27 มี.ค. 2021 เวลา 16:23 • ไอที & แก็ดเจ็ต
Python101 : บทที่ 3 Built-in Data Types
หายไป 10 กว่าวัน ต่อกันบทที่ 3 มาเรียนรู้ เรื่องของ Data Types หรือประเภทของข้อมูล ใน Python
Python101 EP3.
บทที่ 1 เริ่มพื้นฐาน จากบทที่ 1 ของ Python101 ไปอ่านได้ที่
บทที่ 2 คำสั่งการเขียนโปรแกรมที่ต้องรู้ (algorithm) อ่านได้ที่
เริ่มเปิดโปรแกรมสำหรับเขียน Python ได้ที่เวป Colab -->
รูปที่ 1 : New Notebook
สร้าง New Notebook กดตามรูปที่ 1 และแก้ไขชื่อ Notebook ตามรูปที่ 2
รูปที่ 2 : แก้ไขชื่อเป็น Python101_Lession 3
ประเภทของข้อมูล : Data Type
Text Type: str
Numeric Types: int, float, complex
Sequence Types: list, tuple, range
Mapping Type: dict
Set Types: set, frozenset
Boolean Type: bool
Binary Types: bytes, bytearray, memoryview
x = 5
print(type(x))
พิมพ์ x=5 , print(type(x)) เพื่อแสดงประเภทของข้อมูล
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 3
รูปที่ 3 : แสดงประเภทของข้อมูล
พิมพ์ ค่า x ในรูปแบบตัวอักษร ให้แทนค่า
x = "Hello World"
#display x:
print(x)
แสดงผลค่า x
#display the data type of x:
print(type(x))
แสดงประเภทข้อมูล ของค่า x
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 4
รูปที่ 4 : แสดงประเภทของข้อมูลตัวอักษร string
x = 20.5
แทนค่า x ด้วย 20.5 (เลขทที่เป็นทศนิยม= float)
#display x:
print(x)
แสดงค่าของ x ออกมา
#display the data type of x:
print(type(x))
แสดงประเภทข้อมูลของ x
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 5
รูปที่ 5 : แสดงประเภทของข้อมูลตัวเลขแบบมีทศนิยม Float
x = 1j
แทนค่า x ด้วยค่า 1j (ผสมระหว่างตัวเลขและตัวอักษร = Complex)
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 6
รูปที่ 6 : แสดงประเภทของข้อมูล Complex
x = ["apple", "banana", "cherry"]
แทนค่า x ด้วยชุดข้อมูล 3 ตัว คือ apple , banana , cherry
(ชุดข้อมูล = List)
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 7
รูปที่ 7 : แสดงประเภทของข้อมูล List
x = ("apple", "banana", "cherry")
แทนค่า x ด้วยชุดข้อมูล 3 ตัว คือ apple , banana , cherry
(ชุดข้อมูล = Tuple) แตกต่างจาก List ที่ใช้ [ ? , ? ]
ส่วน Tuple ใช้ ( ? , ? )
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 8
รูปที่ 8 : แสดงประเภทของข้อมูล Tuple
x = range(6)
แทนค่า x ด้วย range 0 ถึง 6
#display x:
print(x)
2
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 9
รูปที่ 9 : แสดงประเภทของข้อมูล Range
x = {"name" : "John", "age" : 36}
แทนค่า x ด้วย ค่า Data Dictionary
name = John
age = 36
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 10
รูปที่ 10 : แสดงประเภทของข้อมูล Dict
x = {"apple", "banana", "cherry"}
กำหนดค่า x ด้วยชุดข้อมูล 3 ตัว คือ apple , banana , cherry
(ชุดข้อมูล = Set) แตกต่างจาก
List ที่ใช้ [ ? , ? ]
Tuple ใช้ ( ? , ? )
Set ใช้ { ? . ? }
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 11
รูปที่ 11 : แสดงประเภทของข้อมูล Set
x = frozenset({"apple", "banana", "cherry"})
Frozenset คือ คลาสที่มีคุณลักษณะของ set โดยข้อมูลแต่ละตัวจะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีการกำหนดค่าลงไปแล้ว
ขณะที่ tuples คือ List ที่ไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ (immutable)
สำหรับ frozensets ก็คือ Set ที่ไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ (immutable)
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 12
รูปที่ 12 : แสดงประเภทของข้อมูล Frozenset
x = True
แทนค่า x เป็นค่าจริง True เป็นตัวแปรหรือ data type ที่เป็น Boolean
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 13
รูปที่ 13 : แสดงประเภทของข้อมูล Boolean
x = b"Hello"
แทนค่า x ด้วยประเภทข้อมูลที่เป็น Bytes
#display x:
print(x)
#display the data type of x:
print(type(x))
พิมพ์ตามตัวอย่างรูปที่ 14
รูปที่ 14 : แสดงประเภทของข้อมูล Bytes
สำหรับวันนี้เรื่องของประเภท Data Type ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ยากและยาวเกินไป เรามาต่อกันในตอนต่อไปของการใช้งาน Data Type แต่ละตัว
'☺✌✌✌
===============================================

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา