซ้าย
"มือของ James Cameron"
27. ลายมือชื่อของ Jack Dawson บนภาพวาดถูกออกแบบโดย James Cameron เพราะเขาเป็นผู้วาดรูปนั้นด้วยตัวเอง
28. Kate Winslet มีข้อแม้ง่าย ๆ สำหรับนักแสดง Leonardo DiCaprio เพื่อถ่ายทำฉากจูบกับเธอว่าห้ามดื่มกาแฟ ห้ามรับประทานกระเทียม และห้ามสูบบุหรี่ก่อนเข้าฉากดังกล่าว
29. นักแสดงประกอบฉากในห้องเครื่องมีความสูงประมาณ 5 ฟุตเท่านั้นเพื่อให้ห้องเครื่องดูใหญ่กว่าเดิม
30. ในฉากห้องเครื่องเมื่อหัวหน้าวิศวกรตะโกนว่า "เดินหน้าเต็มกำลัง" ผู้ชมจะได้ยินเสียงใครสักคนตะโกนคำว่า "เดินหน้าเต็มกำลัง" ซ้ำอีกหน ซึ่งเสียงดังกล่าวเป็นเสียงของ James Cameron
31. ห้องพักบนเรือ Titanic ที่ตัวละคร Caledon Hockley, Rose DeWitt Bukater และ Ruth DeWitt Bukater ใช้พักอาศัยอยู่นั้นคือห้อง B52, B54 และ B56 ซึ่งมีอยู่จริงบนเรือ Titanic ถูกจองเข้าพักโดย J.P. Morgan แต่เขากลับเปลี่ยนใจไม่มาขึ้นเรือก่อนที่ Titanic จะออกจากท่าเรือ
32. ฉากที่ Caledon Hockley และ Rose DeWitt Bukater ดื่มกาแฟแล้วทะเลาะกันนั้น นักแสดง Billy Zane ได้เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครจนเผลอคว่ำโต๊ะอาหารจนล้มนั้นเป็นการแสดงนอกบท ซึ่งอาการเสียขวัญของ Kate Winslet ในฉากนั้นคือของจริง
"ฉากปะทะอารมณ์ที่ทำให้ Kate เสียขวัญ"
33. ความจริงแล้วตามบทภาพยนตร์ดั้งเดิม ฉากแต่งตัวของ Rose DeWitt Bukater เธอจะเป็นฝ่ายรัดเครื่องแต่งกายให้กับแม่ของเธอเอง แต่ Kate Winslet และ James Cameron รู้สึกว่าควรจะสลับตำแหน่งกัน เพื่อส่งผลกระทบทางอารมณ์ให้กับผู้ชมได้เข้าใจความอึดอัดของตัวละครให้มากกว่าเดิม
34. นักแสดง Lindsay Lohan เข้ามาคัดเลือกเป็นนักแสดงในบทบาท Cora Cartmell ซึ่งตอนนั้นเธอเพิ่งอายุได้เพียง 8 ขวบและยังไม่เป็นที่รู้จักในวงการมาก่อน แม้ว่าเธอจะโดดเด่นจนได้รับเลือกแล้ว แต่ทาง James Cameron รู้สึกว่าเส้นผมสีแดงของเธอจะสร้างความสับสนกับผู้ชมว่าตัวละครดังกล่าวเกี่ยวข้องอะไรกับ Rose DeWitt Bukater และ Ruth DeWitt Bukater หรือเปล่า จึงต้องปฏิเสธไปในที่สุด
35. ฉากที่ Rose DeWitt Bukater ในวัยชราลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ด้วยรถเข็นพร้อมสัตว์เลี้ยง เป็นการสดุดีให้กับสุนัขจำนวน 12 ตัวบนเรือ Titanic ซึ่งมีเพียงสามตัวเท่านั้นที่รอดชีวิต
36. ฉากที่ Rose DeWitt Bukater เดินไปตามทางเดินเพื่อช่วยเหลือ Jack Dawson ที่ถูกขังเอาไว้ ทีมงานได้ถ่ายทำที่มหาสมุทร Pacific Ocean ใน the Baja California ประเทศ Mexico เมื่อ Kate Winslet สัมผัสโดนน้ำแล้วอ้าปากค้างด้วยความหนาวเย็นนั้นเป็นปฏิกิริยาจริงทั้งหมด
37. Kate Winslet เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ไม่ได้รับอนุญาตให้สวมใส่ชุดว่ายน้ำขณะถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้เธอมีอุณหภูมิร่างกายต่ำและเกือบจะต้องถอนตัวออกจากการแสดง แต่ James Cameron ขอร้องให้เธออยู่ต่อไป
"ฉากกลางมหาสมุทร"
38. นักแสดงหลายรายต่างลงเอยด้วยการไม่สบายจากไข้หวัด เพราะแช่ตัวอยู่ในน้ำเย็นนานจนเกินไป แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ Kate Winslet ซึ่งเธอกล่าวว่าเช้าวันหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาแล้วต้องถ่ายทำต่อ เธอนึกในใจว่า "ได้โปรดพระเจ้า ฆ่าฉันให้ตายเถอะ"
39. Deborah Lynn Scott ได้ออกแบบชุดของ Rose DeWitt Bukater ในช่วงครึ่งหลังของภาพยนตร์ โดยชุดดังกล่าวสามารถดูสวยงามทั้งตอนแห้งและเปียกน้ำ
40. คู่สามีภรรยาวัยชราที่นอนกอดกันบนเตียงนอนขณะที่น้ำท่วมเข้ามาในห้อง นักแสดงได้สวมบทบาทเป็น Ida and Isidor Straus ผู้เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า Macy ในนครนิวยอร์กซึ่งเสียชีวิตบนเรือไททานิก ตามเหตุการณ์จริง Ida ถูกเสนอให้ลงเรือชูชีพ แต่เธอปฏิเสธเพื่ออยู่กับสามี โดยเธอกล่าวว่า "ถ้าจะรอดก็ต้องรอดด้วยกัน ถ้าจะตายก็ต้องตายด้วยกัน" ซึ่งฉากดังกล่าวได้ถูกถ่ายทำเอาไว้ด้วยแต่ถูกตัดออกไปในขั้นตอนการตัดต่อภาพยนตร์
"Ida และ Isidor"
41. ฉากที่ชายคนหนึ่งพูดกับเด็กหญิงขณะลงเรือชูชีพว่า "จับมือแม่แล้วเป็นเด็กดีนะ" เด็กผู้หญิงคนนั้นคือ Eva Hart ซึ่งเธอได้บอกว่านั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่พ่อได้พูดกับเธอ
42. ชายสวมเสื้อสีขาวที่อยู่ข้าง Rose DeWitt Bukater และ Jack Dawson ก่อนเรือจะอับปางลงไปใต้มหาสมุทร ตัวละครดังกล่าวคือพ่อครัวที่มีนามว่า Charles Joughin ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือ Titanic
43. James Cameron ถ่ายทำฉากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขณะปล่อยเรือชูชีพแล้วเกิดความโกลาหลขึ้น นักแสดง Jonny Phillips ได้ด้นสดด้วยการควงปืนไปมาแล้วตะโกนว่า "ถอยไป ไม่อย่างนั้นฉันจะยิงให้ตายเหมือนหมาเลย" หลังจากถ่ายจบ James Cameron ได้วิ่งเข้าไปชื่นชมเขาว่าเยี่ยมมากและขอให้เขาทำแบบเดิมอีกรอบหนึ่ง แต่ Jonny Phillips กลับจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปเพราะอินกับสถานการณ์จนลืมตัว
44. Leonardo DiCaprio และ Jason Barry เกิดการบาดเจ็บหลังจากเข้าฉากพังประตูเพื่อหลบหนีออกจากห้องโดยสารชั้นสาม
45. ตามบทภาพยนตร์ดั้งเดิมของฉากพังประตูดังกล่าว Rose DeWitt Bukater จะเป็นคนที่พูดให้ไล่พนักงานออก แต่ James Cameron ประทับใจในการแสดงของ Jason Barry จึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนพูดแทน เพื่อให้ฉากดังกล่าวมีความหนักแน่นขึ้นด้วย
46. ฉากที่น้ำพังทลายเข้ามาในห้องโถ่งใหญ่ Grand Staircase สามารถถ่ายทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นเนื่องจากเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ประกอบฉากทุกอย่างเกิดความเสียหายจนไม่สามารถกลับไปถ่ายซ้ำได้อีกหน
"เฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง Grand Staircase"
47. ฉากสุดท้ายของตัวละคร John Jacob Astor IV ในห้องกัปตันมีการใช้น้ำถึง 120 ตัน นักแสดง Eric Braeden ที่สวมบทบาทเป็น John Jacob Astor IV ได้เปิดเผยว่าเขาไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
48. หลังจากเรืออับปางลงไปแล้ว ฉากที่นักแสดงลอยตัวอยู่ในมหาสมุทรถูกถ่ายทำในสระน้ำ 350,000 แกลลอน โดยส่วนใหญ่จะมีความลึกเพียง 3 ฟุตเท่านั้น แต่ก็มีบางบริเวณที่ลึกจนสามารถกระโดดลงน้ำได้ ซึ่งทางทีมงานได้ใช้เศษซากของเก้าอี้ เสื้อชูชีพ และสิ่งอื่นเพื่อให้ทีมนักแสดงสังเกตได้
49. ฉากของภาพยนตร์ที่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1912 มีความยาวรวมกันทั้งหมด 2 ชั่วโมง 40 นาที ซึ่งมีระยะเวลาเท่ากับเรือ Titanic กำลังอับปางก่อนจมลงใต้มหาสมุทร ส่วนฉากที่เรือชนกับภูเขาน้ำแข็งใช้เวลาเท่ากับการชนในเหตุการณ์จริงด้วยเช่นกัน
50. ความจริงแล้วตาม Storyboard ได้มีฉากที่ Rose DeWitt Bukater เดินหายไปกับฝูงชน แต่ด้วยงบประมาณที่บานปลายทำให้ James Cameron จำใจต้องตัดการถ่ายทำฉากดังกล่าวออกไป
51. ตามกำหนดการแล้วภาพยนตร์มีเวลาถ่ายทำเต็มที่เพียง 138 วันเท่านั้น แต่การถ่ายทำกลับล่าช้าไปถึง 160 วัน ซึ่งเป็นการถ่ายทำที่ยาวนานและต่อเนื่องถึงเกือบ 6 เดือน
52. Fay Wray ถูกทาบทามให้มาแสดงเป็น Rose DeWitt Bukater ในวัยชรา แต่เธอปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าไม่อยากแสดงภาพยนตร์อีกต่อไปแล้ว หลังจากนั้นบทจึงถูกส่งต่อไปให้ดาวค้างฟ้าอย่าง Ann Rutherford แต่ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน
53. นักแสดง Gloria Stuart มีอายุเพียง 86 ปีเท่านั้นแต่ต้องแต่งหน้าเพิ่มเติมเพื่อรับบทบาทเป็น Rose DeWitt Bukater ในวัย 100 ปี ซึ่งในปี 2010 เธอได้จากโลกใบนี้ไปด้วยวัย 100 ปี
54. Gloria Stuart เป็นนักแสดงเพียงคนเดียวในภาพยนตร์ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลา 1912 ที่เรือ Titanic ของจริงอับปางลงสู่มหาสมุทร
55. Gloria Stuart ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมด้วยวัย 87 ปี กลายเป็นนักแสดงที่มีอายุเยอะที่สุดในการเข้าชิงรางวัล Academy Awards ครองสถิติยาวนานถึง 19 ปี จนกระทั่งปี 2018 นักแสดงชาย Christopher Plummer ได้มาแย่งตำแหน่งเนื่องจากได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในวัย 88 ปี แต่อย่างไรก็ตามเธอยังครองสถิตินักแสดงหญิงที่มีอายุเยอะที่สุดในการเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
"James Cameron และ Gloria Stuart"
56. เดิมที James Cameron ต้องการ Enya มาเป็นผู้ออกแบบดนตรีประกอบภาพยนตร์ แต่เธอกลับปฏิเสธไป เขาจึงได้จ้าง James Horner มารับหน้าที่ดังกล่าวแทน
57. James Horner ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อเขาได้รับชมภาพยนตร์ฉบับคร่าว ๆ เสร็จแล้ว เขากลับไปยังที่พักอาศัยแล้วใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพื่อแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ขึ้นมา
58. James Cameron ไม่ได้ต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเพลงประกอบภาพยนตร์แต่อย่างใด จนกระทั่งผู้ประพันธ์เพลงอย่าง James Horner ได้เรียบเรียงดนตรีประกอบภาพยนตร์แล้วมีความคิดว่าถ้าดนตรีในส่วนนี้มีเนื้อร้องจะต้องยอดเยี่ยมมาก จึงได้เอาดนตรีไปให้ Will Jennings แต่งเนื้อร้องขึ้นมาจนเป็นเพลง "My Heart Will Go On"
59. นักร้อง Céline Dion ไม่ต้องการอัดเสียงเพลง "My Heart Will Go On" เพราะเธอไม่อยากร้องเพลงประกอบภาพยนตร์อีกแล้ว ที่สำคัญหลังจากได้ฟังเพลงดังกล่าวแล้วเธอรู้สึกไม่ชอบการร้องเพลงของ James Horner เอาเสียเลย แต่ René Angélil ผู้เป็นสามีของเธอได้เกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนใจ
"Céline Dion"
60. Céline Dion เข้าอัดเสียงเพลงดังกล่าวเพียงรอบเดียวเท่านั้น เพื่อเป็นเดโม่ให้ James Cameron ฟัง แต่เขากลับชอบมากและนำเพลงมาใช้ในภาพยนตร์ทันที ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเวอร์ชั่นเดโม่
61. เพลง "My Heart Will Go On" ได้รับรางวัล Academy Awards สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
62. ภาพยนตร์เรื่อง Titanic ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Academy Awards จำนวน 14 สาขา ซึ่งกลายเป็นภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์
63. จากการเข้าชิงรางวัล Academy Awards ทั้งหมด 14 สาขา ภาพยนตร์สามารถชนะรางวัลกลับมาได้ถึง 11 สาขา
64. เป็นครั้งแรกของ Academy Awards ที่รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นของ James Cameron แต่เพียงผู้เดียว เพราะเขาเป็นทั้งผู้อำนวยการสร้าง, นักเขียนบทภาพยนตร์, กำกับภาพยนตร์ และตัดต่อภาพยนตร์
65. ทีมงานได้เชิญชวนให้ Millvina Dean ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากเรือ Titanic ที่ยังมีชีวิตอยู่ให้มาร่วมงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ แต่เธอปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่าเธอเคยดูภาพยนตร์เรื่อง A Night to Remember (1958) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ของ Titanic เช่นเดียวกัน โดยเธอรู้สึกว่ามันเจ็บปวดมากเกินไป
66. Millvina Dean เป็นผู้รอดชีวิตจากเรือ Titanic ที่มีชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้าย ซึ่งเธอได้จากโลกใบนี้ไปในวันที่ 31 พฤษภาคม 2009 ด้วยวัย 97 ปี
67. เนื่องจากมีการฉายภาพยนตร์เป็นเวลานานหลายเดือนติดต่อกัน ทางค่าย Paramount จึงได้ส่งวงล้อสำหรับสวมใส่แผ่นฟิล์มไปยังโรงภาพยนตร์เพื่อถนอมความสมบูรณ์ของสำเนาฟิล์ม
68. James Cameron ได้ถ่ายทำฉากจบเอาไว้อีกแบบหนึ่ง โดยทุกคนได้เห็น Blue Diamond ก่อนที่จะถูกโยนลงมหาสมุทร แต่เขาตัดสินใจไม่ใช้ตอนจบแบบนั้นเพราะมันขัดกับคาแรคเตอร์ของ Rose DeWitt Bukater เกินไป
"ฉากจบอีกแบบหนึ่ง"
69. ภาพยนตร์ติดอันดับที่หนึ่งในตาราง Box Office เป็นเวลา 15 สัปดาห์ติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 1997 จนถึงวันที่ 2 เมษายน 1998
70. ภาพยนตร์ใช้งบประมาณไป 200 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าใช้งบประมาณบานปลายเกินกว่าที่ทางค่ายกำหนดเอาไว้ โดยตอนแรกพวกเขาเกรงกลัวว่าภาพยนตร์เสี่ยงจะขาดทุนหนัก เนื่องจากทางค่ายคิดว่าภาพยนตร์โรแมนติกที่มีเนื้อเรื่องอยู่กลางมหาสมุทร เป็นหลักสูตรของความหายนะแน่นอน แต่ปรากฏว่ากระแสปากต่อปากทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย จนทำรายได้ไปถึง 2.195 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา