20 มี.ค. 2021 เวลา 13:00 • บันเทิง

เรื่องเล่าที่ 2 : เจอดีตรงทางเปลี่ยว

เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่ผมได้เจอด้วยตัวเองครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่เเล้ว ตอนนั้นผมอยู่ ม.4 ที่โรงเรียนเเห่งหนึ่งในโคราช ช่วงนั้นเป็นช่วงเตรียมตัวจัดงานกีฬาสี (เเต่กุล่มผมไม่ได้ช่วยทำอะไรเลย) เหลืออีก 1 วัน ก่อนถึงวันงาน เพื่อนเก่าของผมได้ชวนไปกินเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ ตอนเเรกผมว่าจะไม่ไปเพราะไม่ค่อยอยากไป เเต่ถ้าไม่ไปเดี๋ยวก็โดนโวยอีก เเล้วอีกอย่างมันนัดเพื่อน ม.ต้น มาหมดด้วย ผมเลยต้องจำใจไป
พอถึงร้าน ผมกับเพื่อนก็นั่งกินเนื้อย่างเเล้วก็คุยกันด้วยความคิดถึง ตอนนั้นก็ดูเหมือนไม่มีอะไร เเต่พอจะกลับบ้าน เพื่อนผมคนนึงก็ชวนผมกับเพื่อนอีกคนไปเล่นบ้านมัน เพราะตอนนั้นก็ดึกมากเเล้ว เเล้วพวกผมก็ต้องไปโรงเรียนกันประมาณ ตี 4 ตี 5 มันบอกว่า “ไปเล่นไพ่ นอนดูหนังบ้านกู จะได้ไปโรงเรียนเลยไม่ต้องนอน เดี๋ยวกูให้พ่อขับรถไปส่ง” เเต่ตอนนั้นผมต้องไปส่งเพื่อนอีก 2 คน ก่อน
พอเช็คบิลเสร็จ ผมเลยยืมโทรศัพท์เพื่อนคนที่ผมจะไปบ้าน (โทรศัพท์ผมพัง) มันบอกว่าจะกลับไปจัดที่ไว้รอเพราะขี้เกียจไปกับผม สุดท้ายพอผมไปส่งเพื่อนเสร็จก็ต้องขี่ไปบ้านมันคนเดียวอีก
หลังจากที่ผมเเวะซื้อไพ่ที่เซเว่นเสร็จ ผมก็ขี่มอไซค์ไปบ้านมัน บ้านเพื่อนผมค่อนข้างอยู่ไกล ทางไปท่าช้าง เป็นถนนใหญ่ ข้างทางก็พอมีบ้าน เเต่มีน้อย ผมบิดไปเกือบร้อยเพราะอยากให้ถึงบ้านเพื่อนไว ๆ ในระหว่างที่ขี่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ขี่ไปด้วยร้องเพลงไปด้วย เเต่เเล้วผมก็ต้องตกใจ เพราะไฟบนถนนประมาณ 10 กว่าดวง ข้างหน้าผมก็ดับพรึ่บ เเล้วดับเเค่ช่วงนั้นด้วย ตรงผมกับตรงหลังจากช่วงนั้นยังติดอยู่ ใจก็เริ่มกลัวนิด ๆ เเต่พยายามจะไม่คิดอะไร
เเต่เเล้วผมก็เห็นผู้หญิงยืนอยู่ข้างถนน ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ตรงข้ามกับเสาไฟต้นเเรกที่ดับ ผมเห็นเค้ามองไปทางเสาไฟต้นเเรก ก็คิดในใจว่าคนหรือป่าววะ เพราะตอนนั้นมันมืดมาก บวกกับที่เค้าใส่ชุดสีดำด้วย ผมเลยเห็นไม่ค่อยชัด
ผมตัดสินใจขี่ผ่านเค้ามา ตอนผมมองกระจก เค้าก็ยังยืนหันหน้าไปทางเสาไฟอยู่ เเต่พอกลับมามองทางอีกที เค้าก็มายืนอยู่บนถนนเเล้ว เเต่ยืนอยู่ริม ๆ พอขี่ผ่านมาได้อีกผมก็หันมองกระจก ผมเห็นเค้ามองตามผม ตอนนั้นก็เริ่มไม่เเน่ใจเเล้วว่าใช่คนหรือป่าว ได้เเต่บิดหนีด้วยความกลัว คราวนี้ผมเห็นเค้ามายืนกลางถนนเลยครับ ผมขี่ชิดซ้ายเเล้วหลับตารีบขับหนี อีกนิดเดียวก็จะพ้นช่วงที่ไฟดับเเล้ว
เเล้วผมก็ผ่านเค้ามาได้อีก พอหันไปมองกระจกอีกรอบก็เห็นว่าเค้าค่อย ๆ หมุนตัวกลับมาทางผม ผมสังเกตเห็นว่าขาเค้าหัก หักเเบบไม่เป็นท่าเลย เเล้วผมก็รีบหันกลับมามองทาง ปรากฏว่าเค้ามายืนอยู่หน้ารถผมเเล้ว ผมรีบเหยียบเบรคสุดชีวิต (ผมติดนิสัยไม่ชอบเบรคมือ) เเต่ไม่ทัน ผมได้ชนเค้าไปเเล้ว ผมจอดรถตรงไฟดวงที่ดับต้นสุดท้ายพอดี พร้อมหายใจถี่บวกกับตกใจ ก็ยืนค้างสักพักเเล้วก็หันกลับไปมอง เเต่ก็ไม่เห็นอะไรเเล้ว มีเพียงเเค่ความมืด
ตอนเเรกผมคิดว่าจะลองลงไปดูใกล้ ๆ เเต่เปลี่ยนใจยืนดูอยู่ตรงนี้เเหละ ผมยืนมองอยู่นานเเต่ก็ไม่เห็นอะไร หรือผมเเค่คิดไปเอง เเต่ผมว่าดีเเล้วที่มันมืด ถ้าไฟติดเเล้วเห็นชัด ๆ นี่คงเเย่ เเต่ไม่ทันไรไฟที่ดับก็ติดพร้อมกันหมดเลย ก็คิดในใจว่ากูโดนเเน่ ๆ เเต่ก็ไม่มีอะไร
1
ผมพยายามมองดูดี ๆ เผื่อว่าจะขับชนคน เเต่ดูเเล้วก็ไม่เห็นอะไรเลยไปขึ้นรถเเล้วขี่ต่อ ขี่ไปได้ไม่เท่าไหร่ไฟช่วงนั้นก็ดับพร้อมกับเสียงดัง ตุ๊บ ! เสียงเหมือนคนกระโดดขึ้นนั่งเบาะหลัง มันยวบลงไปเลยผมรู้สึกได้ ก็เหลือบมองกระจกเเต่ก็ไม่เห็นอะไร ผมนี่รู้สึกโล่งใจสุด ๆ เลยครับ
เเต่ดีใจไม่ทันไรก็เห็นผมของผู้หญิงปลิวไปตามลม ก็เอาล่ะ โดนเเน่ ผมพยายามมองทางข้างหน้า เเต่เพื่อความเเน่ใจเลยเหลือบไปมองกระจกใหม่ คราวนี้ตาไม่ฝาดครับ ระหว่างที่ผมกำลังอึ้งเค้าก็ยื่นหน้ามาให้เห็นชัด ๆ เลยครับ ใบหน้าซีกนึงของผู้หญิงคนนั้นคือเละ ตากับหน้าซีกที่เละมันรวมกัน ผมของเค้าก็เข้าไปเเทรกตามเนื้อหน้า เลือดนี่ไม่ต้องพูดถึง เเล้วก็มีเสียงเบา ๆ ว่า ‘ฮิ...ฮิ...’ ตอนนั้นผมขยับตัวไม่ได้เลย อยากจะหันหน้าหนีเเต่มันก็อึ้งจนขยับไม่ได้เลย
พอเริ่มขยับตัวได้ผมก็จอดรถเเล้ววิ่งสุดชีวิต ตอนนั้นนั่งร้องไห้เลยครับ กลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไง เเต่ผมก็ยังเห็นเค้านั่งอยู่เบาะหลังนะ เเล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนให้ยืมโทรศัพท์ ผมเลยโทรไปขอให้เพื่อนมารับเพราะไม่ไหวเเล้ว อีกนิดก็ใกล้ถึงเเล้วด้วย เเต่เพื่อนผมบอกว่าพ่อไม่ให้ออกไป เเล้วก็ถามว่าผมเป็นอะไร เหมือนเค้าจะรู้ เค้าหันมามองผมพร้อมสายตาประมาณว่าไม่รอดหรอก
ตอนนั้นผมโกรธเพื่อนมาก โกรธที่ให้ไปส่ง โกรธผีด้วย คิดว่ากูไปทำอะไรให้วะ มาหลอกกูทำไม ผมฉุนขาดจะเดินไปด่าไปเเช่งเเม่ม เเต่พอเดินใกล้จะถึง เค้าก็หายไป ผมนี่อึ้งเข้าไปใหญ่ จากนั้นเลยรีบขี่รถไปต่อ ใช้สูตรเด็กเเว้นเลยครับ เอาตูดไว้เบาะหลัง คิดว่าผีนั่งไม่ได้เเน่นอน พอถึงยูเทิร์นก็ต้องขี่เข้าไปในซอยอีก ซอยข้าง ๆ ก็เป็นป่าน่ากลัวมาก บ้านก็ไม่ค่อยจะมี
2
พอถึงหน้าบ้านก็มีหมา 4-5 ตัว ออกมาเห่า ผมก็รีบโทรบอกให้เพื่อนออกมา เเต่เพื่อนบอกว่าออกมารอนานเเล้ว สรุปผมไปผิดบ้านครับ บ้านเพื่อนต้องตรงไปอีกหลัง ผมก็รีบเดินจะไปขึ้นรถ เเต่สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมไม่กล้าขึ้นเลยครับ เพราะหมามันไม่ได้เห่าผม มันเห่าเบาะหลังผมทั้ง ๆ ที่ไม่มีคนนั่ง ผมเลยรีบวิ่งไปบ้านเพื่อนทันที ส่วนรถก็ใช้ให้เพื่อนไปขี่มาให้ทีหลัง
1
ผมเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างให้เพื่อนฟัง เเต่เพื่อนก็เงียบไม่พูดอะไรเลย คืนนั้นทั้งคืนหมาบ้านเพื่อนก็พากันเห่าเบาะหลังรถผมทั้งคืนเลยครับ
เรื่องจาก : pantip.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา