ในส่วนของ Philippe เองนั้น แรงแค้นของเขายังคงไม่หมดลง เขาตัดสินใจไปขุดหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อที่จะกำจัด Geza และในที่สุดเขาก็ได้ไปพบกับเชคที่ Geza ปลอมลายเซ็นของ Stephanie น้องสาวของ Louise เพื่อใช้จับจ่ายใช้สอยในช่วงที่ทั้งสองอาศัยอยู่ที่ปารีส ทำให้ Louise และ Geza ถูกตั้งข้อหา และกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงทันที
ทั้งคู่จึงต้องหนีคดี เริ่มจากการเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสมเด็จพระราชินีนาถ Victoria แต่ปรากฏว่าในขณะนั้นท่านกำลังเสด็จประพาสฝรั่งเศสอยู่
ทางฝั่งของพ่อเธอคือพระเจ้า Leopold ที่ 2 ตัดสินใจที่จะไม่ติดต่อกับเธออีก เนื่องจากความอับอายที่ Louise นำมาสู่ราชวงศ์เบลเยี่ยม และในเวลาต่อมา พระญาติทุกคนของเธอในเบลเยี่ยม ก็ตัดความสัมพันธ์กับเธอเช่นกัน มีเพียงป้าและแม่ของเธอเท่านั้นที่ยังเขียนจดหมายติดต่อกับเธออยู่บ้าง
ที่น่าเศร้าที่สุดคือ แม่ของเธอหรือราชินี Marie Henriette กลับมาเสียชีวิตในขณะที่เธอยังอยู่ในโรงพยาบาลบ้า โดยยังเชื่ออยู่ว่าลูกสาวของเธอเป็นบ้าจริง ๆ
Louise (ซ้ายสุด) กับราชินี Marie Henriette และ Stephanie กับ Clementine น้องสาวของเธอ (Source: medium.com)
ในเมื่อไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร เธอตัดสินใจหันไปพึ่ง Dora ลูกสาวคนเดียวของเธอ ซึ่ง Dora และสามีของเธอยินดีจะช่วยเธอ แต่มีข้อแม้ข้อนึงคือ Louise จะต้องเซ็นเอกสารยินยอมมอบมรดกทั้งหมดที่เธอจะได้รับให้กับ Dora และสามี ซึ่งแน่นอน Louise ปฏิเสธ มาถึงตอนนี้ แม้แต่ลูกในไส้ของเธอเองก็ไม่คิดที่จะช่วยเหลือเธออีกต่อไป
แต่แล้วก็เหมือนโชคจะเริ่มเข้าข้าง ในช่วงเวลานั้นราชวงศ์ Hapsberg ก็ไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีนัก โดยเฉพาะตัวของ Philippe เอง และหนังสือพิมพ์หลายฉบับได้มีการตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของ Louise ซึ่งพูดถึงชีวิตแต่งงานที่ไม่มีความสุขของเธอ ทำให้คนเริ่มที่จะเห็นใจเธอมากขึ้น และก็เป็นอีกครั้งที่ Philippe ต้องตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง เพื่อให้ Louise หายไปจากหน้าสังคมให้ได้
Geza Mattachich รักแท้ของเจ้าหญิง Louise (Source: https://www.librarything.com)
ในปารีสทั้งสามอยู่ด้วยกันในห้องใต้หลังคาเล็ก ๆ แบบไม่มีอันจะกินเท่าไรนัก และสิ่งแรกที่เธอทำเมื่อมาถึงปารีสคือ เธอรีบไปพบกับแพทย์ชาวฝรั่งเศส เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้เป็นคนบ้า ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะยื่นเอกสารขอหย่าจาก Philippe สามีของเธอให้ได้นั้นเอง
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง Louise และ Maria ที่เป็นเมียน้อยเป็นอย่างไร ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องนี้อย่างแน่ชัด แต่ว่าทั้งสามคนก็อยู่ด้วยกันที่ปารีสเป็นเวลานานถึง 3 ปี จนกระทั่ง Maria หนีไปแต่งงานกับชายอื่น
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Geza โดนจับกุมตัวโดยนาซีเยอรมัน ด้วยข้อหากบฏ และถูกคุมขังเป็นเวลานานถึง 2 ปี ส่วนเธอก็ไปอาศัยกับ Dora ลูกสาวของเธอและสามี ซึ่งในตอนแรกเหมือนเธอจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายทั้งสองก็พยายามบังคับให้เธอเซ็นเอกสารมอบมรดกทุกอย่างให้พวกเขาทั้งสองอีกครั้ง จนในที่สุดเมื่อ Geza ได้รับการปล่อยตัวออกมา Louise ตัดสินใจเดินทางไปพบกับเขาที่ Budapest ใน Hungary ดินแดนซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ Austro -Hungarian มาก่อน จนกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น และเมื่อพวกของคอมมิวนิสต์บุกเข้าไปในที่พักอาศัยของทั้งคู่ หนึ่งในผู้บุกรุกถึงกับตะโกนออกมาว่า "เจ้าหญิงองค์นี้ จนยิ่งกว่าเราเสียอีก"
1
หลังจากที่สงครามกลางเมืองใน Budapest จบลง ทั้งคู่ย้ายกลับมาอยู่ที่ปารีสอีกครั้ง และที่นี่เองที่เธอเริ่มเขียนอัตชีวประวัติของเธอขึ้น เพื่อที่จะอธิบายถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เธอกระทำลงไป พร้อมกับพยายามกอบกู้ชื่อเสียงของเธอด้วยการพูดถึงข่าวลือที่ต่าง ๆ ว่าไม่เป็นความจริง โดยหนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า "My own affairs"
My Own Affairs หนังสืออัตชีวประวัติของ Princess Louise of Belgium ที่เธอเขียนเอง (Source: goodreads)
น่าแปลกที่แม้ว่าพ่อของเธอจะตัดความสัมพันธ์กับเธอไปนานแล้ว และเธอก็ไม่ได้ชื่นชอบพ่อของเธอเท่าไร แต่เธอก็ยังมอบหนังสือเล่มนี้ให้กับพ่อของเธอ โดยเธอเขียนไว้ว่า "Dedicate to the great man, the great King, who was my father" จริง ๆ แล้วบางที การที่เธอเขียนแบบนี้นั้นอาจจะเพื่อเป็นการบ่งบอกคนรุ่นหลังว่า ถึงแม้เธอจะยากจนยังไง เธอก็ยังเป็นถึงลูกสาวของพระราชาอยู่ดีนั่นเอง
ส่วนเงินที่ Louise ได้มาจากรัฐบาลเบลเยี่ยมนั้นมีมูลค่าเพียง 300,000 ดอลล่าร์ ในขณะที่หนี้ของเธอนั้นมีมากถึง 3,000,000 ดอลล่าร์ ดังนั้นไม่มีทางเลยที่เธอจะสามารถลืมตาอ้าปากได้