Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คีตาแห่งสยาม
•
ติดตาม
11 เม.ย. 2021 เวลา 08:18 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣ ความท้อแท้ของอรชุน
(ตอนที่ 12) ✴️
🌸 “กองทัพฝ่ายจิตวิญญาณ” กับ “กองทัพฝ่ายวัตถุ” 🌸
⚜️ โศลก 3️⃣ ⚜️
หน้า 57 – 61
โศลกที่ 3️⃣
โอ้ ท่านอาจารย์ ดูเถิดกองทัพอันเกรียงไกรของปาณฑุราชบุตร จัดยุทธวิธีโดยศิษย์ผู้สามารถของท่าน บุตรของทรุบท
(ระหว่างที่ผู้ภักดีใคร่ครวญนั้น กิเลสราชาได้กล่าวกับอาจารย์โทรณ, นิสัย)
“ดูเถิด กองทัพอันเกรียงไกรของพี่น้องปาณฑพ (พลังญาณปัญญาในจักระไขสันหลัง) ต่างเตรียมพร้อมสู้รบตามบัญชาของศิษย์ท่าน (แสงสงบแห่งปัญญารู้ตื่น, ศิษย์ของโทรณ นิสัยที่เคยทำสมาธิภาวนาในอดีต) บุตรของทรุบทคนนี้ (เกิดจาก ทรุบท ผู้ไม่สนใจความสุขทางวัตถุ เพราะดื่มด่ำอยู่กับจิตวิญญาณและการอุทิศแต่พระเจ้า) ได้รับการฝึกจากท่านให้เชี่ยวชาญการทำสงครามในจิตใจ ตอนนี้เขาอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา! นายพลคนกล้าของกองทัพปาณฑพ (ผู้นำของเหล่าทหารฝ่ายปัญญาญาณ)”
▪️สัญลักษณ์อำนาจของแสงทิพย์แห่งการเห็นแจ้งซึ่งสงบอยู่ภายใน▪️
ทุรโยธน์ – กิเลสราชา ทั้งแปลกใจและไม่พอใจ เมื่อได้เห็นขุนพลกล้าผู้เตรียมปัญญาบริสุทธิ์เพื่อการสงครามในจิตใจ ศิษย์ร่วมอาจารย์กับตน บุตรของทรุบทคนนี้เป็นศิษยฝีมือเลิศของอาจารย์และผู้สนับสนุนคนสำคัญของตน คืออาจารย์โทรณ (จริตนิสัย) บุตรของทรุบท นาม 'ธฤษฎทยุมัน' คือ #ตัวแทนของแสงทิพย์แห่งการเห็นแจ้งซึ่งสงบอยู่ภายใน, #สหัชญาณการรู้ตื่นของผู้ภักดี เรื่องราวสั้น ๆ จากมหาภารตะจะช่วยอธิบายความสำคัญของเรื่องนี้ได้
ในวัยเยาว์ โทรณกับทรุบทเป็นสหายสนิทกัน แต่ต่อมาเมื่อทรุบทขึ้นครองราชย์เป็นราชาแห่งแคว้นปัญจาล ท่านได้กล่าววาจาเหยียดหยามโทรณ ซึ่งถือเอาความเป็นเพื่อนในอดีตมาขอความโปรดปรานจากตน โทรณคั่งแค้นจึงได้ขอความช่วยเหลือจากพี่น้องปาณฑพ นำกองกำลังมาชิงชัยกับทรุบท ทรุบทพ่ายแพ้ต้องเสียเมืองให้แก่โทรณ ทั้งยังถูกจับเป็นเชลยอีกด้วย แต่ด้วยความสงสาร โทรณจึงปล่อยตัวทรุบท และให้กลับไปครองภาคใต้ของอาณาจักรเดิมของพระองค์ แต่ทรุบทได้ตั้งสัตย์ปฏิญาณที่จะแก้แค้นโทรณ จึงได้ทำพิธีบวงสรวงสังเวย ขอให้ได้บุตรที่เก่งกล้าสามารถ ผู้จะเข่นฆ่าโทรณได้ และการอ้อนวอนนี้สัมฤทธิ์ผล ธฤษฎทยุมันผุดขึ้นกลางกองกูณฑ์บูชา ในลักษณะของเทพนักรบ เปล่งประกายเจิดจ้า มีความกล้า และมั่นใจ และสุดท้ายแล้วโทรณก็ถูกธฤษฎทยุมันสังหารในการรบที่ทุ่งกุรุเกษตร
เราได้กล่าวกันมาแล้วว่า 'โทรณ' คือ #ตัวแทนของสังสการหรือแนวโน้มนิสัยในอดีต 'ทรุบท' ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดในโศลกต่อไป #เป็นตัวแทนของความไม่สนใจความสุขทางวัตถุ #เพราะดื่มด่ำอยู่กับจิตวิญญาณและการอุทิศต่อพระเจ้า
ในตอนแรก ๆ ผู้ภักดีจะพบว่าความปรารถนาเร่าร้อนทางจิตวิญญาณกับความโน้มเอียงภายใน หรือสังสการคล้ายจะเป็นเพื่อนกัน แต่เมื่อสังสการมีแนวโน้มไปทางผัสสะวัตถุ ความมุ่งหวังทางจิตวิญญาณจึงตัดขาดจากเพื่อนคนนี้ นิสัยจึงตอบโต้และแก้แค้นผู้ภักดีที่ศรัทธาจิตวิญญาณ ด้วยการทำให้เขาตกเป็นทาสของนิสัยเดิมๆ และความเคยชินนี้ก็จะทำลายเขา
แรกสุดผู้ภักดีต้องเผชิญกับนิสัยเลว ๆ เหล่านี้ก่อน จนกว่าเขาจะมั่นคงในชีวิตจิตวิญญาณ ขณะหลบหลีกไปจากสิ่งนี้เขาจะพบทันทีว่าอิสรภาพที่เขาถนอมเลี้ยงไว้นั้นยังไม่เป็นอิสระเต็มที่ แต่ยังถูกสังสการจองจำ เพราะเจตจำนงเสรีที่กอปรด้วยปัญญาของเขาถูกล่ามไว้เสียแล้ว
ผู้ภักดีจะเห็นว่าศรัทธาทางจิตวิญญาณของตน สามารถปกครองได้แต่เพียงครึ่งเดียวของอาณาจักรกาย ซึ่งเชื่อมโยงอยู่กับผัสสอินทรีย์ที่น้อมไปทางวัตถุ ณ ส่วนล่างของอาณาจักรกาย หรือจักระที่อยู่ตามแนวไขสันหลังด้านล่าง ซึ่งควบคุมกิจกรรมของอินทรีย์ในอาณาจักรกาย แต่นิสัยซึ่งมีแรงกระตุ้นและความโน้มเอียงที่ทรงพลังยังยึดครองปัญญาอันบริสุทธิ์ไว้ได้
ผู้ภักดีที่ตั้งใจมั่นจึงปลุกเร้าศรัทธาทางจิตวิญญาณ ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะปลดปล่อยวิญญาณให้เป็นอิสระจากพันธนาการนั้น ด้วยศรัทธาที่ลึกซึ้งมั่นคงเขาจึงได้ทายาท 'ธฤษฎทยุมัน' ซึ่งเป็นแสงที่เปิดเผยความจริง และเป็นพลังอำนาจที่ปลุกสหัชญาณให้ตื่นขึ้น #วิจารณญาณภายในนี้ที่ถูกฝึกด้วยนิสัยการทำสมาธิ กลายเป็นขุนพลของกองกำลังฝ่ายจิตวิญญาณ เป็นผู้กำหนดขบวนทัพและยุทธศาสตร์ #ใช้สมาธิควบคุมจิตที่ว้าวุ่นและนำกองกำลังพุทธิปัญญาสู่ชัยชนะ
#กองกำลังที่ดีที่ถูกฝึกโดยนิสัย สามารถทำลายพี่น้องร่วมอาจารย์ – ความใคร่ในกามกับกองกำลังชั่วของมันที่ได้รับการฝึกฝนโดยนิสัยเช่นกัน แต่โยคีนั้นสามารถข้ามพ้นอิทธิพลของนิสัยเหล่านี้ ท่านวางใจในพุทธิปัญญาอันบริสุทธิ์ของวิญญาณ หรือสหัชญาณว่าสิ่งนี้จะนำท่านในการกระทำทั้งปวง มีแต่แสงบริสุทธิ์แห่งปัญญา – ทิพยประจักษ์เท่านั้นที่มีอำนาจสังหารโทรณหรือนิสัยได้ และนามธฤษฎทยุมันได้บอกนัยถึงสิ่งนี้ไว้
'ธฤษฏ' แปลว่า กล้าหาญ มั่นใจ 'ทยุมัน' แปลว่า งามเรืองรอง เกรียงไกร กำลัง เมื่อรวมสองคำนี้เข้าด้วยกันจะได้ความหมายว่า “งามเรืองรองอย่างกล้าหาญมั่นใจ” #ซึ่งเป็นนิยามของแสงสงบภายในหรือสหัชญาณที่เปิดเผยความจริง และที่ว่ากล้าหาญและมั่นใจนั้นเพราะมันไม่พลั้งพลาด #นี่เป็นพลังอำนาจเดียวที่สามารถทำลายนิสัยที่เคยชินได้ #แสงภายในที่เพิ่มพูนการตระหนักรู้ในสมาธิหรือแสงแห่งสมาธิเท่านั้น #ที่สามารถทำลายพันธนาการทั้งปวงของสังสการได้
ธฤษฎทยุมันได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นศิษย์ผู้เชี่ยวชาญช่ำชองของโทรณ (สังสการฝ่ายจิตวิญญาณซึ่งเป็นสิ่งดี) เพราะอำนาจของนิสัยที่กระทำซ้ำ ๆ ในการปฏิบัติสมาธินั้น ช่วยพัฒนาแสงสงบภายในแห่งทิพยปัญญา ยามเมื่อต้องการ #ผู้ภักดีที่ทำสมาธิอาจเห็นหรือสัมผัสแสงสงบภายในนี้ ซึ่งจะเป็นสิ่งนำทาง สนับสนุน และเสริมกำลังให้แก่ความพยายามเพื่อการทำสมาธินั้น
▪️นิสัยเป็น “อาจารย์” ของความโน้มเอียงทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว▪️
1
เป็นความจริงทางจิตวิทยาที่ว่า #นิสัย เป็น “อาจารย์” ของความโน้มเอียงทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่วในมนุษย์ เมื่อความใคร่ในกามพยายามครอบงำนิสัยเพื่อทำลายอำนาจของพุทธิปัญญา ราชาชั่วจะแปลกใจเมื่อได้เห็นสิ่งดีที่คอยปกป้องนิสัยนั้นพร้อมจะต่อต้านตน มนุษย์จึงควรคิดได้อย่างสบายใจว่า ในบางขณะไม่ว่านิสัยชั่วและความต้องการทางวัตถุจะมีอำนาจมากเพียงใด ทหารของนิสัยฝ่ายดีทั้งในชาตินี้และชาติก่อนๆยังคงอยู่ และพร้อมจะเข้าสู่การชิงชัย
สังสการฝ่ายดีหรือความรู้สึกดีๆฝ่ายทิพยปัญญาของจริตนิสัยในอดีตคือทหารกองหลังของวิญญาณราชา นักรบเหล่านี้ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังกองกำลังพุทธิปัญญา กระหายที่จะออกมาแสดงฤทธิ์ ถ้ากองทัพชั่วช้าของกิเลสราชามีทีท่าว่าจะชนะ นั่นคือ เมื่อผู้ภักดีมีกองทัพที่เข้มแข็งของสังสการนิสัยดีและกรรมดีในอดีต พวกเขาก็จะมาช่วยนิสัยดีและการกระทำอันกอปรด้วยปัญญาญาณในปัจจุบันได้ทันการณ์
แต่คนส่วนใหญ่ เต็มใจที่จะให้อาณาจักรใจของตนถูกปกครองโดยจริตชั่วตามนิสัยในอดีต ความโน้มเอียงฝ่ายพุทธิปัญญาจึงถูกกีดกันออกไป ทหารฝ่ายปัญญาของนิสัยในอดีต หรือกองหลังที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกองทัพแห่งพุทธิปัญญาจึงต้องอยู่นิ่ง ๆ
บุคคลที่จิตใจไม่สงบตลอดเวลาและไม่เคยปฏิบัติสมาธิมักเชื่อว่าตัวเขา “สบายดี” เพราะชินกับการกลายเป็นทาสของผัสสอินทรีย์ เขาเริ่มตระหนักถึงชะตากรรมที่แท้จริงของตนทันทีที่การใฝ่หาวิญญาณตื่นขึ้นในตนและพยายามที่จะปฏิบัติสมาธิอยู่กับความสงบ เมื่อนั้นเขาจะพบกับการต้านทานอย่างดุเดือดจากนิสัยเลวๆของใจที่เหลาะแหละโลเล
โยคีที่ฝึกใหม่จะพบว่าทหารฝ่ายพุทธิปัญญาของท่านซึ่งนำโดยความอยากทำดี ทว่ายังพ่ายแพ้อย่างน่าท้อใจอยู่บ่อย ๆ #แต่เมื่อท่านทำสมาธิยาวนานขึ้นและภาวนาอย่างสุดจิตสุดใจ #เพื่อขอความช่วยเหลือจากภายใน ท่านจะพบว่าญาณ ปัญญาอันสงบ ขุนพลมือฉมังของแสงที่ตื่นรู้อยู่ภายในจะออกมาจากอภิจิต นำกองกำลังของฝ่ายพุทธิปัญญาอย่างกล้าหาญ ไม่ว่าจะถูกโจมตีกี่ครั้งกี่คราจากผัสสนิสัยผู้ทรงพลังอำนาจ แต่ทหารที่เกิดจากสมาธิที่ทำทั้งในชาตินี้และอดีตชาติจะมาช่วยท่าน เมื่อนิสัยอยู่ไม่สุขพยายามจะยึดบัลลังก์จิตของท่าน ทหารฝ่ายพุทธิปัญญาก็จะออกมาต้านทานอย่างมีประสิทธิภาพ
ทหารเร้นลับเหล่านี้ปรากฏตัวกลางสนามรบในจิตใจในสองโอกาสเท่านั้น คือ 'โอกาสแรก' เมื่อทหารพุทธิปัญญาถูกต้อนไปตามการล่อลวงของทหารฝ่ายผัสสะ และ 'สอง' เมื่อทหารพุทธิปัญญาเป่าแตรสมาธิเรียกหาความช่วยเหลือจากกองกำลังเหล่านี้
เมื่อร่วมมือกัน 1️⃣#ทหารการรู้ตื่นในอดีต กับ 2️⃣#ทหารพุทธิปัญญา ก็สามารถไล่ล่าสยบกองกำลังไร้ความสงบได้ถ้าการยุทธ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่บัลลังก์จิตถูกกิเลสราชายึดได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าอาณาจักรนี้ตกอยู่ในมือของกิเลสราชาเสียแล้ว ทหารเร้นลับนี้จะช่วยยืดอาณาจักรสันติภาพกลับคืนได้ยากยิ่งขึ้น ดังนั้นบุคคลจึงต้องพยายามฝึกจิตอย่างเต็มที่เพื่อกองกำลังแห่งเจตจำนง เพื่อให้สมาธิมีความเข้มแข็ง #เป็นการดีที่จะเริ่มทำสมาธิตอนอายุยังน้อย หรือถ้าตอนนั้นยังทำไม่ได้ทันทีที่พุทธิปัญญาเริ่มพัฒนา #ก็จงทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอตามตารางที่กำหนดไว้ประจำวัน
นิสัยการทำสมาธินั้น ไม่ว่าที่เพิ่งได้มาไม่นาน หรือได้มาในอดีตอันยาวไกล ย่อมมีพลังที่จะนำขุนพลแสงภายในออกมา ผู้ที่ท้อแท้ไม่อยากทำสมาธิเพราะความกระวนกระวาย ไม่รู้ได้ถึงอำนาจชั่วร้ายที่คอยต่อต้านพุทธิปัญญากับทหารกองหลังนิสัยดีในอดีตของสมาธิ แต่แม้เขาตกเป็นเชลยอยู่ในกำมือของความกระวนกระวายแล้ว ถ้าหากเขายังดำรงการต่อสู้เพื่อให้ตนมีความสงบ พวกเขาก็จะรู้ว่ามีทหารเร้นลับซ่อนอยู่ นั่นคืออำนาจสหัชญาณอันห้าวหาญแข็งแกร่ง #ซึ่งกำลังพยายามที่จะออกมาจากอภิจิตเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่จิตวิญญาณ
โศลกนี้ในภควัทคีตาจึงได้พรรณนาว่า : ✴️เมื่อราชาความใคร่ในวัตถุกับกองทัพความโน้มเอียงทางผัสสะกับความคิดที่ว้าวุ่นพยายามเสริมกำลังด้วยวัตถุนิสัยในอดีต เพื่อที่จะเบี่ยงเบนผู้ศรัทธาจิตวิญญาณไปจากการปฏิบัติสมาธิ พวกเขาจะพบว่า แสงสงบภายในแห่งสหัชญาณการรู้ตื่น ซึ่งได้รับการฝึกสมาธิอย่างดีจากวิญญาณนิสัยในอดีต ได้จัดขบวนทัพพุทธิปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตั้งรับการศึกภายในจิตใจนี้✴️
(จบ)(โศลกที่ 3 : บทที่ 1)
1
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภควัทคีตา เล่ม 1 บทที่ 1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย