12 เม.ย. 2021 เวลา 07:41 • หนังสือ
#39 เล่ม 2 บทที่ 16 หน้า 245 ~ 249
...
ในตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่จะนำ "แสงสว่าง" ให้ส่องไปยังวิธีที่พวกเธอใช้จัดการกับการซื้อขายสินค้าและบริการบนโลกของเธอด้วย
N : พระองค์จะแนะนำอะไรหรือครับ❓
...
...
...
G : ไม่ได้จะแนะนำแต่จะท้า
✴️ฉันขอท้าให้พวกเธอยกเลิกระบบทางการเงินทั้งหมด ยกเลิกธนบัตรทุกใบ เหรียญทุกเหรียญ รวมทั้งสกุลเงินทั้งหมดของทุกประเทศและเริ่มต้นกันใหม่
✴️จงพัฒนาระบบทางการเงินระหว่างประเทศที่เปิดเผยสู่สาธารณะ*** ที่ทุกคนสามารถดูได้ ตามรอยได้ทันที และตรวจสอบได้อย่างเต็มรูปแบบ
✴️จงสร้าง 🔸ระบบผลตอบแทนแห่งโลกขึ้นมา🔸ที่ซึ่งทุกคนจะได้รับบัญชีรายรับ(เครดิต) สำหรับการให้บริการและขายสินค้าที่ตนผลิต และบัญชีรายจ่าย(เดบิต) สำหรับการใช้บริการและซื้อสินค้าที่ตนบริโภค
✴️ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับระบบรายรับ(เครดิต) และรายจ่าย(เดบิต)นี้ ผลตอบแทนจากการลงทุน มรดก การชนะเกมการพนัน เงินเดือนและค่าจ้าง ทิปและเงินรางวัล ทุกสิ่งทุกอย่าง และจะไม่สามารถซื้อขายอะไรได้เลยถ้าปราศจากเครดิต จะไม่มีสกุลเงินที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนกันใดๆ และประวัติการซื้อขายของทุกผู้คนจะถูก 🔸เปิดเผยให้ทุกคนเห็นได้🔸
มีคำกล่าวว่า "เอาบัญชีธนาคารของคนๆนั้นมาให้ฉันดูสิ แล้วฉันจะบอกเองว่าเขาเป็นคนอย่างไร"
ระบบนี้ให้ภาพที่ใกล้เคียงกับประโยคที่ว่ามานี้ ผู้คนจะ (หรืออย่างน้อยที่สุดก็สามารถที่จะ) รู้เกี่ยวกับตัวเธอได้มากขึ้นกว่าที่รู้อยู่ในตอนนี้มาก แต่ก็ใช่ว่าพวกเธอจะเพียงแค่ได้รู้เรื่องของกันและกันมากขึ้นเท่านั้นนะ แต่ยังจะได้รู้ "ทุกๆเรื่อง" มากขึ้นอีกด้วย รู้ถึงสิ่งที่บริษัทใช้จ่าย รู้มากขึ้นว่าต้นทุนและราคาขายของสินค้าเป็นเท่าไหร่
(พวกเธอนึกภาพออกไหมว่าพวกบริษัทจะทำอย่างไรถ้าต้องมีตัวเลขสองชุดติดอยู่ที่ป้ายราคา นั่นคือ ตัวเลขราคาขายกับตัวเลขราคาทุน❓ นั่นจะทำให้ราคาสินค้าลดลงไหมหรือคิดว่าไม่❗ นั่นจะช่วยเพิ่มการแข่งขันและส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรมหรือเปล่า❓ พวกเธอนึกภาพผลที่จะตามมาไม่ออกเลยทีเดียวล่ะ)
✴️ภายใต้ระบบผลตอบแทนแห่งโลกที่สร้างขึ้นใหม่นี้ (Worldwide Compensation System : WCS) การถ่ายโอนรายรับ(เครดิต)และรายจ่าย(เดบิต)จะเกิดขึ้นแบบทันทีทันใดและเปิดเผยอย่างเต็มที่ นั่นคือ ไม่ว่าใครที่ไหนก็สามารถตรวจสอบบัญชีของใครหรือองค์กรไหนเวลาใดก็ได้ ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ไม่มีอะไรเป็นความลับหรือเป็น "เรื่องส่วนตัว"
ระบบนี้ (WCS) จะหัก 10% ของรายรับทั้งหมดในแต่ละปีจากรายได้ของผู้ที่สมัครใจขอให้หักจากบัญชีของตน จะไม่มีการเก็บภาษีรายได้ ไม่มีเอกสารอะไรให้ต้องกรอก ไม่มีตัวเลขให้ต้องตกแต่ง ไม่ต้องคิดหา "อุบาย" เพื่อหลบซ่อนหรือทำให้คลุมเคลือ❗ เพราะทุกอย่างมีบันทึกและเปิดเผยไว้หมด
1
ทุกคนในสังคมจะสามารถเห็นว่าใครบ้างที่เลือกขอให้หัก 10% เพื่อประโยชน์สูงสุดของส่วนรวมและใครบ้างที่ไม่ยอม เงินที่ได้จากการสมัครใจขอให้หักนี้จะนำไปสนับสนุนโครงการหรือการให้บริการของภาครัฐ ซึ่งได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน
ทั้งระบบจะเป็นไปอย่างเรียบง่ายและโปร่งใส
N : ประชาคมโลกจะไม่มีวันตกลงเรื่องนี้กันได้หรอกครับ
G : แน่อยู่แล้วว่าไม่
แล้วเธอรู้ไหมว่าทำไม❓
✴️เพราะระบบแบบนั้นจะทำให้ผู้คนไม่สามารถทำสิ่งที่ตนไม่อยากให้คนอื่นรู้ได้อีกต่อไป✴️
แล้วทำไมพวกเธอถึงต้องอยากทำอะไรอย่างนั้นด้วยล่ะ❓
ฉันจะบอกให้ว่าทำไม เพราะในปัจจุบันพวกเธอใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ระบบสังคมที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันบนพื้นฐานของการ "ต้องฉกฉวยผลประโยชน์" "ต้องอยู่เหนือกว่า" "ต้องได้มากที่สุด" และ "ผู้เข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่รอด"
เมื่อจุดมุ่งหมายและเป้าหมายของสังคมมุ่งไปที่ความอยู่รอดของทุกคน ผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันของทุกคน และการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน (✨ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมที่ตื่นรู้แล้ว✨) เมื่อนั้นความจำเป็นที่จะต้องหลบซ่อน ข้อตกลงใต้โต๊ะ และเงินที่ซ่อนเร้นได้ก็จะหายไป
เธอตระหนักไหมว่า การคดโกงที่มีมาช้านานจะล้มหายตายจากไปมากแค่ไหนจากการนำระบบนี้มาใช้❓ (ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องความไม่เป็นธรรมและความไม่เสมอภาคที่จะลดลง)
ความลับอยู่ตรงนี้ หลักสำคัญอยู่ตรงนี้
🌟การเปิดเผย🌟 (Visibility)
N : ว้าววว ช่างเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมจริงๆ คิดได้ยังไงกันครับเนี่ย ที่ให้เปิดเผยธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดให้ทุกคนสามารถดูได้อย่างเต็มที่ ผมพยายามหาเหตุผลมาแย้งว่าทำไมแนวคิดนี้ถึง "ไม่ถูกต้อง" ทำไมมันถึง "ใช้ไม่ได้" แต่ผมหาเหตุผลมาแย้งไม่ได้เลยสักข้อ
G: แน่นอนว่าเธอหาเหตุผลมาแย้งไม่ได้หรอก ✴️เพราะเธอไม่มีอะไรให้ต้องหลบซ่อนไง✴️
แต่ลองนึกภาพดูสิว่ากลุ่มมหาเศรษฐีและกลุ่มผู้มีอำนาจจะทำอย่างไรและจะส่งเสียงร้องโหยหวนมากแค่ไหนถ้าพวกเขาเห็นว่าทุกความเคลื่อนไหว ทุกการซื้อขาย ทุกข้อตกลง ทุกพฤติกรรมขององค์กร ทุกการตั้งราคาและการจ่ายค่าจ้าง รวมไปถึงทุกการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนจะถูกรู้เห็นได้จากทุกคนเพียงแค่ดูจากตัวเลขที่ปรากฏ❓
ฉันจะบอกเธอว่า : ✴️ไม่มีอะไรที่จะก่อให้เกิดความเท่าเทียมกันได้เร็วไปกว่าการเปิดเผยอีกแล้ว✴️
🌟การเปิดเผยคืออีกความหมายหนึ่งอันเรียบง่ายของคำว่า "ความจริง"🌟
🌟จงรู้ความจริงแล้วความจริงนั้นจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ🌟
รัฐบาล บริษัท และผู้มีอำนาจต่างก็รู้เรื่องนี้ดี ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมให้ความจริง (ความจริงอันเรียบง่ายและตรงไปตรงมา) ได้เป็นรากฐานของระบบการเมือง สังคม และระบบเศรษฐกิจที่พวกเขาสร้างขึ้น
ในสังคมอารยะ (สังคมที่ตื่นรู้แล้ว) 🔸จะไม่มีความลับ🔸
ทุกๆคนต่างรู้ว่าคนอื่นๆมีอะไร ได้รับเท่าไหร่ สิ่งที่แต่ละคนจ่ายไปไม่ว่าจะเป็นค่าจ้าง ภาษีและผลประโยชน์ สิ่งที่แต่ละบริษัทคิดค่าใช้จ่าย การซื้อและขายด้วยจำนวนเงินมากแค่ไหน กำไรเท่าไหร่...รู้ทุกเรื่องเลย ✨ทุกเรื่อง✨
เธอรู้ไหมว่าทำไมเรื่องเหล่านี้ถึงเกิดขึ้นได้ในสังคมอารยะ❓
คำตอบก็คือ ✴️เพราะไม่มีใครในสังคมอารยะจะอยากได้หรือมีอะไรก็ตามที่มาจากความสูญเสียของผู้อื่น✴️
N : เป็นวิธีการใช้ชีวิตที่สุดขั้วมาก
G : ใช่ มันจะดูสุดขั้วในสังคมที่ยังไม่พัฒนา (ไม่ตื่น) เท่านั้น ทว่าในสังคมอารยะจะเห็นเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว
N : ผมว่าแนวคิดเรื่อง "การเปิดเผย" นี้น่าสนใจมากนะครับ แล้วเราจะขยายเรื่องนี้ออกไปนอกเหนือเรื่องเงินๆทองๆได้หรือเปล่า❓
จะใช้เป็นหลักสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวได้ด้วยมั้ย❓
...
...
...
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
*** หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1997 ใครจะไปคิดว่า ณ ปัจจุบัน (2018) ได้เกิดเทคโนโลยีทางการเงินที่เรียกว่า blockchain ขึ้นมาแล้วจริงๆ เป็นระบบที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของทุกๆคนได้ (และไม่เฉพาะเรื่องทางการเงินเท่านั้น เพราะยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเรื่องการเลือกตั้ง การศึกษา ฯลฯ) อ่านเพิ่มเติมเรื่อง blockchain ได้ตามลิ้งค์ครับและผมแนะนำว่าควรอ่านอย่างยิ่ง
แอดมิน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา