Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บ่นเป็นเรื่องเป็นราว
•
ติดตาม
12 เม.ย. 2021 เวลา 04:51 • นิยาย เรื่องสั้น
กลับมากับเรื่องราวมหากาพย์ มหาภารตะ หลังจากที่ผมหายไป(โคตร)นาน
กลับมาอีกทีก็ก่อนสงกรานต์
ซึ่งก็แน่นอนว่า วันหยุดยาวมี แต่ทริป ไม่มีแล้ว เพราะเจอโควิดเข้าไประลอกใหม๊ ใหม่(3)
ผมก็ว่าจะหาเรื่องมาเขียนให้ได้อ่านกัน
มา วันนี้มาต่อกันเลยกับ
"อัศวัตถามา บุรุษผู้มีความตายเป็นรางวัล"
สาเหตุที่ผมได้หยิบยกเรื่องนี้มาให้ได้อ่านกัน ก็เพราะผมสนใจในตัวเขาคนนี้มาก หากใครอ่านมหาภารตะ คงจะทราบกันดีว่า สงครามทุ่งกุรุเกษตร ฝ่ายเการพ มีคนเหลือรอดแค่สามคนเท่านั้น ซึ่ง บุรุษผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ทำไมชายคนนี้ถึงปรารถนาความตาย หาคำตอบได้จากเรื่องนี้ครับ
ทุกๆท่านน่าจะเคยได้ยินชื่อ "พระกฤษณะ" อวตารปางที่8ของพระวิษณุ แต่อาจไม่รู้ว่า พระศิวะ มหาเทพ ก็มีอวตารเช่นกัน นั่นคือ "อัศวัตถามา"
อวตารปางที่19 อวตารสุดท้ายของพระศิวะ
พระกฤษณะ จากมหาภารตะ ปี2013 รับบทโดย คุณ ซอรัป ราจ เจน
หากจะกล่าวว่าใครเลวที่สุด ในมหาภารตะ ผู้อ่านมหาภารตะทุกท่านน่าจะคิดถึง ทุรโยธน์ ศกุนิ ทุหศาสัน และแน่นอน อัศวัตถามา ก็คงติดอยู่ในลิสต์ด้วย
เดี๋ยวอย่าเพิ่งงง
บางคนอาจคิดว่า เฮ้ย ถ้ามันเลวแล้วทำไมมันถึงเป็นอวตารของพระศิวะ
แน่นอนครับ ตำนานฮินดู เทพนั้นมีลีลาการปฏิบัติหลายอย่าง
การในครั้งนี้ก็เช่นกัน
บางตำรากล่าวว่า พระมหาเทพ ทรงเล็งเห็นว่า ฝ่ายปาณฑพ ฝ่ายธรรมะมีพระกฤษณะ อวตารของพระนารายณ์ แล้ว และต้องเป็นโคตรเทพทรูแน่นอน ท่านจึงอวตารไปเป็นอัศวัตถามา แห่งฝ่ายเการพ ฝ่ายอธรรม เพื่อความสมดุลกัน
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
กาลครั้งหนึ่ง มีพราหมณ์คนหนึ่ง อาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆหลังหนึ่ง กับเมียคนหนึ่ง และลูกชายคนหนึ่ง
พราหมณ์คนนั้น มีนามว่า "โทรณะ" เป็นผู้มีวิชาแก่กล้า ซึ่งโทรณะเป็นบุตรของ "มหาฤๅษีภรัทวาชะ" ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงมากในตำนานอินเดีย
โทรณาจารย์ จาก มหาภารตะ ปี2013 รับบทโดย คุณ นิสสา ข่าน
ในวัยเรียน โทรณะ เรียนหนังสือร่วมกับเหล่าเจ้าชาย ซึ่ง1 ในนั้นคือ "ทรุปัท"เจ้าชายจากแคว้นปัญจาละ
3
สองคนสนิทกันมากถึงขนาดที่ทรุปัทบอกว่า
"ถ้าข้าโตขึ้นไปแล้ว เจ้าอยากให้เราช่วยอะไร เจ้าก็มาหาข้าได้เสมอนะ"
จนวันเวลาผ่านไป ทรุปัท ก็ได้ขึ้นครองแคว้นปัญจาละ และโทรณะก็ได้แต่งงานกับ "กฤปี" น้องสาวของ ราชครู "กฤปาจารย์" แห่งราชสำนัก หัสตินาปุระ แล้วก็ได้ขอบุตรจากพระศิวะ เด็กที่เกิดมา มีมณีอยู่กลางหน้าผาก เหมือนเดอะวิชชั่น และสิ่งนี้ก็ทำให้เด็กคนนี้แข็งแกร่ง มีพลังเหนือคนทั่วไป เพราะสิ่งนี้ เปรียบได้กับเนตรที่3ของ มหาเทพใช่แล้ว เด็กคนนี้คือ "อัศวัตถามา" อวตารของมหาเทพ
ด้วยความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายสมถะ(จน) ทำให้อัศวัตถามาไม่มีโอกาสแบบคนอื่นๆเขา แค่นมก็ไม่เคยกิน
วันหนึ่ง อัศวัตถามา ไปพบเพื่อนๆ ที่กำลังกินนมกันอยู่ก็ถามว่าสิ่งนี้คืออะไร เพื่อนก็นึกสนุก จึงตอบว่านี่คือนม อัศวัตถามาขอกินบ้าง เพื่อนแกล้งโดยการ เอาน้ำซาวข้าวผสมน้ำเปล่า แล้วหลอกว่าเป็นนม
บ้างบอกว่า กฤปี นั่นแหละที่เอาน้ำซาวข้าวให้ลูกกิน แล้วลูกไปเจอคนอื่นดื่มนม ถึงได้รู้ว่านมที่ไอ้เรากินมาทั้งชีวิตมันไม่ใช่นม
อัศวัตถามากลับบ้านเอาเรื่องนี้ไปพูดให้แม่ฟัง
กฤปีก็เสียใจมาก ที่ตัวเองจนถึงขนาดแค่วัวตัวเดียวที่จะรีดนมมาให้ลูกกินก็ไม่มีปัญญาซื้อ
อัศวัตถามาและโทรณาจารย์
โทรณะจึงตัดสินใจว่า "ฉันต้องทำ ทำอะไร สักอย่างแล้ว"
คิดไปคิดมา ก็เผอิญนึกขึ้นมาได้ว่า ทรุปัทเพื่อนเก่าที่เคยสัญญากัน คงได้เป็นเจ้าครองนครปัญจาละแล้ว จะลองไปขอความช่วยเหลือดู
โทรณะจึงไปยังแคว้นปัญจาละ และเข้าเฝ้า ท้าวทรุปัท
แว๊บแรกทั้งคู่ก็จำกันได้แล้ว
โทรณะทวงถามถึงสัญญาในวัยเด็ก ที่จะให้ความช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก ตอนนี้ตนจนมากต้องการความช่วยเหลือ
แต่ทรุปัทกลัวเสียหน้าต่อธารกำนัลเพราะ โทรณะแต่งตัวซอมซ่อ บ่งบอกฐานะ จึงแกล้งบอกปัดไปว่าไม่รู้จักขอทานคนนี้ ให้ไปที่อื่นเสีย
โทรณะงงมากว่า ทำไมเพื่อนพูดไม่ดีแบบนี้ จึงลองพูดย้ำเตือนความจำอีกครั้ง
กลายเป็นว่า ทรุปัทบอกว่าอยากได้อะไรก็เอาไป แค่ไหนก็ได้ แต่ได้แล้วก็รีบไปๆเถิด
โทรณะโมโหมากที่เพื่อนนอกจากจะจำกันไม่ได้ซึ่งแกล้งรึเปล่าก็ไม่รู้ ยังมามองว่าเราเป็นขอทานจึงไม่ยอมรับสมบัติเหล่านั้นและกล่าวอาฆาตไว้ว่า สักวัน ตนจะมาแก้แค้น
โทรณะ เดินออกจากวัง
เขาเดินออกมาจากวัง และมุ่งหน้าไปยัง นครหัสตินาปุระ
เพลานั้น เจ้าชายฝ่ายปาณฑพ และเจ้าชายฝ่ายเการพ กำลังเตะบอลกันอยู่แล้วไม่รู้ทำอีท่าไหน บอลตกน้ำไม่มีใครเก็บได้ โทรณะที่เข้ามาตอนนั้นเห็นพอดีจึงเอาต้นกกมาทำเป็นลูกศร และปาไปปักต่อๆๆๆกัน จนยาวพอที่จะดึงขึ้นมาได้
โทรณะช่วยเหล่าเจ้าชายเก็บบอล
เหล่าเจ้าชายเห็นก็ดีใจกัน และ สนใจในตัวบุรุษผู้นี้มาก และหลังจากนั้น กฤปาจารย์ พี่เขย ก็ได้มาพบและพูดคุยกันว่าเรื่องมันเป็นมายังไง โทรณะได้อาสาที่จะช่วยพี่เขยสอนที่นี่ พี่เขยจึงพาไปพบ "ภีษมะ"ผู้อาวุโสสุดในนคร ภีษมะรู้สึกยินดีที่บุตรฤๅษีภรัทวาชะผู้เก่งกาจจะมาขอเป็นราชครูในราชสำนัก จึงอนุญาต
ต่อมา โทรณะพาครอบครัวย้ายมาหัสตินาปุระ โดยอัศวัตถามาก็มีโอกาสได้เรียนร่วมกับเหล่าเจ้าชาย
ประเด็นมันอยู่ที่ตรงนี้ครับ
ด้วยความที่โทรณาจารย์ ไม่ได้สอนทุกอย่างให้ศิษย์ทุกคน แต่จะสอนให้คนคนเดียว นั่นคือ"อรชุน" น้องสามแห่งพี่น้องปาณฑพ ที่ดูจะเก่งกว่าทุกคนในหมู่พี่น้อง ฝ่ายเการพก็ไม่พอใจเรื่องนี้มาก
โทรณาจารย์รักอรชุนประดุจลูกชายอีกคน สอนวิชาต่างๆให้อย่างล้นหลาม
แต่ใดใดก็ตามล้วนมีข้อยกเว้น
นอกจากอรชุน อัศวัตถามาก็มีโอกาสได้เรียนกับอรชุนด้วย เพราะเป็นลูกอาจารย์ แต่ลึกๆแล้ว อัศวัตถามา ไม่ชอบพระเอกคนนี้เท่าไรนัก เพราะพ่อตนเองรักเหมือนลูกแท้ๆ
(ซ้าย)อรชุน รับบท โดย คุณ ชาเฮียร์ ชีค (ขวา)อัศวัตถามา รับบทโดย คุณ อันคิต โมฮาน จากมหาภารตะ ปี2013
"ทุรโยธน์"พี่ชายคนโตของฝ่ายเการพทั้งร้อยคน ก็เล็งเห็นช่องทางที่จะได้วิชาลับ จึงเอาม้าพันธุ์ดีและสมบัติไปให้อัศวัตถามา แลกกับการสัมพันธไมติ๊ด เฮ้ย สัมพันธไมตรีกัน และให้อัศวัตถามาสอนศาสตร์ต่างๆที่โทรณาจารย์ไม่ได้สอนโดยรวมอีกด้วย
อัศวัตถามาก็ถูกคอกับทุรโยธน์ยิ่งนัก เลยเป็นสหายกันนับแต่นั้นมา
จนเวลาล่วงเลยผ่านไปจนเจ้าชายทั้งหมดเรียนจบ
โทรณาจารย์ได้จัดให้มีการแสดงความสามารถของเหล่าเจ้าชายต่อหน้าสาธารณชน และในตอนที่อรชุนแสดงการยิงธนู "กรรณะ" ก็โผล่มา
และได้ท้าอรชุนสู้ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีการเหยียดหยามชาติกำเนิดจากฝ่ายปาณฑพ แต่ทุรโยธน์ ก็ได้ออกโรงปกป้อง จนได้พันธมิตรใหม่มาร่วมแก๊งค์
นอกจากนี้โทรณาจารย์ก็ยังได้ขอคุรุทักษิณา (ค่าตอบแทน)
เป็นการโจมตีแคว้นปัญจาละ
ซึ่งเหล่าเจ้าชายก็พากันไปตี
ฝ่ายเการพออกรบก่อน แต่แพ้
ฝ่ายปาณฑพจึงออกรบแทน และได้ชัยชนะกลับมาพร้อมกับจับตัวท้าวทรุปัทได้
เหล่าปาณฑพตีแคว้นปัญจาละแตกและจับตัวท้าวทรุปัทให้อาจารย์
โทรณาจารย์ได้ปล่อยตัวท้าวทรุปัทไปขอแลกกับแคว้นปัญจาละครึ่งหนึ่ง และบอกว่าที่ทำไปก็เพียงแค่สั่งสอนเท่านั้น หลังจากนี้อะไรที่แล้วมาก็ขอให้แล้วกันไป
แต่ทรุปัทกลับแค้นกว่าเดิมเพราะเสียหน้ามากๆ บวกกับเจ็บแค้นที่ตนไม่มีบุตร ที่จะเก่งกาจแบบอรชุนเลย
เมื่อได้รับการปล่อยตัวจึงไปทำพิธียัชญะ บูชาไฟขอบุตรจากเทพ ซึ่งก็ได้มาสองคนคือ "ธฤษฏัทยุมน"(อ่านว่า ทิด-สะ-ตัด-ทะ-ยุ-มัน-นะ)โอ้โห่ชื่อโคตรยาวและอ่านโคตรยาก คนที่สองคือเทราปตี(อ่านว่า ทะ-เรา-ปะ-ตี หรือ เทรา-ปะ-ตี ไม่ใช่เท-รา) ซึ่งเทราปตี ต่อมาก็ได้แต่งงานกับเจ้าชายปาณฑพ ทั้ง5(เยี่ยม แต่งทีเดียวได้ผัว5คน)
กำเนิดพระนางเทราปตี
เป้าหมายของทั้งสองคนคือทำลายโทรณาจารย์และราชวงศ์กุรุให้ย่อยยับ
ที่จริงแล้วทรุปัทแกมีลูกสาวคนโตอยู่คนหนึ่งนามว่า "ศิขัณฑิน" ได้รับการเลี้ยงดูแบบเด็กชายจนเมื่อเติบโตขึ้นก็เป็นสตรีที่แข็งแกร่งมาก แต่ได้ออกไปจากนครปัญจาละเพราะไปหยิบพวงมาลัยต้องห้ามมาสวมใส่
ต่อๆ เดี๋ยวไปไกล
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ทุรโยธน์ไปกระทำแผนการชั่วๆก็มักมีอัศวัตถามาร่วมด้วยทุกครั้ง ราวกับว่าเขาเป็นลูกขุนพลอยพยักชั้นดีของทุรโยธน์เลย
อัศวัตถามา จาก มหาภารตะ ปี2013 รับบทโดย คุณ อันคิต โมฮาน
เขาได้ช่วยทุรโยธน์และกรรณะรบขยายอาณาจักรอยู่ตลอด
เมื่อปาณฑพถูกเนรเทศหลังจากแพ้พนัน อัศวัตถามาและเดอะแก๊งค์ก็นอนตีพุงในกรุงหัสตินาปุระสบายใจไปอีก13ปี
จนกระทั่งในปีสุดท้ายของการเนรเทศ ที่ยุธิษฐิระ พี่ใหญ่ปาณฑพ ตบะแตก ประกาศสงครามกับพวกเการพ เพราะมันก่อกวนมาตลอดตั้งแต่เจอกัน
เมื่อเริ่มการศึก ในวันแรก อัศวัตถามาก็ซวยคนแรกเพราะได้เข้าต่อสู้กับพวกปาณฑพ จนถูกพี่น้องอุปปาณฑพ(บุตรชายของพี่น้องปาณฑพที่เกิดกับพระนางเทราปตี)ทำลายรถศึกจนเจ๊งกะบ๊ง ไม่เป็นท่า
อัศวัตถามากำลังถูกเหล่าปณฑพรุมกระทืบ(มั้ง)
ในการศึกครั้งนี้
ธฤษฏัทยุมน ประธานเสนาบดี(แม่ทัพใหญ่)ฝ่ายปาณฑพ เขาพยายามจะฆ่าโทรณาจารย์ให้ได้ตลอดการศึกแต่ไม่สำเร็จสักที
จนวันที่10 ภีษมะ ประธานเสนาบดี ฝ่ายเการพถูกลูกธนูนับร้อยดอกปักตัวไปตรึงกับพื้น โทรณาจารย์จึงขึ้นมาบัญชาการรบแทน
ความชั่วของผู้ใหญ่ในหัสตินาปุระนอกจากการอิกนอแร้นท์ ต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมของทุหศาสันที่เปลื้องผ้านางเทราปตีในระหว่างเล่นสกา ก็มีเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
วันที่13 โทรณาจารย์ สั่งจัดทัพเป็น จักรพยุหะ หรือ ค่ายกลรูปจักร(บางตำราว่า ศกุนิเป็นคนยุแก) ซึ่งตอนนั้น "อภิมันยุ" บุตรของอรชุนกับสุพัตรา รู้วิธีทะลวงเข้าแต่ไม่รู้วิธีออกได้บุกเดี่ยวเข้าไปในค่ายกล ด้วยหวังว่าตนทะลวงเข้าค่ายกลแล้วพี่น้องปาณฑพคงตามมาช่วย แต่ "ชัยทรัถ" ราชาแคว้นสินธุ น้องเขยของทุรโยธน์ได้มาขวางไว้ ทำให้เข้าไปช่วยอภิมันยุไม่ได้
ค่ายกลจักรพยุหะ
ความเลวมันอยู่ตรงนี้ครับ
กฎสงครามที่ว่าจะไม่ยิงพลขับ ไม่รุมทำร้าย ไม่สู้กับคนที่ใช้อาวุธคนละอย่าง ฯลฯ ณ ตอนนี้ ไม่มีใครทำแล้ว พออภิมันยุ หลุดเข้ามาได้ ฝ่ายเการพ ก็รุมทำร้ายอภิมันยุอย่างบ้าคลั่ง พลขับรถศึกของอภิมันยุก็ถูกยิงตาย เขาเองก็ไม่เหลืออาวุธใดๆ จนต้องยกล้อรถมาเป็นโล่ แต่เด็กอายุ16รบกับผู้ใหญ่เป็นกองทัพได้นานขนาดนี้ถือว่าเก่งมาก แต่มีขึ้นก็มีลง อภิมันยุไม่อาจต่อสู้ต่อไปได้อีกแล้วด้วยความเหนื่อยล้า จึงถูกฝ่ายเการพรุมสังหารอย่างโหดเหี้ยม
อภิมันยุถูกกองทัพเการพรุมสังหาร
มันน่าสะเทือนใจมาก ตรงที่ กฤปาจารย์ โทรณาจารย์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ผู้คุมกฎ แต่กลับละเมิดกฎเสียเอง ยิ่งไปกว่านั้น อัศวัตถามาก็อยู่ที่นั่นด้วยมากันทั้งครอบครัว
ฝ่ายปาณฑพโกรธแค้นนิ่งนัก อรชุนถึงกับสาบานว่าจะไปฆ่าชัยทรัถให้ได้ ไม่งั้นจะเผาตัวตาย(ซึ่งต่อมาชัยทรัถก็ถูกอรชุนฆ่าตาย)
วันที่15 ท้าวทรุปัทและท้าววิราฏ(พ่อตาอภิมันยุ) ถูกโทรณาจารย์ฆ่าตายโดยที่ท้าวทรุปัทยังไม่บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ธฤษฏัทยุมน ยิ่งโกรธคูณด้วยสิบ
ฝ่ายปาณฑพ จึงใช้แผนความจริงครึ่งเดียวโดยให้ภีมะไปฆ่าช้างศึกเชือกหนึ่งที่ชื่อว่า"อัศวัตถามา"(มันแปลกตรงที่ชื่อเขายากขนาดนี้ ยังมีคนตั้งชื่อมาเหมือนกัน แถมฝ่ายปาณฑพรู้ได้ไงว่าช้างนั่นชื่ออัศวัตถามา) แล้วตะโกนว่า
"อัศวัตถามาตายแล้ว!!!!!!"
โทรณาจารย์ไม่เชื่อว่าลูกชายคนเก่งของตนจะตายจึงไปถามพี่ยุธิษฐิระซึ่งยุติธรรมและเที่ยงตรงที่สุดว่า
"บุตรข้าตายแล้วกระนั้นรึ"
"ใช่ อัศวัตถามาตายแล้วจริงๆ"
และพี่แกก็แอบพูดเบาๆว่า
"แต่ไอ้ที่ตายน่ะ เป็นช้าง"
แผนการล้มช้างหลอกโทรณาจารย์
โทรณาจารย์ที่แค่ได้ยินว่าลูกชายตายก็เสียใจมากแถมไม่ได้ยินไอ้ท่อนหลังอีกว่าไอ้ที่ตายมันไม่ใช่คนแต่เป็นช้าง ก็คิดว่า ถ้าไม่มีลูกชายแล้ว ตนจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร จึงนั่งสมาธิละสังขารกลางสนามรบ
ธฤษฏัทยุมน ได้โอกาสฟันคอโทรณาจารย์ขาดทันทีโดยไม่สนกฎห่าเหวอะไรอีกแล้ว
ธฤษฏัทยุมนสังหารโทรณาจารย์
นั่นทำให้อัศวัตถามาระเบิดความโกรธออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขางัดเอาศร"นารายณ์อัสตระ" อาวุธพระนารายณ์ออกมาใช้ หวังจะฆ่าพวกปาณฑพให้สิ้นซาก
อัศวัตถามาแผลงศร "นารายณ์อัสตระ"
แต่พระกฤษณะอวตารของเจ้าของอาวุธทราบดีว่าสิ่งนี้ทำงานอย่างไร จึงบอกให้ฝ่ายปาณฑพก้มหัวลง อาวุธนี้จึงไม่ทำอันตรายต่อผู้ยอมศิโรราบ
อัศวัตถามาทั้งโกรธและหน้าเสียในเวลาเดียวกันเพราะนารายณ์อัสตระใช้ได้ครั้งเดียว ฝ่ายเการพเปลี่ยนประธานเสนาบดีอีกครั้งเป็น"กรรณะ"สหายรักของทุรโยธน์ ซึ่งก็ออกรบได้ไม่นานก็เสียชีวิต
จนกระทั่งสงครามวันสุดท้าย
"ทัาวศัลยะ"ลุงของพวกปาณฑพที่โดนหลอกมาอยู่ฝ่ายเการพแบบงงๆก็มาดำรงตำแหน่งแทน แล้วก็ถูกยิงตาย ทุรโยธน์จึงขึ้นมานำทัพแทน
แต่สุดท้ายแล้วธรรมะย่อมชนะอธรรม
สงครามทุ่งกุรุเกษตร
ในการศึกวันสุดท้าย
ทุรโยธน์ถูกภีมะตีจนขาหักและนอนรอความตาย ฝ่ายเการพก็เหลือนักรบเพียงแค่สามคนคือ กฤปจารย์ อัศวัตถามา และ กฤตวรมัน(ชาวยาทพทหารของพระกฤษณะ)
ทุรโยธน์แต่งตั้ง อัศวัตถามาให้เป็นประธานเสนาบดีคนสุดท้าย และขอให้ไปสังหารพวกปาณฑพให้ได้
ความเลวอย่างยิ่งยวดอีกอย่างของอัศวัตถามาอยู่ตรงนี้ครับ พอตกค่ำ นกกลางคืนมันเริ่มออกหากิน เขาเห็นเข้าจึงคิดจะใช้วิถีแห่งมือสังหาร คือลอบเข้าไปฆ่าดั่งนกเค้าแมวอาศัยความมืดโฉบเหยื่อ
ถูกแล้วครับ ที่ผ่านมาว่าเลวแล้วที่ละเมิดกฎสงคราม นี่ยิ่งละเมิดศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างยิ่ง ที่ทำร้ายคนตอนหลับ
อัศวัตถามาลอบเข้าไปในค่ายปาณฑพและฆ่าทุกๆคนตายหมด ใครที่หนีออกมา ลุงเขา กับกฤตวรมัน ก็ดักยิงตายหมดเช่นกัน
อัศวัตถามาเข้าไปในเต้นท์เต้นท์หนึ่ง และพบคนนอนอยู่5คน จึงเข้าใจว่าเป็นพี่น้องปาณฑพจึงฆ่าทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ฆ่า ธฤษฏัทยุมน และศิขัณฑิน แก้แค้นให้พ่อได้สำเร็จ
เขากวาดทั้งค่ายตายเรียบ และมุ่งหน้าไปหาทุรโยธน์สหายรักโดยเอาหัวคน5หัวไปยืนยัน
เมื่อมาถึง เขาก็ได้เอาหัวทั้ง5ให้ทุรโยธน์ดู
ทุรโยธน์ที่กำลังจะตายด้วยพิษบาดแผลก็เกิดอาการช็อคขึ้น
"โอ้!!! อัศวัตถามา เจ้าทำอะไรลงไป?"
ที่ทุรโยธน์ตกใจเพราะ หัวทั้ง5ไม่ใช่พี่น้องปาณฑพแต่เป็นอุปปาณฑพทั้ง5คน ซึ่งจริงๆเวลานั้น พระกฤษณะ สาตยกี พี่น้องปาณฑพและนางเทราปตีพักอยู่อีกค่ายหนึ่ง เลยทำให้เกิดการเข้าใจผิดและฆ่าเป้าหมายไม่ถูกนั่นเอง
ทุรโยธน์ เห็นว่า เพื่อนคนนี้กู่ไม่กลับแล้ว เขาทำเรื่องชั่วๆโดยไม่อายเลย
ทั้งฆ่าคนตอนหลับ ไร้ศักดิ์ศรียิ่งนัก ที่สำคัญ 5คนที่ตายเป็นเด็กวัยรุ่นตอนปลายกันทั้งนั้น ฆ่าเด็กได้โดยไม่รู้สึกว่าตนผิด แม้ในใจลึกๆก็แอบดีใจว่าอย่างน้อยปาณฑพก็ไร้ทายาทสืบสกุลแล้ว พวกเขาจะครองราชย์ต่อไปโดยปราศจากความสุข แต่ก็นะ การกระทำครั้งนี้ของอัศวัตถามามันเกินกว่าจะรับได้ ทุรโยธน์ก็สิ้นใจในที่สุด
อัศวัตถามาจึงจัดพิธีศพให้ทุรโยธน์
ขณะเดียวกัน ปาณฑพและคนที่ยังไม่ตาย ก็ได้มาพบเข้าจึงรู้ว่า คนเลวที่จะทำแบบนี้ได้มีแต่อัศวัตถามาเท่านั้น เทราปตีเสียใจมากที่ลูกชายทั้ง5ของตนถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็น การไล่ล่าจึงเกิดขึ้น
อัศวัตถามาหนีไปหลบอยู่กับ"ฤๅษีวยาส" แต่ทีมไล่ล่าก็ตามมาจนพบและได้เข้าต่อสู้กัน
อัศวัตถามาพบฤๅษีวยาส
พวกปาณฑพไม่อาจทำอะไรเขาได้เลย เนื่องจากพลังจากอัญมณี
อรชุนจึงประทับศรพรหมาสตร์ เตรียมยิง
อัศวัตถามาก็ประทับศรพรหมเศียรเช่นกัน
แต่ฤๅษีวยาส และ "นารถมุณี"(ที่ชอบพูดว่านาร้าย นารายณ์) ก็ได้มาห้ามไว้ และบอกว่าถ้าอาวุธแห่งเทพทั่งสองปะทะกันโลกจะถึงคราวฉิบหาย อรชุนจึงลดอาวุธลง
แต่อัศวัตถามากลับร่ายคาถาสั่งให้ศรไปทำลายเด็กในครรภ์ของ"อุตรา"ภรรยาของอภิมันยุ (wtf!?!!!?)
อุตราก็เหมือนกับตายทั้งเป็นที่ต้องเห็นลูกถูกฆ่าโดยทำอะไรไม่ได้
พระกฤษณะทนไม่ไหวดึงสุทัศนจักรอาวุธพระนารายณ์ ออกมาและขว้างไปตัดมณีบนหน้าผากของอัศวัตถามาขาดสะบั้น เมื่อไร้ขุมพลัง อัศวัตถามาพ่ายแพ้ในที่สุด
(ผมก็ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นโดนกระทืบหรือไม่)
พระกฤษณะปราบอัศวัตถามา
พระกฤษณะคืนชีพให้กับเด็กในท้องซึ่งต่อมาก็จะกลายเป็นกษัตริย์ต่อจากพี่ยุธิษฐิระ
แต่ยัง
มันยังไม่จบแค่นั้น
ในเมื่ออัศวัตถามาเห็นความตายเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่เคยกลัวความตาย ซ้ำยังหยิบยื่นมันให้ผู้อื่นราวกับแจกซองผ้าป่า ก็จงให้ความตายเป็นรางวัล
ยังไงก็ตาม รางวัลนั้นไม่ได้ได้มาง่ายๆ
พระกฤษณะสาปอัศวัตถามาว่า
"คนชั่วอย่างเจ้า หาได้กลัวความตายกระนั้นรึ ย่อมได้ ในเมื่อเจ้าไม่เกรงกลัวความตาย ข้าก็จะให้ความตายเป็นรางวัลของเจ้า แต่รางวัลนี้เจ้าจะไม่ได้ได้มันไปง่ายๆ หลังจากนี้ข้าขอให้ความตายไม่มากล้ำกรายชีวิตเจ้า แต่เจ้าจะต้องอยู่ในสภาพที่อัปลักษณ์ ตามผิวหนังมีแต่แผลพุพอง โลหิตไหลออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย เจ้าจะไร้ที่อยู่อาศัย ไร้ผู้คนที่จะจดจำเจ้าได้ เจ้าจะต้องอยู่ลำพังไปตลอดชีวิต เจ้าจะต้องทุกข์ทรมานกับการมีลมหายใจอยู่ต่อไป และจะต้องมีชีวิตยืนยาวอยู่แบบนี้ ในสภาพอัปรีย์เช่นนี้ ร่อนเร่พเนจรไปเรื่อยๆชั่งกัปชั่วกัลป์!!!!!!!"
พระกฤษณะสาปอัศวัตถามา
คำสาปนี้จะคงอยู่กับบุรุษผู้นี้ ไปจนกว่าจะพบพระกัลกิยาวตาร(อวตารปางสุดท้ายของพระนารายณ์) จึงจะพ้นคำสาป
ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ผ่านมาประมาณ สามพันปี แล้ว ไม่มีใครได้พบเห็นอัศวัตถามาอีกเลย
แต่ไม่แน่นะ บางที คนจรจัดหน้าตาโทรมๆ คลุมผ้าทั้งตัวที่คุณเห็น อาจเป็นอัศวัตถามาก็ได้
บางตำราว่า กฤปาจารย์ ลุงของเขาก็ยังไม่ตายเช่นกัน และรอการมาถึงของพระกัลกิยาวตาร เช่นกันเพื่อจะได้เป็นอาจารย์สอนองค์นารายณ์อวตาร
บ้างก็บอกว่า อัศวัตถามา จะกลายเป็นฤๅษีวยาสคนต่อไป
ปิดเรื่องราวของบุรุษผู้ที่มีความตายเป็นรางวัลลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะฤๅษีวยาสคนปัจจุบันท่านก็ไม่ได้กล่าวถึงอัศวัตถามาอีกเลยหลังจากนั้น
ส่วนในหนังสือ สงครามภารตคำกลอน ของ พระยาอุปกิตศิลปสาร ก็ไม่ได้กล่าวว่าอัศวัตถามาถูกสาป แต่กล่าวว่า ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เขาถูกตัดมณีออกแล้วมอบให้เทราปตีก่อนที่พระนางจะมอบให้ยุธิษฐิระต่อไป และพวกปาณฑพปล่อยไปเพราะเห็นว่าเป็นลูกอาจารย์
"แต่เห็นเป็นบุตรครูจึงสู้อด-
พระทัยงดโทษไว้มิได้ฆ่า
แต่ริบแก้วทำขวัญกัลยา
ให้นางคลาคลายโกรธยกโทษทัณฑ์"
อัศวัตถามานั้น เป็นดั่งเทพเจ้าแห่งความโกรธ ถ้าหากเขาโมโหจนระเบิดออกมาเต็มที่จะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้เลยด้วยความที่เป็นอวตารของพระศิวะ และมีอัญมณีเสริมพลัง
กล่าวได้ว่า ในตอนโมโหนั้น ระดับสเกลพลังจะพุ่งถึงระดับ "มหมหารถี" ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของนักรบฮินดูเลยทีเดียว
นอกจากนี้ อัศวัตถามายังมีบทบาทในเกม fate grand order เช่นเดียว กับ อรชุน และกรรณะ ซึ่งเนื้อหาค่อนข้างจะอิงจากปกรณัมอินเดีย
สรุป
อัศวัตถามา เป็นบุตรของพราหมณ์ยากจนคนหนึ่งที่เมื่อวันหนึ่งชีวิตของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล จากการเข้าไปเป็นครูของบิดา ตนเองได้ไปเรียนด้วย และการคบคนพาล ก็พาลพาไปหาผิด ซึ่งกลายเป็นว่าในท้ายที่สุดแล้ว ตนเองก็ทำเลวกว่าคนพาลคนนั้นเสียอีก(ทุรโยธน์)
และมันเป็นไปไม่ได้ที่เรียนมาขนาดนี้จะไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากบิดา ผู้เป็นสุดยอดราชครู แต่การคบเพื่อนมีส่วนในชีวิตของคนคนหนึ่งมากมายเกินกว่าจะคิดได้นัก
ตั้งแต่การหัวเราะเยาะต่อการข่มเหงนางเทราปตีในท้องพระโรง การรุมสังหารอภิมันยุ หนุ่มน้อยวัย16 เด็กอายุคราวลูกได้อย่างเลือดเย็น ไม่พอยังตามไปฆ่าลูกของอภิมันยุที่อยู่ในท้องของอุตตราอีก ฆ่าคนในตอนหลับตายเป็นพะเรอเกวียน โดยไม่รู้สึกผิดใดๆ นี่เกินกว่าคำว่าคนแล้ว
อัศวัตถามา จาก ซีรีย์ ธรรมเกษตร ปี2015 รับบทโดย คุณ ซอรัป โกยัล
แต่เมื่อเขาได้รับคำสาปจากพระกฤษณะ
ผมเชื่อว่า วันนี้
เขาคงจะสำนึกผิดอยู่ที่ไหนสักแห่ง
บนโลกใบนี้
จนกว่าเขาจะได้พบ
พระกัลกิยาวตาร
และในตอนนั้น รางวัลที่เขาปรารถนามาทั้งชีวิตเขาก็คงจะได้รับมันในที่สุด
1 บันทึก
7
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เล่าเรื่อง ปกรณัมอินเดีย ในสไตล์ของผม
1
7
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย