น้อยแต่มาก
บ้านสลักเพชร เกาะช้าง
#picasjohouse
#เรื่องเล่าจากคลังภาพ
ท่าเทียบเรือบ้านสลักเพชร 23 พฤศจิกายน 2013
หลายคนคงเคยขับรถข้ามเรือเฟอรี่มาเที่ยวเกาะช้าง ทันทีที่เรือจอดเทียบท่าเราก็จะพบกับทางแยกซ้ายขวา ซึ่ง 90% ของปริมาณรถบนเรือก็จะเลี้ยวไปทางขวา มีเพียงรถไม่กี่คันที่เลือกจะเลี้ยวซ้าย แต่ดูเหมือนการเลือกอะไรที่แตกต่างมันติดเป็นนิสัยของเราไปซะแล้ว
เรื่องเฟอรี่ข้ามฟาก เกาะช้าง
"บ้านสลักเพชร" เชื่อไม่คุ้นหูฟังดูเหมือนเป็นจุดนวดคลายเส้น ย่านนี้ไม่ค่อยมีรีสอร์ท เท่าที่เห็นก็จะเป็นถนนเลียบทะเล กับชุมชนบ้านเรือนของผู้อยู่อาศัยบนเกาะและภูเขาสูงเป็นฉากหลัง
อย่างที่กล่าวมาข้างต้น รถราหรือผู้คนแถวนี้ไม่พลุกพล่านสักเท่าไร มันเงียบจนบางทียังแอบวังเวง เราขับรถมาเรื่อยๆ ถนนพาเราเข้าไปในหมู่บ้าน ผ่านวัดวาอาราม ยิ่งดูยิ่งไม่เหมือนมาเที่ยวแต่คล้ายกับจะมาหาญาติมากกว่า
แต่เนื่องจากถนนมีเส้นเดียว เรื่องหลงคงไม่ต้องกังวล ห่วงก็แต่ข้างหน้าจะมีอะไรให้เราได้พบได้เจอกันบ้าง พอเราหลุดจากหมู่บ้านมาก็เริ่มเห็นความงามที่แปลกไป วิวทะเลแถวนี้มีลักษณะเป็นสะพานท่าเทียบเรือคละเคล้ากันกับป่าชายเลน และคุ้งน้ำที่ถูกขนาบด้วยเนินเขากั้นไว้ด้วยเกาะเล็กๆ ตรงกลาง เรียกว่าเกาะพร้าวใน
วิวจากบ้านสลักเพชร พฤศจิกายน 2013
ทะเลตรงนี้คงไม่เหมาะจะเล่นน้ำ แต่ถ้าชอบนั่งชมบรรยากาศชิวๆ ฟังเสียงคลื่นเบาๆชมวิวทะเลที่เงียบสงบแล้วละก็ บอกเลยว่าแจ่มมาก
รีสอร์ทที่เราจองไว้ มีชื่อสือให้รู้ถึงตัวตนของเจ้าของว่า ปิกัสโจ้ แค่อ่านก็รับรู้ได้ถึงงานศิลปะ ตัวรีสอร์ทตั้งอยู่เกือบสุดถนน เรามาถึงที่นี่ก็เกือบค่ำแล้ว มีชายหนุ่มมาดเซอร์เดินออกมาต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี ก่อนที่จะพาเราไปโยนกระเป๋าใส่ห้อง แล้วเล่าทุกอย่างที่เราพึ่งกระทำได้ขณะที่อาศัยอยู่ในเคหสถานแห่งนี้ให้ฟัง
วิวจาก Picasjo House 22 พฤศจิกายน 2013
ที่แห่งนี้เป็นรีสอร์ทเล็กๆ มีห้องพักไม่ถึง 10 ห้อง เราเดินสำรวจเล็งปักหมุดจุดนั่งเล่นอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนกระเพาะอาหารจะเปลี่ยนหน้าที่ตัวเองให้เป็นเข็มทิศ ชี้ทางไปยังร้านใกล้ๆ ที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า จ๊าบ จ๊าบ
ตัวร้านเป็นลักษณะลานไม้ยกสูงตั้งอยู่กลางบึงใหญ่ ประดับด้วยโคมไฟโทนสีส้ม อาหารที่นี่รสชาติกำลังดี ราคาไม่โหดร้าย สามารถเลือกนั่งโต๊ะอาหาร หรือจะหาความตื่นเต้นด้วยการนั่งหย่อนขาในพื้นไม้เจาะรู ให้พอได้ลุ้นว่าจะมีใครหรืออะไรมาคว้าขาเราลงไป
ร้านจ๊าบ จ๊าบ ซีฟู้ด บ้านสลักเพชร เกาะช้าง
เสร็จจากมื้อเย็นเรามานั่งเล่นคุยกัน ที่สะพานไม้ในรีสอร์ท เครื่องดื่มสมุนไพรสีเหลืองทองเย็นได้ที่ ถูกหยิบติดมือมาเป็นเพื่อนร่วมสนทนา บรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติก ใต้แสงไฟและความมืดของท้องทะเล เผยให้เห็นดาวระยิบระยับแม้มีเมฆมากั้นบ้างบางเวลา
เรานั่งกันอยู่พักใหญ่ ก่อนลมทะเลแห่งป่าโกงกาง ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ จะพัดเอาหนังตาเราค่อยๆ ปิดลงส่งเราเข้านอน แล้วบอกลาค่ำคืนนี้ไป
ยามค่ำ Picasjo House 22 พฤศจิกายน 2013
เช้าวันใหม่เราตื่นมากับความสดใส พร้อมจัดแจงแต่งกาย ไปรับอาหารเช้าที่รังสรรค์ด้วยฝีมือของพ่อหนุ่มมาดเซอร์คนเมื่อวาน แกเป็นเจ้าของที่นี่นามว่าพี่โจ้
ในขณะที่เราทานอาหารไปผม ไม่เห็นใครเคลื่อนไหวจากห้องนอกจากเรา เพราะที่แท้เราเป็นแขกกลุ่มเดียวของแกในวันนี้ ถือเป็นโชคร้ายของพี่โจ้ แต่เป็นโชคดีของเราที่ได้ครอบครองรีสอร์ทแต่เพียงผู้เดียวไป 1 วัน
Picasjo House บ้านสลักเพชร เกาะช้าง
เราเดินมาเดินไป ถ่ายรูปเล่นเพลิดเพลินกับการตกแต่งประดับประดาและงานศิลปะของพี่โจ้ และด้วยความที่เราเป็นกรุ๊ปทัวร์กรุ๊ปเดียวของแก ผมสัมผัสได้ถึงความห่วงใย กลัวลูกค้าจะรู้สึกว่าที่พักของแกเงียบเหงาเกินไป แกจึงเอ่ยปากถามว่า
พี่โจ้ : " เดี๋ยวจะไปไหนต่อครับ "
ผม : " วันนี้จองที่พักไว้ที่คลองพร้าวครับ "
พี่โจ้ : " สนใจไปนั่งรถเล่นมั๊ยครับผมมีหาดลับอยู่"
หาดลับ ! ได้ยินดังนั้นผมกับภรรยาตอบตกลงทันที
พี่โจ้ไปจัดแจงเตรียมรถ 4x4 = 16 ของแกเป็น Jeep Cherokee คันโตออกมาแสดงแสนยานุภาพ ทีแรกเรากะจะขับรถตัวเองไป แต่แกบอกว่าอย่าเลยเส้นทางมันไม่ง่ายอย่างที่คิด
และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พี่โจ้พาเราขับรถบุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขาสูงชัน ปีนป่ายหินลอยก้อนเท่าหม้อหุงข้าวชาร์ป แถมยังได้ลุยลำธารเล็กๆ น้ำไม่ลึกมาก พอให้ได้ตื่นตาตื่นใจ
เส้นทางไปหาดลับ
เวลาผ่านไปไม่นาน ม่านแห่งป่าเขาก็เปิดออก ให้เห็นแสงสว่างจ้า เบื้องหน้าเป็นหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าตัดเขียวมรกตใสกิ้งๆ ตอนแรกผมไม่ทราบชื่อ มาทราบภายหลังจากผู้รอบรู้อย่าง Google ว่าชื่อ "หาดหวายแฉก"
หาดทรายที่นี่เงียบสงบ สวยงามและไร้ผู้คน เราเดินสำรวจพื้นที่ไปถ่ายรูปไป จนมาพบกับความงามที่แท้จริงซ่อนอยู่ท้ายหาด
มันคือน้ำทะเลสีเขียวเล่นชั้น ไล่โทนจากอ่อนไปเข้ม ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าอ่อน มันเป็นจุดที่น้ำจืดจากลำธาร มาพบเจอกับน้ำเค็มจากทะเล ก่อให้เกิดสีสันของธรรมชาติที่แปลกตา
อีกทั้งยังนำพาตะกอนจากภูเขาสูงลงมา เป็นอาหารอันโอชะของสัตว์น้ำน้อยใหญ่ที่แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย
ลักษณะเช่นนี้ดูเหมือนจะเป็นจุดเด่นของเกาะช้าง ที่มีน้ำตก ลำธารหิน และทะเลอยู่ไม่ห่างกัน น้ำจากน้ำตกไม่ได้ผ่านดินโคลนใดๆมา ก่อนจะถึงจุดสิ้นสุดลำธาร มันจึงใส่สะอาดจนสามารถมองเห็นทะลุไปจนถึงพื้นทรายด้านล่าง ความสวยงามที่เห็นด้วยสองตา ผมไม่รู้จะบรรยายได้อย่างไร ได้แต่เพียงเก็บภาพไว้ดูยามคิดถึง
หาดหวายแฉก เกาะช้าง
ความใส่ใจบริการเป็นมาตรฐานที่ดีของผู้ให้บริการ แต่พี่โจ้ได้ให้นิยามของคำว่าใส่ใจที่เหนือขึ้นไปอีกขั้น ไม่ใช่แค่ทำให้ครบตามรูปแบบหรือเอกสาร แต่กลับมองลึกไปถึงจิตใจของผู้ใช้บริการ
ทั้งที่ผมและภรรยาไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่ด้วยความใส่ใจ กลัวสองผัวเมียนี่จะเบื่อความเงียบของรีสอร์ทแก ก็ไปสรรหากิจกรรมสุดเจ๋งมาให้ และไม่ได้ตีราคาน้ำใจนี้ออกมาเป็นตัวเงิน ทำให้การมาเกาะช้างครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ผมจะไม่มีวันลืม
ตั้งแต่ย่างกรายมาที่บ้านสลักเพชร ผมพบว่าผู้คนที่นี่น้อย เงินที่ใช้ไปก็น้อย แสงสีความจอแจก็น้อย แต่ มากความสุข มากความสวย มากความสงบ มากความใส่ใจ และมากน้ำใจ
ใครเบื่อเกาะช้างแบบเดิมๆ ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศ พบกับความน้อยแต่มากที่นี่ได้ครับ Picasjo House บ้านสลักเพชร แล้วคุณจะหลงรัก
เขียนโดย โจน ทะยาน ตะลุย
#เที่ยวเกาะช้าง #ท่องเที่ยวไทย
#รายการลัดเลาะ #บ้านสลักเพชร #picasjohouse
อีกช่องทางในการติดตามลัดเลาะ
- 10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
