26 มี.ค. 2021 เวลา 07:39 • หนังสือ
#28 เล่ม 2 บทที่ 10 หน้า 185 ~ 192
...
N : แต่ว่าสังคมที่ไม่มีกฎหมายคือสังคมที่ล้าหลังและป่าเถื่อนนะครับ ใคร "มีกำลังหรือมีอำนาจ" ก็เป็นฝ่ายถูกไป กฎหมายคือความพยายามร่วมกันของมนุษย์ที่จะสร้างกรอบให้กับการแข่งขัน เพื่อรับประกันว่าสิ่งถูกต้องเท่านั้นถึงจะได้รับชัยชนะ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเข้มแข็งหรือว่าอ่อนแอ ถ้าไม่มีแนวทางปฏิบัติที่พวกเราตกลงร่วมกันแล้ว พวกเราจะอยู่ร่วมกันได้ยังไง❓
...
...
...
G : ฉันไม่ได้กำลังพูดถึงโลกที่ไม่ต้องมีแนวทางปฏิบัติหรือข้อตกลงร่วมกันเลย แต่ฉันกำลังแนะนำให้ข้อตกลงร่วมกันและกฎหมายของพวกเธอนั้นควรมีรากฐานมาจากความเข้าใจที่มากขึ้น คำจำกัดความที่ยิ่งใหญ่ขึ้นและดีกว่าเดิมของคำว่า "ผลประโยชน์ส่วนตน" ก็เท่านั้น
สิ่งที่กฎหมายส่วนใหญ่สื่อออกมาจริงๆก็คือ 💢เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้มีอำนาจสูงสุดในหมู่พวกเธอเท่านั้น💢
เอาแค่ตัวอย่างเดียวก็ได้ เรื่องการสูบบุหรี่
ตอนนี้กฎหมายบอกว่า พวกเธอไม่สามารถปลูกและใช้พืชบางชนิดได้ ซึ่งในที่นี้ก็คือต้น "กัญชง" (hemp)★ รัฐบาลบอกเหตุผลกับพวกเธอว่า เพราะมันไม่ดีต่อตัวเธอ
★อ่านเพิ่มเติมเรื่องกัญชงว่าแตกต่างหรือเหมือนกับกัญชาอย่างไร ได้เพิ่มเติมตามลิ้งค์ครับ (ผมแนะนำว่าควรอ่าน) ~ แอดมิน
แต่รัฐบาลเดียวกันนี้กลับบอกว่า ไม่เป็นไรที่จะปลูกและใช้พืชอีกประเภท ซึ่งก็คือ "ต้นยาสูบ" (tobacco) ไม่ใช่ว่ามันดีต่อตัวเธอหรอกนะ (จริงๆรัฐบาลบอกเองด้วยซ้ำว่ามันไม่ดี) แต่เพราะเห็นว่าพวกเธอทำอย่างนั้น (สูบ) มาตลอดอยู่แล้ว
เหตุผลที่แท้จริงที่พืชชนิดแรก (กัญชง) ไม่ถูกกฎหมายแต่ชนิดที่สอง (ยาสูบ) ผ่านฉลุยนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ หรือพูดอีกอย่างก็ได้ว่าเป็นเรื่องของ "อำนาจ"
ฉะนั้น กฎหมายของพวกเธอหาได้สะท้อนภาพความคิดของสังคมและภาพที่สังคมปรารถนาที่จะเป็นหรอก 🔸กฎหมายของพวกเธอนั้นสะท้อนว่าอำนาจอยู่ที่ตรงไหนต่างหาก🔸
N : พูดอย่างนี้ไม่ยุติธรรมเลยครับ พระองค์หยิบยกเอาเรื่องที่มีคนโต้แย้งกันอยู่แล้วอย่างเห็นได้ชัดมาพูด แต่โดยปกติเรื่องทั่วๆไปไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักหน่อย
G : ตรงกันข้ามเลย ส่วนใหญ่แล้วเป็นอย่างนั้นต่างหาก
N : ถ้าอย่างนั้นแล้วทางแก้อยู่ตรงไหนกันครับ❓
G : มีกฎหมาย (ซึ่งแท้จริงแล้วถือเป็นข้อจำกัด) ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
เหตุผลที่ต้นกัญชงผิดกฎหมายนั้น `ดูเหมือนว่า` เกี่ยวข้องกับเรื่องของสุขภาพ แต่ความจริงก็คือ ต้นกัญชงไม่ใช่สารเสพติดและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากเท่ากับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่สองอย่างหลัง "กลับได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย"
ทำไมถึงห้ามปลูกต้นกัญชงรู้ไหม❓ เพราะถ้ายอมให้ปลูกได้ ผู้ปลูกฝ้าย ผู้ผลิตไนลอนและไหมสังเคราะห์ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในแวดวงของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ กว่าครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องออกไปจากธุรกิจเหล่านี้น่ะสิ
ต้นกัญชงคือหนึ่งในวัตถุดิบที่เป็นประโยชน์ แข็งแรง เหนียว และคงทนที่สุดในโลกของเธอ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าต้นกัญชงอีกแล้วสำหรับการผลิตเส้นใยในการทำเครื่องนุ่งห่ม เป็นวัสดุสำหรับทำเชือก รวมไปถึงการเป็นสิ่งที่ปลูกและเก็บเกี่ยวได้ง่ายสำหรับการทำกระดาษ
พวกเธอตัดต้นไม้เป็นล้านต้นต่อปีเพียงเพื่อจะเอามาทำกระดาษหนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ให้พวกเธอได้อ่านเรื่องราวความวิบัติของผืนป่าบนโลก ทั้งที่จริงแล้วพวกเธอสามารถนำต้นกัญชงมาทำหนังสือพิมพ์วันอาทิตย์ได้เป็นล้านๆฉบับโดยไม่ต้องตัดต้นไม้สักต้น รวมถึงเอามาแทนวัตถุดิบได้หลายอย่างมาก ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่ากันสิบเท่า
เงื่อนปมมันอยู่ตรงนี้ ใครบางคนจะต้อง `สูญเงิน` ไปถ้ายอมให้มีการปลูกพืชมหัศจรรย์ชนิดนี้ (ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาที่เกินธรรมดาอีกด้วย) และนี่คือเหตุผลว่าทำไมกัญชา★ ถึงเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศของเธอ
★กัญชาคือดอกของต้นคานาบิส
~ แอดมิน
นี่คือเหตุผลเดียวกับที่ว่าทำไมถึงต้องใช้เวลานานนัก
▶️ กว่าจะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาได้
▶️ กว่าจะให้การดูแลสุขภาพด้วยราคาที่ย่อมเยาว์และสมเหตุสมผลได้
▶️ กว่าจะใช้พลังงานความร้อนและพลังงานจากแสงอาทิตย์ในทุกครัวเรือนได้
พวกเธอมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่จะผลิต`ทุกอย่างที่ว่ามานี้`มาตั้งนมนานแล้ว ทำไมถึงยังไม่มีใช้สักทีล่ะ❓
ดูเอาก็แล้วกันว่าใครจะต้องสูญเสียเงินถ้าพวกเธอมีของพวกนี้ใช้ แล้วพวกเธอจะได้พบกับคำตอบ
นี่คือสังคมเกรียงไกรที่พวกเธอภูมิใจกันนักหนาใช่ไหม❓
สังคม "ยิ่งใหญ่" ที่ต้องให้ฉุดกระชากลากถู เตะถีบ และแหกปากร้องตะโกนก่อน 💢ถึงจะคิดเรื่องผลประโยชน์ส่วนรวมได้💢
เมื่อไหร่ที่มีคนพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ส่วนรวมหรือผลประโยชน์ร่วมกันขึ้นมา ทุกคนจะโวยวายว่า "ไอ้พวกคอมมิวนิสต์❗"
ในสังคมของพวกเธอ หากการจัดหาสิ่งใดๆก็ตามให้แก่ผู้คนส่วนใหญ่โดยที่ไม่ได้สร้างผลกำไรก้อนโตให้กับใครบางคนแล้วล่ะก็ "สิ่งที่ว่ามานี้มักจะถูกละเลยไปเสียอย่างนั้น"
ประเทศของเธอไม่ได้เป็นอย่างนี้อยู่ประเทศเดียวหรอก แต่เป็นเหมือนกันหมดทั้งโลกนั่นล่ะ
ฉะนั้น "คำถามขั้นพื้นฐาน" ที่มนุษยชาติเผชิญอยู่ในตอนนี้ก็คือ :
✴️จะให้ผลประโยชน์สูงสุดและผลประโยชน์ส่วนรวมของมนุษยชาติมาแทนที่ผลประโยชน์ส่วนตนได้บ้างไหม❓
✴️ถ้าตอบว่าได้แล้วต้องทำอย่างไร❓
ในสหรัฐฯพวกเธอพยายามทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมและทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดผ่านทางตัวบทกฎหมาย ซึ่งก็ล้มเหลวไม่มีชิ้นดี
อเมริกาเป็นประเทศที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดในโลก แต่กลับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการตายของทารกแรกเกิดสูงที่สุด ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นไปได้❓
ก็เพราะคนจนไม่มีปัญญาหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลก่อนและหลังคลอด 💢ก็เพราะสังคมของพวกเธอถูกขับเคลื่อนด้วยผลกำไร💢
เรื่องที่ฉันยกมาพูดเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเดียวของความล้มเหลวอันน่าเศร้า การที่เด็กทารกต้องล้มตายในอัตราที่สูงกว่าประเทศอุตสาหกรรมอื่นเกือบทั้งหมดควรรบกวนจิตใจของพวกเธอได้ไม่น้อย แต่เปล่าเลย มันบอกได้อย่างชัดเจนว่าสังคมของพวกเธอให้ความสำคัญกับอะไร
ประเทศอื่นๆพวกเขาดูแลผู้เจ็บป่วย คนยากจน ผู้สูงวัย และผู้ทุพพลภาพ แต่พวกเธอกลับเฝ้าประคบประหงมคนร่ำรวย ผู้มั่งคั่ง ผู้มีอิทธิพล และคนชั้นสูง
ชาวอเมริกันวัยเกษียณกว่า 85% ต้องมีชีวิตที่`ยากจนข้นแค้น` หลายคนในกลุ่มนี้และผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ใช้ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลท้องถิ่น (อนามัย) เหมือนเป็น "แพทย์ประจำครอบครัว" จะได้รับการรักษาก็ต่อเมื่อถึงขั้นใกล้ตายแล้ว แถมยังแทบไม่ได้รับคำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเลยด้วย
เธอเห็นมั้ยว่ามันหากำไรจากคนที่ไม่ค่อยมีเงินไม่ได้ คนพวกนี้ก็เลย "ไม่มีประโยชน์"
นี่ล่ะคือ สังคมอันยิ่งใหญ่ของพวกเธอ❗
N : พระองค์พูดซะฟังดูแย่ชะมัดเลย แต่อเมริกาก็ช่วยเหลือคนยากคนจนหรือคนที่ประสบภัยทั้งในและนอกประเทศมากกว่าประเทศอื่นๆในโลกนะครับ
G : อเมริกาได้ช่วยไปเยอะ อันนี้ไม่ปฏิเสธ แต่เธอรู้หรือเปล่าว่าเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของทั้งประเทศแล้ว อเมริกาให้ความช่วยเหลือด้านการต่างประเทศในสัดส่วนที่น้อยกว่าประเทศเล็กๆอีกหลายประเทศอยู่มากเหลือเกิน
ประเด็นก็คือ (ก่อนจะชื่นชมตัวเองมากเกินไป) เธอควรมองโลกรอบๆตัวของเธอบ้าง เพราะถ้าเธอบอกว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่โลกของเธอสามารถทำให้แก่ผู้ด้อยโอกาสได้แล้วล่ะก็ พวกเธอทั้งหมดยังต้องเรียนรู้อีกมาก
พวกเธอใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่เน่าเปื่อยและผุพัง พวกเธอถึงขั้นผลิตสิ่งของเกือบทุกอย่างขึ้นมาในแบบที่วิศวกรเรียกว่า 💢วางแผนไว้ให้ล้าสมัย💢
▶️ รถยนต์ราคาแพงขึ้นสามเท่าแต่อายุการใช้งานลดลงสามเท่า
▶️ เสื้อผ้าฉีกขาดหลังซักไปได้สิบครั้ง
▶️ พวกเธอใส่สารเคมีเข้าไปในอาหารเพื่อให้วางไว้บนชั้นขายของได้นานขึ้น แม้นั่นจะหมายถึงว่าพวกเธอจะอยู่บนโลกนี้ได้สั้นลงก็ตาม
▶️ พวกเธอสนับสนุน ส่งเสริม และผลักดันให้วงการกีฬาจ่ายค่าจ้างแบบลืมตายแก่นักกีฬาที่เสียเหงื่อไปเพียงไม่กี่เม็ด
▶️ ขณะที่ครู นักบวช และนักวิจัยที่ต่อสู้เพื่อหาทางรักษาโรคร้ายที่กำลังฆ่าพวกเธออยู่กลับต้องออกมาเร่ขอรับเงินบริจาคอย่างน่าสมเพช
 
▶️ ในแต่ละวันพวกเธอทิ้งขว้างอาหารจากซูเปอร์มาเก็ต ภัตตาคาร และบ้านเรือนไปในปริมาณมากกว่าที่ต้องใช้เลี้ยงคนครึ่งโลกเสียอีก
นี่ไม่ได้กล่าวหานะ
🔸แค่ให้ข้อสังเกตเท่านั้น🔸
และก็ไม่ใช่อเมริกาเพียงประเทศเดียว 💢เพราะทัศนคติที่ทำให้หัวใจป่วยไข้นี้ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก💢
⏺️ คนยากจนทุกแห่งหนต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบเพียงเพื่อให้มีชีวิตรอด
⏺️ ขณะที่ผู้มีอำนาจไม่กี่คนกลับหาทางปกป้องและเพิ่มจำนวนเงินในกระเป๋าให้ล้นขึ้นไปอีก นอนบนผืนผ้าไหม แต่ละเช้าตื่นมาเข้าห้องน้ำที่ใช้สุขภัณฑ์ที่ทำมาจากทองคำ
⏺️ เด็กๆที่อดอยากจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกต้องล้มตายในอ้อมกอดของแม่ที่กำลังร่ำไห้
⏺️ ทว่าเหล่า "ผู้นำประเทศ" กลับฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งทำให้อาหารบริจาคไปไม่ถึงมือประชาชนผู้หิวโหย
ดูเหมือนกับว่าไม่มีใครมีพลังอำนาจพอที่จะเปลี่ยนสภาพการณ์เหล่านี้ได้ แต่ความจริงก็คือ 💢พลังอำนาจไม่ใช่ปัญหาหรอกแต่เป็นเพราะไม่มีใครใส่ใจต่างหาก💢
ฉะนั้นมันจะเป็นแบบนี้ต่อไป
✴️ตราบที่ไม่มีใครเห็นความทุกข์ยากของผู้อื่นว่าเป็นของตัวเอง✴️
N : ทำไมพวกเราถึงเป็นอย่างนั้นล่ะครับ❓ ทำไมพวกเราที่เห็นความโหดร้ายอยู่ทุกวี่วันถึงปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นต่อไปได้❓
G : ก็เพราะพวกเธอไม่สนใจ (ไม่แคร์) ไง พวกเธอไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร ทั้งที่โลกกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตแห่งจิตสำนึก พวกเธอต้องตัดสินใจแล้วล่ะว่าจะ`ใส่ใจกันและกัน`ได้บ้างหรือเปล่า
N : มันดูเป็นคำถามที่น่าสมเพชเหลือเกินครับที่จะถาม ทำไมพวกเราถึงไม่รักสมาชิกในครอบครัวของตัวเองล่ะครับ❓
G : จริงๆพวกเธอน่ะรักสมาชิกในครอบครัวของตัวเอง เพียงแต่ยังมีมุมมองที่จำกัดอยู่มากว่าสมาชิกในครอบครัวของพวกเธอมีใครบ้าง
💢 พวกเธอไม่มองว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโลก
💢 ฉะนั้นปัญหาของมนุษย์ทั้งโลกจึงไม่ใช่ปัญหาของพวกเธอ
N : เราจะให้คนบนโลกเปลี่ยนโลกทัศน์ (มุมมองในระดับโลก) ได้ยังไงครับ❓
G : ขึ้นอยู่กับว่าพวกเธอต้องการเปลี่ยนเป็นอะไร
N : พวกเราจะขจัดความปวดร้าวและความทุกข์ระทมให้มากกว่านี้ได้ยังไงครับ❓
G : ✴️ด้วยการขจัดการแบ่งแยกทั้งหมดระหว่างพวกเธอออกไป ด้วยการสร้างโลกในรูปแบบใหม่ขึ้นมา ด้วยการรักษามันไว้ให้อยู่ภายใต้กรอบของ `แนวคิดใหม่`✴️
N : ซึ่งก็คือ❓
G : ซึ่งก็คือ โลกทัศน์ที่ต่างไปจากปัจจุบันอย่างขุดรากถอนโคน
ปัจจุบัน พวกเธอเห็นโลก (พูดในเชิงภูมิรัฐศาสตร์) ว่าเป็นการรวมตัวกันของชาติรัฐ และแต่ละชาติรัฐ (ประเทศ) ต่างมีอำนาจปกครองเหนือดินแดนของตัวเอง แยกขาดและเป็นอิสระจากกัน
โดยทั่วไปปัญหาภายในของชาติรัฐอิสระต่างๆเหล่านี้จะไม่ถือว่าเป็นปัญหาของทั้งกลุ่ม ถ้าไม่หรือจนกว่าจะส่งผลกระทบกับทั้งกลุ่ม (หรือกระทบกับกลุ่มคนที่มีอำนาจสูงสุดในกลุ่มนั้น) ให้เดือดร้อน
กลุ่มของชาติรัฐ★จะมีปฏิกิริยาต่อสภาพเงื่อนไขหรือต่อปัญหาของแต่ละประเทศที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของกลุ่มผู้มีอำนาจเป็นหลัก ถ้าไม่มีใครในกลุ่มผู้มีอำนาจ "ต้องสูญเสียผลประโยชน์" สภาพของประเทศที่อยู่ในกลุ่มจะถูกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม (จะฉิบหายแค่ไหนก็ช่าง) ไม่มีใครสนใจหรอก
★เช่นกลุ่มสหภาพโซเวียต กลุ่มสหภาพยุโรป (EU) กลุ่มเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (AEC) เป็นต้น ~ แอดมิน
คนนับหมื่นสามารถหิวจนตายได้ในแต่ละปี คนนับพันสามารถถูกฆ่าตายได้ในสงครามกลางเมือง ผู้มีอิทธิพลสามารถปล้นชิงทรัพย์ชาวบ้านได้ จอมเผด็จการพร้อมลูกน้องติดอาวุธสามารถข่มขืน ปล้น และฆ่าได้ตามใจ นักการเมืองผู้มีอำนาจจะลิดรอนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างไรก็ได้ และพวกเธอที่เหลือไม่คิดจะทำอะไรเลยสักอย่าง พวกเธอบอกว่ามันเป็น 💢ปัญหาภายใน💢
แต่เมื่อมันกระทบกับผลประโยชน์`ของเธอ`ขึ้นมา เมื่อการลงทุน`ของเธอ` ความปลอดภัย`ของเธอ` คุณภาพชีวิต`ของเธอ` อยู่ในภาวะล่อแหลม เธอจะรวบรวมสรรพกำลังของทั้งประเทศ พยายามปลุกระดมคนทั้งโลกให้หนุนหลังเธอ แล้วก็บุกตะลุยเข้าไปในที่ที่แม้แต่ทูตสวรรค์ยังไม่กล้าเหยียบย่าง
💢เธอโกหกทั้งเพ อ้างว่าที่ทำไปก็เพราะเหตุผลทางมนุษยธรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ถูกกดขี่ ทั้งๆที่ความจริงแล้วเพียงทำไปเพราะต้องการปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น💢
เรื่องนี้พิสูจน์ได้ง่ายๆเลยก็คือ... 💢ที่ไหนไม่มีผลประโยชน์ที่นั้นเธอจะไม่สนใจอะไรเลย💢
N : กลไกทางการเมืองที่ไหนในโลกก็ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์กันทั้งนั้น มีอะไรใหม่บ้างมั้ยครับเนี่ย❓
G : บางอย่างจำเป็นต้องใหม่ถ้าเธอหวังให้โลกของเธอเปลี่ยนไปจากเดิม
✴️เธอจำต้องเริ่มหัดมองผลประโยชน์ของผู้อื่นว่าเป็นของเธอด้วยเหมือนกัน✴️
 
ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเธอได้สร้างความจริงในระดับโลกขึ้นมาใหม่และบริหารปกครองให้สอดคล้องกับความจริงนั้น
N : พระองค์กำลังพูดถึงเรื่องหนึ่งโลกรัฐบาลเดียวหรือครับ❓ (รัฐบาลโลก)
G : ใช่
(จบ)(บทที่ 10)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา