13 เม.ย. 2021 เวลา 07:39 • หนังสือ
#40 เล่ม 2 บทที่ 16 หน้า 249 ~ 255
...
N : ผมว่าแนวคิดเรื่อง "การเปิดเผย" นี้น่าสนใจมากนะครับ แล้วเราจะขยายเรื่องนี้ออกไปนอกเหนือเรื่องเงินๆทองๆได้หรือเปล่า❓ จะใช้เป็นหลักสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวได้ด้วยมั๊ย❓
...
...
...
G : มีคนหวังให้เป็นอย่างนั้น
N : แต่ก็ยังไม่ได้เป็น❓
G : โดยทั่วไปแล้วก็ไม่ 💢โลกของเธอยังทำแบบนั้นไม่ได้ คนส่วนใหญ่ยังมีเรื่องให้ต้องหลบซ่อนมากมายเกินไป💢
N : ทำไมล่ะครับ❓ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น❓
G : ความสัมพันธ์ส่วนตัว (จริงๆก็ทุกความสัมพันธ์นั่นล่ะ) มันดันกลายเป็นเรื่องของ 🔸ความสูญเสีย🔸
ผู้คนกลัวว่าจะต้องสูญเสียหรือพ่ายแพ้อีกครั้ง ทว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ "ยอดเยี่ยมที่สุด" (แน่นอนว่าคือความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว) คือความสัมพันธ์ในแบบที่ 🔸ต่างฝ่ายต่างรู้ทุกเรื่อง🔸 ซึ่งการเปิดเผยนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่หลักการสำคัญเท่านั้นนะ ✨แต่เป็นหลักการเดียวเลยด้วยซ้ำ✨
ไม่มีความลับอะไรทั้งนั้น ความสัมพันธ์ลักษณะนี้จะไม่มีอะไรให้ต้องปิดบัง ไม่มีอะไรต้องปกปิด แต่งเติม หลบซ่อน หรือ เสแสร้งแกล้งทำ ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้ ไม่มีอะไรที่ต้องคาดเดา ไม่ต้องมานั่งเล่นเกม และไม่มีใครต้องมาคอย "เล่นละคร" "คิดวางแผน" หรือ "ประจบสอพลอ"
N : แต่ถ้าทุกคนรู้ทุกอย่างที่เรากำลังคิด...
G : เดี๋ยวก่อน เราไม่ได้กำลังพูดถึงการไม่มีโลกส่วนตัวทางความคิดหรือทางใจนะ ไม่ได้หมายถึงว่าจะไม่มีพื้นที่ปลอดภัยไว้ให้สำหรับกระบวนการส่วนตัวทั้งหลายของเธอเลย ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
✴️ ฉันหมายความเพียงให้เธอเปิดเผยและซื่อสัตย์ในยามที่ต้องติดต่อกับผู้อื่น เพียงให้เธอพูดความจริงออกไปอย่างซื่อตรง เมื่อถึงเวลาที่เธอต้องพูดความจริงก็จงพูดความจริงอย่าได้ปิดบัง
✴️ ฉันหมายถึงการที่เธอจะไม่พูดโกหก ไม่พูดอย่างคลุมเคลือ ไม่ใช้คำพูดเพื่อครอบงำจิตใจของอีกฝ่าย หรือใช้คำพูดมากมายเพื่อบิดเบือนความจริงอีกต่อไป อย่างที่คนทั่วไปกำลังทำกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
✴️ นี่เป็นเรื่องของการพูดออกไปอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา พูดออกไปตามความเป็นจริงอย่างที่เป็นและไม่มีลับลมคมใน นี่เป็นเรื่องของการรับประกันว่าทุกๆคนจะได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนและรู้ทุกอย่างที่พวกเขาจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ นี่เป็นเรื่องของความยุติธรรมและการเผยให้รู้ และแน่นอนมันเป็นเรื่องของ "การเปิดเผย" (Visibility)
✴️ ทว่านี่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเอาทุกความคิดที่มี ทุกความกลัวที่เก็บไว้ ทุกความทรงจำดำมืด ทุกการตัดสินใจ ทุกความคิดเห็น หรือทุกปฏิกิริยาตอบสนอง มาวางไว้บนโต๊ะเพื่อถกเถียงและต้องตรวจสอบให้ได้ นี่ไม่ใช่ "การเปิดเผย" แล้ว แต่เป็นความเสียสติ มันจะทำให้เธอบ้าเอาได้ง่ายๆ
เราเพียงพูดถึงการสื่อสารที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา เปิดเผย ซื่อสัตย์ จริงใจ และอย่างครบถ้วนเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น มันยังถือเป็นแนวคิดที่แปลกประหลาดและไม่ค่อยมีใครนำมาใช้อยู่ดี
N : ใช่เลยครับ พูดอีกก็ถูกอีก
G : แต่ถึงอย่างนั้น มันยังถือเป็นแนวคิดที่แปลกประหลาดและไม่ค่อยมีใครนำมาใช้อยู่ดี
N : พระองค์น่าจะไปเล่นละครนะ
G : ล้อเล่นหรือเปล่า❓ ฉันก็เล่นอยู่
N : แต่เอาจริงๆเลยนะครับ นี่เป็นแนวคิดที่เยี่ยมจริงๆ ลองคิดดูสิว่าถ้าสังคมทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาด้วยหลักการของ "การเปิดเผย" พระองค์แน่ใจหรือครับว่ามันจะได้ผล❓
G : ฉันจะบอกเธอให้ว่า ความป่วยไข้บนโลกครึ่งหนึ่ง ความวิตกกังวลบนโลกครึ่งหนึ่ง ความขัดแย้งบนโลกครึ่งหนึ่ง ความทุกข์ระทมบนโลกครึ่งหนึ่ง 🌟จะหายไปภายในวันพรุ่งนี้เลย🌟
โอ้ อย่าได้เข้าใจผิด เพราะมันจะยังมีความโกรธแค้นและความไม่พอใจอยู่ในตอนแรก เมื่อในที่สุดผู้คนก็ได้ค้นพบว่าคนทั่วไปถูกโกงไปมากแค่ไหน ถูกหลอกใช้เหมือนสินค้าที่ใช้แล้วทิ้ง ถูกครอบงำ โกหก และหลอกลวงซึ่งหน้าไปมากเพียงใด ไม่ว่าใครก็ต้องโกรธและไม่พอใจเป็นธรรมดา แต่ "การเปิดเผย" จะชำระล้างเรื่องพวกนี้ได้เกือบทั้งหมดภายใน 60 วัน ทำให้มันหายไปเลย
ฉันขอเชิญเธออีกครั้ง...ให้ลองคิดดู
เธอคิดว่าตัวเธอเองจะใช้ชีวิตแบบนี้ได้ไหม❓
ชีวิตที่ไม่มีความลับและเปิดเผยอย่างสมบูรณ์❓
ถ้าตอบว่าไม่ได้...เธอมีเหตุผลอะไร❓
เธอไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องอะไรที่เธอกำลังปิดบังอยู่❓
เรื่องที่เธอพูดกับใครบางคนมันไม่ใช่ความจริงอย่างนั้นหรือ❓
ความจริงอะไรที่เธอไม่ยอมพูดออกไป❓
การโกหกด้วยการไม่ยอมพูดบางสิ่งเพราะเธอได้รับผลประโยชน์บางอย่างได้นำเธอสู่โลกที่เธออยากอยู่จริงๆหรือเปล่า❓
การหลอกลวง (จากตลาด จากสถานการณ์บางอย่าง หรือเพียงแค่จากใครบางคน) ผ่านการไม่ยอมพูดความจริงและการปิดบังซ่อนเร้นนั้นเป็นประโยชน์ต่อพวกเราจริงๆแน่หรือ❓
"ความลับส่วนตัว" จะช่วยให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และชีวิตของผู้คนดำเนินไปได้อย่างดีจริงๆหรือ❓
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง❓
แต่ที่ยอกย้อนก็คือ เธอไม่เห็นหรือว่านี่คือเรื่องที่เธอกลัวเมื่อเธอต้องกลับไปพบกับพระเจ้าก่อนเป็นอันดับแรกหลังจากที่เธอตาย❓★
เธอไม่เข้าใจหรือว่าสิ่งที่เธอกลัวมาโดยตลอดก็คือ งานจะจบ เกมจะสิ้นสุด ความวุ่นวายจะยุติ การฝึกซ้อมจะเสร็จสิ้น การลวงหลอกที่มีมายาวนาน (ไม่ว่าจะมากหรือน้อย) จะต้องมาถึงจุดจบ❓
★ความเชื่อของชาวคริสต์คือ หลังจากเสียชีวิตแล้วจะต้องไปพบกับพระเจ้าก่อนเพื่อได้รับคำตัดสินว่าจะได้กลับไปอยู่กับพระองค์หรือตกนรกไปชั่วนิรันดร์ ชาวคริสต์ไม่มีความเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดใหม่ ~ แอดมิน
🌟 ทว่าข่าวดีก็คือ ไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องหวั่นเกรง ไม่มีใครจะมาตัดสินอะไรเธอทั้งนั้น ไม่มีใครจะมากล่าวหาว่าเธอ "ผิด" ไม่มีใครจะส่งเธอไปนรกให้ถูกไฟแผดเผาไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด 🌟
(สำหรับพวกเธอที่เป็นชาวโรมันคาทอลิก ไม่มีใครจะส่งพวกเธอไปยังสถานที่ชำระความผิดบาปแต่อย่างใด)
(สำหรับพวกเธอชาวมอร์มอน★ ไม่มีใครจะถูกขังเอาไว้ในสวรรค์ชั้นต่ำสุดตลอดไป โดยไม่อาจขึ้นสู่สวรรค์ชั้นสูงสุดได้ ทั้งจะไม่ถูกตีตราว่าเป็นทายาทอสูรและถูกขับไล่ไปชั่วนิรันดร์สู่ดินแดนที่ไม่รู้จัก)
★ชาวมอร์มอน : ศาสนจักรของพระคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-Day Saints) หรือเรียกสั้นๆในชื่อ มอร์มอน (Mormons) ศาสดานามว่า โจเซฟ สมิธ คัมภีร์ที่ยึดถือคือ พระคัมภีร์มอร์มอน (The book of Mormon) ~ ผู้แปล
(และสำหรับพวกเธอชาว......)
เธอคงเข้าใจประเด็นของฉันแล้ว ภายใต้กรอบแนวคิดของแต่ละศาสนา พวกเธอได้สร้างแนวคิดและมโนคติเกี่ยวกับโทษทัณฑ์ร้ายแรงที่ต้องพบเจอหลังความตาย ฉันเห็นพวกเธอดื่มด่ำไปกับสารพัดเรื่องราวที่สร้างกันขึ้นมานี้ แต่ฉันละเกลียดจริงๆที่ต้องบอกพวกเธอว่า 🔸มันไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอกนะ🔸
✴️บางที ถ้าเธอสลัดความกลัวว่าทุกสิ่งที่เป็นเธอจะต้อง "ถูกเปิดเผย" หลังความตายทิ้งไปได้ เธออาจจะไม่กลัวว่าทุกอย่างที่เป็นเธอจะต้องถูกเปิดเผยในยามที่เธอมีชีวิตอยู่ด้วยเหมือนกัน✴️
N : มันจะไม่เป็นอะไรที่...
G : ใช่ มันจะไม่เป็นอย่างนั้นหรือไง❓ และนี่คือหลักปฏิบัติที่จะช่วยให้เธอเริ่มต้น ลองย้อนกลับไปตอนต้นของหนังสือเล่มนี้และทบทวนเรื่อง "การบอกความจริงห้าระดับ" ดู★ จงตั้งปณิธานว่าจะจดจำและนำไปปฏิบัติ จงแสวงหาความจริง จงพูดแต่ความจริง จงใช้ชีวิตอยู่กับความจริงทุกวัน ให้ปฏิบัติอย่างนี้กับตัวเองและกับทุกคนที่เธอพานพบ
★การบอกความจริงห้าระดับ
อ่านทบทวนได้ตามลิ้งครับ ~ แอดมิน
จงเตรียมตัวที่จะเปลือยเปล่าและพร้อมเปิดเผย
N : น่ากลัวมากครับ น่ากลัวสุดๆ
G : ไหนมาดูสิว่าเธอกลัวอะไร
N : ผมกลัวว่าทุกคนจะถอยหนีจากผมไป กลัวว่าจะไม่มีใครชอบผมอีก
G : เข้าใจล่ะ เธอรู้สึกว่าต้องโกหกเพื่อให้คนมาชอบเธออย่างนั้นใช่ไหม❓
N : ก็ไม่เชิงว่าโกหกหรอกครับ แค่ไม่บอกหมดทุกอย่างเท่านั้นเอง
G : อย่าลืมสิ่งที่ฉันได้บอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า นี่ไม่ใช่ให้พูดโพร่งทุกความรู้สึกเล็กๆน้อยๆ ทุกความคิด ทุกแนวคิด ทุกความกลัว ทุกความทรงจำ ทุกคำสารภาพ หรืออะไรก็ตามออกมาจนหมด
✨เพียงให้พูดแต่ความจริงเสมอ
✨แสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมา
กับคนที่เธอรักที่สุดเธอสามารถเปลือยกายต่อหน้าเขาได้ใช่ไหม❓
N : ครับ
G : แล้วทำไมถึงไม่เปลือยอารมณ์ด้วยล่ะ❓
N : อย่างหลังนี่ยากกว่าอย่างแรกนะครับ
G : ฉันเข้าใจ แต่ฉันก็จะแนะนำอย่างนั้นอยู่ดี เพราะรางวัลตอบแทนนั้นช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน
N : พระองค์นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจขึ้นมาตรงนี้ ที่ให้ยกเลิกวาระซ่อนเร้นทั้งหมด สร้างสังคมที่เปิดเผยและโปร่งใส พูดความจริงทุกเรื่องกับทุกคนตลอดเวลา โว้วว❗
G : จากแนวคิดไม่กี่อย่างตรงนี้จะสร้างทั้งสังคมขึ้นมาได้เลย "สังคมอารยะ" นะ
N : ผมยังไม่เคยเห็นเลยสักที่
G : ฉันไม่ได้กำลังพูดถึงบนโลกของเธอสักหน่อย
N : โอ้
G : ไม่แม้กระทั่งในระบบสุริยะของเธอ
N : โอ้ววว
G : ✴️แต่เธอไม่จำเป็นจะต้องออกไปนอกโลกหรือแม้กระทั่งออกจากบ้านตัวเอง เพื่อเริ่มมีประสบการณ์ถึงระบบคิดแบบใหม่นี้ว่าเป็นอย่างไรหรอกนะ เริ่มที่ครอบครัวของตัวเองในบ้านของเธอนั่นล่ะ✴️
✴️ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่ก็เริ่มที่บริษัทของตัวเอง บอกทุกคนในองค์กรไปตามจริงเลยว่าเธอทำอะไรไปบ้าง บริษัททำอะไร ใช้จ่ายไปกับอะไร และพนักงานแต่ละคนทำอะไรกันไปบ้าง✴️
ถ้าทุกคนที่เป็นเจ้าของบริษัททำอย่างที่บอกนี้แล้วล่ะก็ เชื่อสิว่าเธอจะทำให้พวกเขาต้องตกตะลึงจนหลุดพ้นจากนรก★ ฉันหมายความตามนั้นจริงๆ เธอจะทำให้พวกเขาต้องตกตะลึงจนพ้นจากนรกตรงนั้นเลย งานจะไม่เป็นนรกบนดินสำหรับใครหลายคนอีกต่อไป เพราะพวกเขาจะรู้สึกได้ถึงความเท่าเทียม ความยุติธรรม และผลตอบแทนที่เหมาะสมมากขึ้นโดยอัติโนมัติ
★นรกในที่นี้หมายถึงความทุกข์ทรมานทางใจเป็นอย่างยิ่งในการใช้ชีวิต ในความเป็นจริงแล้วนรกก็หมายความอย่างนั้นนั่นแหละ
~ แอดมิน
✴️บอกลูกค้าของเธอไปตามจริงเลยว่าสินค้าหรือบริการของเธอมีต้นทุนเท่าไหร่ ใส่ตัวเลขลงไปสองชุดเลยที่ป้ายราคา ต้นทุนที่มีกับราคาที่ขาย เธอยังจะภูมิใจกับราคาขายที่ตัวเองตั้งอยู่อีกไหม? เกิดความกลัวขึ้นมาบ้างไหมว่าจะมีใครคิดว่าเธอกำลังขูดเลือดขูดเนื้อชาวบ้านอยู่ถ้าพวกเขาได้รู้สัดส่วนระหว่างต้นทุนกับราคาขายขึ้นมา❓✴️
ถ้าเป็นอย่างนั้นให้ลองดูว่าจะปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้างไหมเพื่อให้ราคาลดลงสู่ระดับที่เป็นธรรม แทนที่จะปล่อยให้เป็นแบบ "ใครมีกำลังซื้อก็ซื้อไปเท่าที่จะซื้อได้"
ฉันขอท้าให้พวกเธอทำสิ่งนี้ ฉันขอท้าพวกเธอ
พวกเธอจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดอย่างสิ้นเชิง 🌟พวกเธอจะต้องใส่ใจลูกค้าหรือผู้บริโภคให้เหมือนกับที่ใส่ใจตัวเธอเอง🌟
ใช่ พวกเธอสามารถเริ่มสร้างสังคมใหม่นี้ขึ้นมาที่นี่เดี๋ยวนี้วันนี้เลยก็ได้ พวกเธอจะสนับสนุนให้ระบบเดิมยังคงอยู่ต่อไป หรือจะบุกตะลุยไปข้างหน้าและพร้อมที่จะแสดงให้ทั้งโลกได้เห็นถึงเส้นทางใหม่ 🔸ขึ้นอยู่กับพวกเธอแล้ว🔸
✴️พวกเธอสามารถเป็นหนทางใหม่นั้นได้...กับทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะกับโลกธุรกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา มุมมอง หรือกับประสบการณ์ชีวิตเรื่องนั้นเรื่องนี้เท่านั้น แต่กับทุกๆเรื่องเลย✴️
✨จงเป็นหนทางใหม่
✨จงเป็นหนทางที่สูงกว่า
✨จงเป็นหนทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เมื่อนั้นพวกเธอก็จะพูดได้อย่างแท้จริงว่า :
✨เราคือทางนั้นและคือชีวิต
✨จงตามเรามา
🔆ถ้าทั้งโลกต้องตามเธอ
🔆เธอจะยินดีกับหนทางที่เธอพาพวกเขาไปไหม❓
เอากลับไปคิดเป็นการบ้านของวันนี้ก็แล้วกัน...
(จบ)(บทที่ 16)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา