13 เม.ย. 2021 เวลา 01:00 • ศิลปะ & ออกแบบ
รวมๆ เมืองเก่าที่เราเคยไป
ให้ความคิดถึงผ่านรูปถ่ายและเรื่องเล่าจากความทรงจำ
ยายกับโบสถ์ทรงหัวหอมแห่งมอสโก เราถ่ายเอง 2016
รีทัชภาพร่างกับสถานที่จริง ตอนนั้นรีบมากไม่มีเวลาเขียนรูป คนเยอะอากาศหนาว ดีที่ฟ้าเป็นใจ
เริ่มแรกของย้อนไป รัสเซีย ได้ไปเยือนช่วงสงกรานตร์หลายปีก่อน ทั้ง มัสกวา(มอสโค) และเซ็นปีเตอร์เบิร์ก ทริปนี้ประทับใจเพราะเมืองสวย พร้อมเรื่องเล่าจากการบรรยายของผู้นำชม เป็นรุ่นพี่ที่จบคณะเดียวกันสาขาตกแต่งภายใน มัณฑนศิลป์ ม.ศิลปากร(เราจบอีกสาขา) ท่านมาเรียนต่อป.โท ที่นี่ยุดก่อนสหภาพโซเวียตล่มสลาย เล่าทั้งประวัติย้อนไปไกล จนใกล้ช่วงสิ้นราชวงศ์โรมานอฟ อิงกับรัชสมัยร.5 ทุกอย่างยังคงเดิม เปลี่ยนน้อยมาก พิพิธภัณฑ์ยิ่งใหญ่จริงๆ
เรากับแม่ชอบสะสมงานศิลปะจากคนท้องถิ่น ร้านนี้ลุงเปิดแผงแถวทางขึ้นลงรถไฟใต้ดินสถานีมอสโกว จตุรัสแดง สถานีรถไฟใต้ดินที่นี่ลึกน่าจะที่สุดในโลก และสวยที่สุดในโลก ไม่ซ้ำกันในแต่ละสถานี เคยมีคนไทยมากับคณะทัวร์แล้วพลัดหลง หายไปเกือบสัปดาห์ ไกด์เล่าวิธีเอาตัวรอดในต่างแดนช่วงนั้นน่าตื่นเต้น ผมแอบเผลอทำของหายแต่ได้คืนจากบนเครื่องบิน
ประทับใจนอกจากอาคารบ้านเมืองที่เห็นร่องรอยการพัฒนาสมัยซาร์ปีเตอร์มหาราช จนยุคสงครามเย็นและการให้คุณค่าต่อศิลปะและความรู้
ตลาดศิลปะบางที่น่าสนใจ ผมไปยืนต่อราคางานลายเส้นปากกาที่มีมิติการไล่ระดับชัดตื้นชัดลึกอยู่นาน จนได้มารูปสองรูป เมื่อแม่เราเห็นเลยต้องรบเร้าให้พาไปอุดหนุนศิลปินท่านนั้นอีก
ร้านนี้แหละที่ยืนคุยจนซื้อ เส้นปากกาน้ำเงิน
ในสวนระหว่างรอคนอื่นๆ ตลาดนัดศิลปะเสรีเดินไปไม่ไกล
แม่เราให้พาไปซื้อมาเพิ่มอีก
มอสโกว มอสโค เป็นเมืองคนเครียด ยิ้มยาก ต่างจากเซ็นต์ปีเตอร์ที่มีม.ศิลปะและต่างชาติมาเยือนและอยู่ น.ศ. วัยรุ่น ทำให้เป็นมิตรกว่า สาวๆสวยหนุ่มหล่อ ยิ้มให้กันเสมอแม้จะเห็นเรายิ้มผ่านเลนส์
ความน่ารักในความเงียบ
งานศิลปะกรีกโรมันของจริงตั้งตรงเบื้องหน้า
แสงและบรรยากาศน่าเรียนกว่าในห้องเรียนปกติ แถมเจอคนต่างชาติ
ประทับใจวิธีการสอนศิลปะต่อเยาวชน อย่างน้อยให้ซึมซับ แอบเดินดูด้วยพบว่าวาดไม่ต่างจากเด็กๆบ้านเรา แต่ได้เห็นของจริง
ชอบมุมนี้ที่สุด มาที่นี่ต้องถ่ายมุมนี้
ยายเราหัวเราะร่า เพราะเจอซากแมมมอธ และกระเจี๊ยวที่คงสภาพจากทุ่งน้ำแข็ง ทำให้คิดถึงตาที่ตายไป ตอนนั้นตาล่าช้างป่า เอาองคชาติช้างมาตากแห้งทำยาปลุกพลังเพศให้เจ้านาย กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง เป็นความเชื่อคนยุคเก่าเมื่อนานมาแล้ว
ตลาดนัดของเก่าคล้ายจตุจักรบ้านเรา ร้านนี้ดีที่สุดในตลาดเพราะการออกแบบไม่เหมือนใคร ราคาสูงมากกว่ารูปแบบปกติ ราวๆสามสี่พันบาท การให้สีและทรง ร้านอื่นบางร้านปั้นหล่อตุ๊กตาตะกั่วเอง หรือของเก่าหลากหลายสมัยสงครามก็มี เราได้พู่กันขนสัตว์มือสองมาสามด้ามใหญ่ เพราะคุณลุงผู้เป็นญาติต่อราคาให้
งานระดับมาสเตอร์พีช เลโอนาโด ดาร์วินชี พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์กับพระบุตร สีน้ำเงินคือราคาแพงในสมัยนั้น และการให้ค่าสีแบบนี้ทำให้งานเหล่านี้มีความต่างจากอดีต(ก่อนหน้ายุคเรเนซองส์ เป็นยุคบิเซนไทน์ กับ ยุคที่ศาสนาเป็นใหญ่ ภาพทุกอย่างจะแบน ไม่มีมิติ เหมือนภาพประดับผนังแนวตะวันออก แม้ว่าจะเป็นช่วงต่อจากกรีก-โรมัน)
งานที่ยังไม่เสร็จ คู่ปรับตลอดกาลของ เลโอนาโด ดาร์วินชี แต่กลับสร้างคุณูประการให้ศิลปินรุ่นหลัง เห็นร่องรอยการสลักหินอ่อน การใช้เครื่องมือรูปแบบต่างๆ ...มิกเกลันเจโล หรือ ไมเคิล แองเจโล
ต่อจากรัสเซีย ขอเล่า เบลเยี่ยม เมืองเก่าที่เคยไป บรู๊ก brugge เมืองมรดกโลก ที่เป็นหมู่บ้านโบราณอาคารและรับบนิเวศน์ดีเยี่ยม เสน่ห์คือการก่ออิฐหน้าบันแบบขั้นบันได เบลเยี่ยมนอกจากการ์ตูน ติน ติน ที่โด่งดังนทำกราฟิตี้ทั่วเมือง(คนเขียนเป็นชาวเบลเยี่ยม) ยังมีขนมอร่อยที่สุด ได้แก่ วาฟเฟิล ไอสกรีมโฮมเมด ช็อกโกแลค และของความขึ้นชื่อที่อ้างว่ามีก่อนใครๆ นั่นคือ มันฝรั่งทอด...เฟรนชฟราย ที่ราดมายองเนสกับมะนาว งงมากวิธีกิน...วาฟเฟิ้ลนุ่มหอมร้อนๆ แค่เหรียญเดียว
กลุ่มอาคารที่หน้าบันเป็นขั้นบันได หมู่บ้านมรดกโลก
คู่สีและกันสาด ส้มอิฐตัดน้ำเงิน
ร้านผ้าปักลูกไม้อ่อนหวาน มีหลายร้าน ลวดลายละเอียด
รถม้านำชม มีเรือคล้ายหางยาวนำเที่ยวบ้านเราวิ่งในคลอง
ของเล่นไม้ คนยุโรปใส่ใจของเล่นเสริมพัฒนาการและความปลอดภัย ไม้เป็นวัสดุนุ่มนวลส่งผลดีต่อเด็ก
ความน่าทึ่งของของเล่นตลาดนัดกลางเมืองนี้ ย้อนยุคอัศวิน
สินค้าที่ระลึกเป็นขนมและบรรจุภัณฑ์เลียนแบบอาคารสีสันสดใส
ดินเผาเคลือบทำสี
ร้านขายของที่ระลึกร้านใหญ่หลายร้าน หมู่บ้านนี้มีทางเข้าที่ต้องเดินไกล
ของน่ารักและราคาสูง
งานเด่นเห็นจะเป็นผ้าปักสีขาวลายลูกไม้ ที่ป้าๆน้าๆและแม่เราเวียนเข้าออกหลายร้าน
แม่เรานิยมสะสม ลุงคนนี้เปิดแผงที่จตุรัสกลางเมืองเบลเยี่ยม(จำชื่อเมืองหลวงไม่ได้) ใกล้รูปปั้นเด็กยืนฉี่ งานเขาละเมียดแบบช่างฝีมือรูปแบบการลงและเขียนเป็นงานตายตัวไปแล้ว
เมืองต่อมาคือ เยอรมนี เมืองที่ได้ไปนอกจากทางรอยต่อกับสวิสเซอร์แลนด์แล้ว โคโลญจ์ มหาวิหารสีดำตระหง่านริมน้ำ เราได้ปีนขึ้นไปถึงหอระฆังทางชันแสนแคบ ใจเต้นอึดอัดราวกับกลองรัวตลอดทาง เข่าลั่นจนถึงพื้นที่ด้านบนสุด ระหว่างทางคนสวนลงมาต่างบ่นอุบว่าด้านบนไม่มีอะไร กระนั้นเรายังไต่ไปเพราะจะได้สิ้นสงสัย ลงมาญาติๆต่างปรบมือร้องยินดี ราวตัวแทนครอบครัว ของที่ระลึกที่นี่สวยหลายชิ้น ที่ชอบสุดคงเป็น โปสเตอร์ กระจกสีศตวรรษที่13-15 ที่ในโบสถ์ยามต้องแสง จะส่องลงมาที่พื้นเป็นสีชมพู จนเป็นมุมมหาชน เราแอบเล็งถ่ายหวังว่าสักวันจะนำมาอัดรูปเอง ไม่ต้องเสียเงินซื้อ
มุมไกล มหาวิหารโคโลญจ์ ริมน้ำ
มุมปรางค์ยอดคู่กับป้าย
จากยอดปรางค์ลงมาลานจตุรัส มุมหนึ่งจะเป็นที่แจกอาหารคนไร้บ้าน มารอรับตามเวลา
4711 น้ำหอมเก่าแก่ที่คนไทยยุคเก๋ารู้จัก กลิ่มอมตะ
ด้านบนยอดปรางค์มีระฆังใหญ่ให้สัญญาณ ดังกังวาลทั่วลานจตุรัสเบื้องล่าง
แสงชมพูอร่ามไล้ส่องลงมาถึงพื้นโบสถ์ผ่านกระจกสี
กราฟิกจากกระจกสีที่มินิมอล
ของที่ระลึกแบบสิ่งพิมพ์ โน้ตเพลงที่เรียงเป็นภาพโบสถ์ และกราฟิกกระจกสี
งานไม้ที่ระลึกมินิมอล
ต้นแบบสถานีรถไฟกรุงเทพ
ความสง่างามของอาคารท่ามกลางถนนที่จอแจ
สายไฟรถรางรอบเมือง เป็นแยกที่ดูวุ่นวายเพราะศูนย์กลางคมนาคม
สภายุโรป สัญลักษณ์ตัดกับต้นไม้ใกล้ผลิใบและดอก ช่วงตุ่มๆหลังฤดูหนาวยาวนาน
กลุ่มดาวบนสัญลักษณ์แสดงจำนวนแระเทศที่เข้าร่วม (ตอนนั้น สหราชอาณาจักร ยังไม่ประดาศถอนตัว)
ทรงอาคารโดมคล้ายที่ อังกฤษ (ของไทยมีประเด็นดราม่าเรืีองนี้เช่นกัน เพราะเกิดข้อครหาว่าเลียนแบบจนเกินคำว่า แรงบันดาลใจ)
แสนเสียดาย ผ่านเมืองที่โรงเรียนออกแบบและศิลปะตั้งอยู่ เพราะจำอาคารกระจกได้ เป็นสถาบันระดับโลกที่คนเรียนออกแบบ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ต้องรู้จัก
อีกเมืองที่จะเล่าเพราะหาภาพเจอคือ แถบสแกนดิเนเวีย แดนทะเลเหนือและไวกิ้ง
ความนิยมของวัฒนธรรมลูกกุญแจ ตามหลอกหลอนตั้งแต่ฝรั่งเศส เกาหลี และที่นี่เดนมาร์ก
อาคารริมน้ำย่านท่าเรือ น่ารักสดใส
เดนมาร์ก ของที่ระลึกที่นี่น่าสนใจ โดยเฉพาะตึก และพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง
ลูกปัดโบราณที่พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง คล้ายลูกปัดแก้ว หินสีของ อู่ทอง(ทวารวดี) แถวบ้านยายเรามากๆ ซึ่งก็สืบๆมาจากสมัยโรมัน อ่านเจอการทำลูกปัดสุริยะเทพและแบบอื่นๆแพร่ทางเรือ เพราะสุวรรณภูมิเป็นเส้นทางสายไหมทะเลเมื่อนานมาแล้ว
หมากรุกตำลองกระดูกสัตว์ของนักรับ
เหยือกและแก้วจากดินเผาเคลือบสี คล้ายที่เยอรมนี แต่ถ้าดั้งเดิมต้องเขาสัตว์
อันนี้ตลกมาก แวะปั๊ม เราเห็นพอดีว่าเป็นของพื้นเมืองควรซื้อเลยบอกญาติๆ จากตัวเล็ก มาตัวใหญ่หลายบาท ซื้อกันแหลก รวมถึงเสื้อกันหนาวที่ลุยสภาพอากาศแถบนี้ได้ดี จนคนขายจากหน้าบึ้ง ยิ้มได้เพราะบ้านเราซื้อหลายคน หมดหลายบาท
ตึกน่ารักริมท่าเรือประมง เป็นจุดเด่น แลนด์มาร์กของที่นี่ โคเปเฮเกน มีสารพัดแบบ
การทำสีค่อนข้างดี
สุดท้ายเลือกได้แบบนี้ วัสดุหลากหลาย
พิพิธภัณฑ์ที่นี่สนุก นอกจากเรือไวกิ้ง(นอเวย์) มีเรือล่มที่กู้ขึ้นมาทำที่เยี่ยมชมพร้อมกับนักโบราณคดีทำงาน(อันนี้อยู่สวีเดน เรือรบวาซาของกษัตริย์ที่จมหลังสร้างไม่นาน) เราเดินไปคุยได้ แต่ภาษาไม่แข็งแรงมากจึงสนทนาได้น้อย ไอครีมที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน
ที่สุดท้ายคือ เนเธอร์แลนด์ แดนดอกไม้ เรือ กังหันและพิพิธภัณฑ์กระจายทั้งเมือง
ไรซ์มิวเซียม เสียดายไม่ได้เข้าชม มีสารคดีตอนบูรณะด้วยนะ ระดับโลกจริงๆ
เมืองนี้มีทั้งรถรางและระบบคมนาคมอื่นๆ แต่ที่มากที่สุดคือ จักรยาน เลนส์เฉพาะและสารพัดรูปแบบ
สายรถรางเกะกะเต็มท้องฟ้า
ที่นี่กัญชาเสรี และย่านโคมแดง เราไปยืนจ้องร้าน sextoy เพราะมีโมบายแปลกๆ เป็นขดลวดสีเงิน ที่ทำให้เกิดแนวคิดทำจบป.โท ด้วยเรื่องการยืดหดและยางรัก
ยายกับทิวลิปในสวนขึ้นชื่อ เราถ่ายไว้จังหวะยิ้มพอดี
ยายแอบงีบ รอยยิ้ม และสวนทิวลิป
สวนดอกไม้ที่นี่งดงมพอๆกับกังหันทั้งยุคเก่าและใหม่ ได้เข้าชม ทิวลิปสวยงามพร้อมเรื่องเล่ายุคไข้ทิวลิป ไม่ได้ไปชมตลาดดอกไม้ที่คล้ายปากคลองตลาดบ้านเรา
มิวเซียมสารพัด งานศิลปะระดับโลก ทั้งศิลปินน่าสงสาร อย่าง แวนโก๊ะและเวอร์เมีย คนหลากเชื่อหลายชาติจึงเกิดการหลอมรวมเมืองท่าอย่างน่าสนใจ รุ่มรวยด้วยหลายอย่าง
หากสนใจสนับสนุนสินค้าที่ระลึกของเรา blue bangkok สอบถามได้นะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา