14 เม.ย. 2021 เวลา 07:57 • นิยาย เรื่องสั้น
Greek Mythology ตอนที่ 8 : ดีมีเทอร์ เทพีแห่งธัญญาหาร part 2 - อิลูซิส เมล็ดทับทิม และ ฤดูกาลแห่งความอ้างว้าง
Goddess Demeter
มาถึงบทสรุปของเรื่องราวในครั้งนี้ พร้อมกับเรื่องสั้นเล่าแทรกระหว่างการเดินทางตามหาลูกสาวของเทพีดีมีเทอร์ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธ์แด่พระนาง ณ เมืองอิลูซิส
ก่อนจะไปจบเรื่องราวที่ค้างคากันไว้จากตอนที่แล้ว จะขอเล่าเรื่องราวแทรกเป็นบทคั่นเกี่ยวกับการไปพำนัก ณ โลกมนุษย์ของดีมีเทอร์กันเสียเล็กน้อย
ย้อนเวลากลับไป ตอนที่ดีมีเทอร์กำลังทุกข์โศกจากการสูญเสียลูกสาวสุดที่รักไป นางก็เกิดถอดอาลัย จากโอลิมปัสลงมายังโลกมนุษย์ และแปลงร่างเป็นหญิงชรานางหนึ่ง มิมีเค้าโครงอย่างเทพเจ้าผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย เดินเร่ร่อนมาจนถึงนครที่ชื่อว่า อิลูซิส (Eleusis) และนั่งลงใกล้บ่อน้ำแห่งหนึ่ง
Eleusis city
และแล้ว ก็มีเจ้าหญิงทั้งสี่เดินผ่านมา เห็นหญิงชราผู้นี้นั่งอยู่อย่างไร้ที่พึ่ง จึงหยุดลงถามไถ่ว่านางมาจากที่ใด
ดีมีเทอร์ในร่างของหญิงชราผู้น่าเวทนาก็อ้างว่า หนีมาจากโจรสลัดที่ตั้งใจจะนำนางไปขายเป็นทาส มาถึงที่นี่มิรู้จักผู้ใด มิทราบว่าจะไปขอพึ่งพาใครได้ ณ เวลานี้ และยังต้องประสบทุกข์ทนจากการพรากจากลูกสาว
เหล่าสี่ดรุณีก็ยินดีจะเชิญนางไปยังที่พำนักยังวังของพวกนาง ว่าแล้วก็ไปยังวัง อันผู้เป็นมารดารอคอยอยู่ เมื่อยามที่หญิงชราผ่านธรณีประตูเข้าสู่ห้องโถงที่ เมทานิรา (Metanira) ผู้เป็นมารดา และราชินีแห่งนครอิลูซิสเฝ้ารออยู่ รัศมีเทพก็พลันแผ่ซ่านเรืองรองออกมาเต็มช่องประตู และพลันหายไปในพริบตา ทำเอาราชินีตกใจอย่างยิ่ง
บัดนั้น นางเมทานิราก็เชื้อเชิญให้เทพีในคราบมนุษย์นั่งลง พร้อมกับนำเหล้าองุ่นมาให้นางดื่ม แต่เทพีไม่ยอมลิ้มรส แทนที่จะเป็นเหล้าองุ่น นางกลับขอเพียงแต่น้ำข้าวบาร์เล่ย์ปรุงรสด้วยสะระแหน่ อันเป็นของที่ไม่เหมาะจะใช้รับแขกอย่างทรงเกียรติเท่าใดนัก นั่นเป็นเพราะนางหวนระลึกถึงช่วงเวลาที่แสนมีความสุขกับลูกสาวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อดื่มเครื่องดื่มแล้ว นางก็รับบุตรทารกตัวน้อยที่เมทานิราอุ้มอยู่มาสวมกอดในอ้อมอก เด็กคนนี้ชื่อว่า เดโมโฟออน (Demophoon) นางรู้สึกรักใคร่เด็กทารกคนนี้มาก ในตอนกลางวัน นางดีมีเทอร์ก็ปรนเปรอด้วยอาหารทิพย์แอมโบรเซีย (Ambrosea) ที่นางเสกขึ้นมา และตอนกลางคืน ก็วางเขาไว้ท่ามกลางกองไฟ อันหมายถึงการมอบความเยาว์วัยและความเป็นนิรันดร์แก่เขา
Demeter laid Demophoon among the fire for make him immortal like the gods
แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้ ย่อมทำให้ผู้เป็นมารดาไม่สบายใจ แม้จะเอะใจไว้ตอนแรกแล้วว่า ผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้อาจจะไม่ใช่หญิงชราไร้ญาติขาดมิตรธรรมดา แต่นางก็อดที่จะทนเห็นการกระทำเช่นนี้มิได้
เมื่อนางมาเห็นเข้า จึงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก ต่อหน้าเทพีดีมีเทอร์ และรีบยกทารกออกจากกองไฟในทันใด ทำให้พิธีกรรมต้องหยุดชะงักลง
บัดนั้น เทพีดีมีเทอร์ก็เกิดอาการพิโรธขึ้นมา นางตั้งใจจะมอบความเป็นนิรันดร์แก่เด็กชายผู้แสนน่ารักคนนี้ แต่ผู้เป็นแม่กลับมีท่าทีต่อต้าน และเตรียมตัวกล่าวโทษหญิงชรา
แต่ทันใดนั้น…ก็เกิดแสงฉับพลันรังสีขึ้นอีกครั้ง นางคนแปลกหน้าก็พลันหายไป ปรากฏแต่รูปลักษณ์แห่งเทพีผู้สูงศักดิ์ พร้อมแนะนำตัวอีกครั้ง ว่านางคือดีมีเทอร์ เทพกัญญาแห่งธัญญาหาร ช่างน่าเสียดายนักที่ตัวท่านเข้ามาขัดขวางการทำพิธีเผาผลาญมฤตยูธาตุในตัวเด็กน้อยผู้นี้ พร้อมกับบอกกล่าวว่าจะจากเมืองนี้ไป และสั่งให้สร้างวิหารประจำตัวนางไว้ ณ นครแห่งนี้
Demeter and Metanira detail of an Apullan red-figure- @Antikensammlung Berlin (1984.46)
เมื่อเมทานิรา ราชีนีแห่งอิลูซิสได้ยินดังนั้นก็ใจหายและเสียใจเป็นอันมาก ที่ทำให้ความพิโรธเกิดแต่เทพีผู้มีเมตตาเยี่ยงนี้ ว่าแล้วนางก็แจ้งข่าวแก่เซลิอัส (Celeus) ราชาแห่งนครอิลูซิส ผู้เป็นสวามีให้ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมด
ท่ามกลางความสั่นเทิ้มที่ได้กระทำการอันล่วงละเมิดเทพีไป เซลิอัสจึงมีรับสั่งให้ผู้คนร่วมกันสร้างวิหารตามเทวโองการของเทพี เพื่อให้นางประทับอยู่ ว่าแล้วเทพีดีมีเทอร์ก็ออกตามหาลูกสาวต่อไป
กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน เมื่อพระนางดีมีเทอร์ได้ทราบแล้วว่าบุตรสาวของตนไปอยู่ ณ ที่แห่งใด ก็พลันเกิดความโศกเศร้าเกินจะบรรยายเสียยิ่งกว่าเดิม นางก็ได้ไปอ้อนวอนเทพบิดร ซุส ให้ช่วยพาบุตรสาวของตนกลับมา ซุสเห็นแก่ความโศกเศร้าของนาง และความทุกข์ของมวลมนุษย์ที่กำลังขาดแคลนอาหารดำรงชีพ จึงได้ตอบตกลงจะพาบุตรสาวคืนสู่มารดา แต่มีเงื่อนไขว่า เพอร์เซโฟเนจะต้องไม่เสวยสิ่งใดๆ ที่อยู่ในโลกเบื้องล่างพิภพ
ว่าแล้วเทพซุสก็ได้ส่ง เฮอร์เมส (Hermes) เทพผู้นำสาส์นแห่งสวรรค์ ลงไปยังยมโลก เพื่อแจ้งบัญชาแห่งซุสแก่ฮาเดส เจ้าผู้ครองยมโลก ให้ส่งคืนนางเพอร์เซโฟเนกลับสู่ผู้เป็นมารดา เพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษย์ทั้งหลายที่กำลังประสบภัยแล้ง
แน่นอนว่าฮาเดสไม่อาจขัดคำสั่งของซุสได้ แต่ก็มิต้องการจะเสียนางเพอร์เซโฟเนไป ฟากเพอร์เซโฟเนก็ดีใจมาก ที่จะได้กลับไปอยู่ร่วมกับมารดาอีกครั้ง ฮาเดสเองรู้ดีว่า เงื่อนไขของผู้อยู่ในยมโลก ก็คือจะต้องเสวยของจากยมโลก ดังนั้นแล้วฮาเดสจึงเกลี้ยกล่อมให้นางเสวยผลทับทิมก่อนจากลากันด้วยดี นางก็เสวยเมล็ดทับทิมเข้าไป 4 เมล็ด ก่อนที่จะกลับคืนสู่พื้นพิภพกับเฮอร์เมสผู้มารอรับนาง
The return of Persephone - Friedric Leighton (1891)
เมื่อกลับมาถึงแล้ว ดีมีเทอร์ก็พลันหายทุกข์โศก ยามได้เห็นหน้าบุตรสาวอีกครา หลังจากผ่านพ้นความทุกข์ยากและการลาจากมานานแสนนาน สองแม่ลูกพลันโอบกอดเข้าหากันด้วยน้ำตาแห่งความคิดถึง และต่างเล่าเรื่องราวของกันและกัน เมื่อถามไถ่มาถึงเงื่อนไขข้อนั้น เพอร์เซโฟเนก็บอกมารดาไปว่า ได้เสวยเมล็ดทับทิมไปแล้ว 6 เม็ด ใจนางดีมีเทอร์ก็พลันตกลงไปยังแทบเท้า เพราะนางจะต้องพรากจากลูกสาวนางอีกครั้ง
Hades tricks Persephone, giving her some pomegranate seeds to eat.
ท่ามกลางความโศกเศร้านี้เอง เทพซุสก็ได้ไกล่เกลี่ยเรื่องราวอีกครั้ง โดยส่งเทพีผู้สูงศักดิ์นางหนึ่ง ลงมาจากโอลิมปัสไปหาเทพีดีมีดทอร์ เทพีผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นมิใช่ใครอื่นเลย ที่จะเข้าใจความเจ็บปวดของนางดีไปกว่า เทพีเรอา (Rhea) มารดาของเหล่าเทพโอลิมเปียน รวมถึงตัวดีมีเทอร์เองด้วย
Goddess Rhea - Goddess of Baby Birth
เรอาได้โอบกอดบุตรสาวอย่างอ่อนโยน ด้วยเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ พร้อมแจ้งข่าวแก่นางว่า
“เทพซุสมีบัญชาเป็นข้อสรุปไว้ดังนี้ คือ
เทพีเพอร์เซโฟเน จะอยู่ในฐานะชายาแห่งฮาเดส เป็นเวลาหนึ่งในสามของปี อันเป็นไปตามเมล็ดทับทิมที่นางเสวยเข้าไป ณ ดินแดนแห่งเหล่าผู้วายชนม์
ส่วนอีกสองในสามของปี เจ้าจะได้อยู่เคียงคู่กับบุตรสาวของเจ้า
จงคลายจิตใจที่เศร้าหมอง และกลับคืนความอุดมสมบูรณ์แก่โลกเถิด เพื่อมนุษย์ที่รอคอยการกลับมาของชีวิตที่สดใสอีกครา มีแต่เจ้าเท่านั้นที่จะทำได้ บุตรสาวแห่งข้า”
ดีมีเทอร์ เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว ก็มิได้ปฏิเสธ แต่ก็มิอาจคลายทุกข์โศกได้สิ้น จากการที่จะต้องเสียบุตรสาวสุดที่รักไปเป็นเวลาสี่เดือนของทุกปี
เมื่อได้สติกลับมาแล้ว นางก็รู้สึกผิดที่ทำให้โลกมนุษย์ต้องเหือดแห้ง ไร้ความอุดมสมบูรณ์เขียวขจี นางก็รับผิดชอบโดยการคืนพืชผลแก่ไร่นาที่ว่างเปล่าอีกครา แผ่นดินที่เคยแห้งแล้ง กลับมาเขียวฉอุ่มอีกครั้ง
จากนั้นไม่นาน…นางก็หวนกลับไปยังอิลูซิส อันเป็นที่ประดิษฐานแห่งวิหารประจำตัวนาง ที่ชาวเมืองอิลูซิสได้สร้างเอาไว้ และได้สอนเจ้าชายองค์หนึ่งของเซลิอัสและเมทานิรา นามว่า ทริปโทเลมัส (Triptolemus) ที่บัดนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว (บางตำราก็อ้างว่าทริปโทเลมัสก็คือคนเดียวกับที่นางดีมีเทอร์เรยเอาไปลงกองไฟนั่นแหละครับ) ให้รู้จักใช้เครื่องมือ คราด จอบ เสียม สำหรับเพาะปลูกให้ถูกวิธี และสอนวิธีการหว่านเมล็ดพันธุ์ที่ถูกต้อง สำหรับดำรงชีพ เพื่อชดเชยกับสิ่งที่นางได้ทำให้โลกเหือดแห้ง ไร้ผลผลิต
Triptolemus receiving wheat sheaves from Demeter and blessings from Persephone , 5 century BC relief - National Archaeological Museum of Athens
และนางยังได้บอกความลับแห่งอิลูซิส อันเป็นพิธีกรรมอันศักดิสิทธิ์เพื่อถวายบูชานางแก่เขา ความลับนั่น ก็ยังคงเป็นสิ่งลี้ลับอยู่จนทุกวันนี้
Eleusinian Mysteries
และทริปโทเลมัส ก็เป็นตัวแทนของนาง เป็นบรรพบุรุษผู้ถ่ายทอดวิชาการเพาะปลูกแก่คนรุ่นหลังมาตราบจนปัจจุบัน
ในเรื่องราวของสองเทพี แม่ลูกคู่นี้ ต่างต้องประสบพบเจอกับความยากลำบาก การลาจาก และความเจ็บปวด ความโศกเศร้าของพวกนาง นั้นเกินที่จะบรรยายความได้ ผู้เป็นแม่ ต้องทนเห็นลูกสาวตายจากไปทุกปี ด้วยอาการโศกเศร้า นั่นคือที่มาแห่งฤดูหนาว (Winter) หนึ่งในสามของปี และเมื่อผู้เป็นบุตรสาว คืนชีพกลับมาสู่พื้นพิภพ นางเป็นสาวงามสดใสในยามที่อยู่กับมารดา นั่นคือที่มาแห่งฤดูร้อน (Summer) และฤดูใบไม้ผลิ (Spring) สองในสามของปี
เพียงแค่ตัวนางเหยียบย่างกรายลงไปยังผืนแผ่นดินสีน้ำตาลอันแห้งผาก แผ่นดินก็จะพลันกลับสดใสและออกดอกไปทั่ว ดั่งเสียงฝีเท้าแห่งมาลีดอก แต่ความงามก็มีอยู่อย่างจำกัด ยามใดฤดูหนาวมาเยือน ชีวิตแห่งพรรณไม้ดอกก็จะจากไปสู่ยมโลกพร้อมกับตัวนาง ยามอยู่ ณ ยมโลก นางมิได้เป็นสาวน้อยวัยแรกรุ่นอีกต่อไปแล้ว ที่แห่งนั้นมีแต่ความมืดมิด และเสียงโหยหวนแห่งคนตาย
Hades-God of the underworld and Persephone-Goddess of Spring and the queen of the underworld
จริงอยู่ ที่นางนั้นจะได้หวนคืนสู่โลกเบื้องบน ในไม่ช้า แต่นางก็นำความทรงจำจากโลกเบื้องล่างขึ้นติดมาด้วย ดังนั้นแล้ว ในความงามแห่งฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิมีสิ่งประหลาด น่าพรั่นพรึง เหมือนดั่งกลิ่นมฤตยูในตัวนางซ่อนอยู่ภายในกาย มักจะมีผู้กล่าวถึงนางว่า “สาวงามที่ไม่อาจเอ่ยชื่อเรียก”
ก็เป็นดั่งธรรมชาติที่แท้ ไม่มีสิ่งใดบริสุทธิ์หมดจดไปเสียทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์พร้อม ทุกความงามมีรอยตำหนิ แต่ในทางกลับกัน ทุกรอยตำหนิก็มีความงาม
ก่อนจะจากกันในวันนี้ ขอให้ผู้อ่านได้ระลึกไว้ว่า ยามใดที่เศร้าโศกสุดแสนจะทนไหว ขอให้ระลึกไว้ มีเทพีสององค์ที่ต้องประสบพบเจอความทุกข์อยู่ตลอดแรมปี ขอให้พวกนางคอยอยู่เคียงข้างพวกท่าน ท่านมิได้โดดเดี่ยวในเส้นทาง ขอให้นึกถึงพวกนางเอาไว้ ยอมรับความเปลี่ยนแปลง แล้วก้าวข้ามความทุกข์ไปพร้อมกับสองแม่ลูกคู่นี้เถิด ผ่านฤดูกาลที่ผันแปรไปไม่จบสิ้น
ตอนหน้า จะเป็นเรื่องราวของใคร เทพองค์ใด ผมขอใบ้ไว้ว่า เป็นหนึ่งในชายาของซุป และเป็นผู้ที่ประสบพบเจอกับความซวยไม่แพ้กับเมียคนใดของเทพซุส ชื่อของนาง ยังเป็นหนึ่งในดวงจันทร์กาลิเลียน อีกด้วย จะตรงกับที่ใจท่านนึกถึงหรือไม่ รอติดตาม ขอจากลากันตรงนี้ โอม ศานติ
@Krishna

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา