28 มี.ค. 2021 เวลา 13:17 • บันเทิง

เรื่องเล่าที่ 4 : ผีช่องแอร์

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่คุณดิวเจอเมื่อตอนเล่นดนตรีที่โรงเเรมเเห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่เมื่อประมาณ 7 ปีที่เเล้ว เพื่อนในวงดนตรีมีด้วยกันทั้งหมด 6 คน จะเล่นดนตรีด้วยกันทุกวันในช่วง 3 ทุ่ม ถึง ตี 1 ส่วน 5 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืนจะเป็นเวลาพัก โดยจะมีห้องรับรองให้ที่ชั้นบน (ห้องไหนก็ได้) สามารถเลือกเข้าไปพักได้เลย เเต่วันนั้นโรงเเรมได้มีคนเข้าพักจนเต็มทุกห้อง เหลือเพียงเเค่ห้องเดียวที่ปกติจะเปิดให้คนเข้าพักที่ชั้น 9 ห้อง 409 ลักษณะห้องจะเป็นสี่เหลี่ยม มีช่องเเอร์อยู่ด้านบน
ระหว่างที่กำลังพัก คุณดิวเเละเพื่อน ๆ ก็หาไพ่มาเล่นฆ่าเวลาไปพลาง ๆ มีมือกีตาร์ในวงคนนึงชื่อคุณเป้ สังเกตเห็นผ้าผืนเล็ก ๆ ห้อยลงมาจากช่องเเอร์ เลยลุกขึ้นไปดึงมันลงมา เเต่เเทนที่มันจะหลุด มันกลับยาวลงมาเรื่อย ๆ คุณเป้สาวผ้าผืนนั้นจนมันยาวลงมาถึงพื้น ด้วยความสงสัย คุณเป้เลยไปเอาเก้าอี้มาตั้งเพื่อที่จะขึ้นไปดูในช่องเเอร์ ส่วนคุณดิวเเละคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจอะไรมากนักเพราะกำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่
คุณเป้ขึ้นไปเหยียบบนเก้าอี้เเล้วดึงฝาครอบช่องเเอร์ออกมาพร้อมกับชะโงกหน้าขึ้นไปมอง เเต่ก็ต้องหยุดชะงัก เเล้วคุณเป้ก็ลงมาจากเก้าอี้ วางฝาครอบช่องเเอร์ที่พื้นก่อนจะหันบอกกับทุกคนด้วยหน้าที่นิ่ง ๆ ว่า “เห้ย ข้าไปละนะ มีธุระ เดี๋ยวไปนั่งรอข้างล่างนะ” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปเลย
เเล้วเพื่อนในกลุ่มคนนึงก็พูดขึ้นมาว่า “ไอ้เป้มันเป็นไรวะ” เเล้วก็เดินไปดูหน้าห้อง ก็เห็นว่าคุณเป้กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางบันได เเล้วก็ปิดประตูจะเดินกลับมาเล่นไพ่ต่อ เเต่จังหวะที่เดินผ่านช่องเเอร์ เพื่อนคนนี้ก็สะดุ้งขึ้นมาพร้อมกับเเหงนขึ้นไปมองที่ช่องเเอร์เเล้วก็ยืนนิ่งไปพักนึง สักพักก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวข้าไปกับไอ้เป้มันละกัน” จากนั้นก็รีบเดินจ้ำออกจากห้องไป
คุณดิวกับเพื่อนอีก 3 คนที่เหลือ ก็ทำหน้างง ๆ เเล้วก็มีเพื่อนคนนึงพูดว่า “เเล้วทำไมมันไม่ปิดช่องเเอร์ให้เค้าก่อนล่ะนั่น” พูดจบก็ลุกขึ้นไปหยิบฝาครอบช่องเเอร์เเล้วก็หันมาพูดว่า “ช่วยมาจับเก้าอี้ให้คนนึงดิ” เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ คุณดิวก็ลุกไปจับเก้าอี้ให้
ส่วนเพื่อนที่กำลังถือฝาครอบช่องเเอร์ที่กำลังจะยกไปปิด อยู่ ๆ ก็มีอาการกระตุกเกร็งไปจังหวะนึงเเล้วก็นิ่งไป เพื่อนที่ช่วยจับเก้าอี้ให้ก็มีอาการไม่ต่างกัน ทั้ง 2 คน รีบเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน คุณดิวที่เห็นเเบบนั้นก็เริ่มจับสังเกตอะไรได้บางอย่าง คิดในใจว่าต้องมีอะไรสักอย่างอยู่ในช่องเเอร์เเน่ ๆ
คุณดิวกับเพื่อนที่เหลือเลยลุกไปชะเง้อดูในช่องเเอร์ เเต่สิ่งที่คุณดิวกับเพื่อนเห็นในตอนนั้นก็คือผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดสีขาวพริ้วอยู่ในช่องเเอร์ ใบหน้าสีดำเทา ดวงตากลมโต อ้าปากค้าง เส้นผมสีดำยาวปลิวสยายตามเเรงลมของเเอร์ มือซ้ายเเละขาซ้ายยันผนังช่องเเอร์ด้านซ้าย ส่วนมือขวาเเละขาขวายันผนังช่องเเอร์ด้านขวาอยู่ พร้อมโน้มหัวตะเเคงลงมามองหน้าคุณดิวในท่าทางที่เก้ ๆ กัง ๆ เหมือนกำลังพยายามยันเพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงมาข้างล่าง
ตอนนั้นคุณดิวรู้สึกช็อกจนตัวเย็นเฉียบ ขาทั้งสองข้างตายสนิท ได้เเต่ยืนตัวเเข็งอ้าปากค้าง สักพักก็เหมือนจะพยายามรวบรวมสติได้ พร้อมลากขาที่หนักอึ้งของตัวเองออกมาจากห้อง เพื่อนที่อยู่ด้วยก็เดินตามหลังมาติด ๆ เเล้วพูดเสียงอ่อย ๆ ว่า “อย่าวิ่งนะ ๆ” จนลงมาถึงข้างล่าง
คุณดิวรีบตรงดิ่งเข้าไปหาพนักงานที่เคาท์เตอร์เเล้วถามว่า “พี่ มีเเม่บ้านหรือคนเฒ่าคนเเก่ที่อยู่ที่นี่มั้ย” พนักงานก็ถามกลับว่า “ทำไมเหรอ” คุณดิวก็ตอบกลับไปว่า “ผมขอคุยกับเค้านิดนึง” เเล้วพนักงานก็ไปตามเเม่บ้านมาให้ พอเเม่บ้านมาถึง คุณดิวก็รีบถามเเม่บ้านทันที “ป้า ป้าทำความสะอาดทุกวันนี่ ป้ารู้ข่าวอะไรเกี่ยวกับชั้น 9 บ้างหรือเปล่า” เเล้วเเม่บ้านก็ถามกลับว่า “ทำไมเหรอพ่อหนุ่ม” จากนั้นคุณดิวเลยเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้เเม่บ้านฟัง พอเเม่บ้านได้ฟังก็ทำหน้าตกใจเเล้วก็เล่าว่า
“ก็มีนะ เมื่อประมาณปีที่เเล้วมีผู้หญิงในตู้โดนเเขกเรียกให้ขึ้นไปห้อง 409 เเล้วถูกฆ่าตัดคอ เอาหัวไปเเขวนในช่องเเอร์ กว่าตำรวจจะเจอหัวก็ปาเข้าไป 3-4 วัน เเล้ว”
คุณดิวที่ได้ยินเเบบนั้นก็รู้สึกบิดมวนที่ท้องน้อยจนต้องงอหลังลง เเล้วเเม่บ้านก็เล่าต่ออีกว่า “ปกติห้องนั้นเค้าไม่เปิดให้ใครพักนะ เเล้วทำไมหนุ่มถึงไปพักห้องนั้น” คุณดิวก็ตอบไปว่า “ไม่รู้เหมือนกันครับป้า เค้าจัดให้พวกผมไปพัก”
หลังจากนั้นประมาณ 3 วัน คุณเป้ได้นัดคุณดิวให้ไปหาที่ร้านอาหารเเห่งหนึ่งเพื่อที่จะให้คุณดิวช่วยเคลียร์ปัญหากับเเฟน โดยที่เเฟนก็นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ทีนี้พอคุยกันไม่รู้เรื่อง คุณเป้ก็เอาปืนใส่เข้าไปในปากของตัวเองพร้อมลั่นไกต่อหน้าคุณดิวเเละเเฟน
หลังจากที่คุณเป้เสียชีวิตได้ประมาณ 3 วัน คุณดิวก็ได้ไปเคาะประตูที่ห้องเพื่อนอีกคนอยู่นาน เเต่ก็ไม่มีวี่เเววว่าเพื่อนจะเดินมาเปิดประตูให้ คุณดิวเลยไปขอให้ยามมาช่วยเเงะประตู พอเข้าไปในห้องก็พบว่าเพื่อนกลายเป็นศพไปเเล้ว ลักษณะศพก็คือนอนหงาย น้ำลายฟูมปากอยู่บนเตียง
หลังจากนั้นพอผ่านมาได้ประมาณ 5 วัน คุณดิวก็ได้ทราบข่าวมาว่าเพื่อนในวงอีกคนได้เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตคาที่ เเละอีกประมาณ 4 วัน เพื่อนอีกคนก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เหลือก็เเค่คุณดิวกับเพื่อนอีกคน เเต่เพื่อนก็กลัวจนต้องหนีไปอยู่อเมริกา ตอนคุณดิวไปส่งเพื่อนที่สนามบิน คุณดิวก็ได้พูดกับเพื่อนว่า “ไม่รู้ว่ามันจะมาเอาข้าเมื่อไหร่”
หลังจากนั้นคุณดิวเลยลองไปปรึกษาพระที่ จ.นครสวรรค์ พระท่านได้บอกว่าพยายามอย่าไปนึกถึงเค้า จิตของผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างเเรง อาฆาตมาดร้าย ถ้าไปคิดถึง จิตของเค้าสามารถสื่อไปถึงได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เเล้วคุณดิวก็ได้สะเดาะเคราะห์ด้วยการเข้าพิธีทำบุญเป็นทำบุญตาย ลงไปนอนในโรงศพผีตายโหง เเล้วให้พระสวด 3 วัน เเล้วก็ไปทำพิธีบังสุกุลเป็นบังสุกุลตายต่อที่หาดใหญ่ เเละนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา