20 เม.ย. 2021 เวลา 07:43 • หนังสือ
#44 เล่ม 2 บทที่ 18 หน้า 266 ~ 270
N : ไหนลองดูหน่อยว่าผมยังตามทันอยู่หรือเปล่า สิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ดูเหมือนเป็นโลกทัศน์แห่งความเสมอภาคและสันติสุข ซึ่งทุกประเทศขึ้นตรงต่อรัฐบาลโลกและมนุษย์ทุกคนก็แบ่งปันความมั่งคั่งของโลกแก่กันและกัน
G : จำไว้ว่าเมื่อพูดถึงเรื่อง 🔹ความเสมอภาค🔹
เรากำลังหมายถึง 🔸โอกาสที่เสมอภาค🔸 ไม่ใช่ตัวความเสมอภาคเฉยๆ
"ความเสมอภาค" กันอย่างแท้จริงนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ ซึ่งก็ดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น
N : ทำไมล่ะครับ❓
G : เพราะ "ความเสมอภาคคือความเหมือนกัน" 💢และสิ่งสุดท้ายที่โลกต้องการก็คือความเหมือนกันนี่ล่ะ💢
และเปล่าหรอก ฉันไม่ได้เรียกร้องให้มนุษย์ทั้งโลกเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ทำอะไรเหมือนกันหมด โดยแต่ละคนต่างได้รับส่วนแบ่งเท่ากันเป๊ะจากรัฐบาลกลาง
ฉันเพียงพูดถึงโลกที่รับประกันสองเรื่องนี้ :
1️⃣ ความจำเป็นขั้นพื้นฐานที่เหมาะสม
2️⃣ โอกาสก้าวสู่ขั้นต่อไป
ด้วยทรัพยากรและความอุดมสมบูรณ์ที่โลกนี้มี พวกเธอยังหาทางจัดการเรื่องง่ายๆสองเรื่องนี้ไม่ได้เลย
⏺️ ตรงกันข้ามพวกเธอทำให้คนเป็นล้านๆต้องจมอยู่กับระดับทางเศรษฐกิจและสังคมขั้นต่ำสุด
 
⏺️ แถมยังประดิษฐ์โลกทัศน์ที่ถ่วงคนเหล่านี้ไว้ให้อยู่อย่างนั้นต่อไปอย่างเป็นระบบ
 
⏺️ พวกเธอยอมให้คนเป็นหมื่นเป็นแสนต้องตายไปในแต่ละปีเพียงเพราะขาดปัจจัยขั้นพื้นฐานในการยังชีพ
ท่ามกลางความล้ำเลิศต่างๆมากมายบนโลก
💢พวกเธอยังไม่พบวิธีการที่ดีพอจะทำให้ผู้คนไม่อดตายเลย
 
💢ยิ่งเรื่องที่จะทำให้ผู้คนหยุดฆ่ากันยิ่งไม่ต้องพูดถึง
 
💢พวกเธอปล่อยให้เด็กๆต้องอดตายไปต่อหน้าต่อตาด้วยซ้ำ
 
💢แถมยังคร่าชีวิตของผู้อื่นเพียงเพราะพวกเขาเห็นต่างไปจากเธอ
พวกเธอนี่ป่าเถื่อนจริงๆ
N : และพวกเราก็คิดว่าตัวเองก้าวหน้าเสียเต็มประดา
G : 💢ข้อสังเกตแรกของสังคมด้อยพัฒนาคือการที่สังคมนั้นคิดว่าตัวเองก้าวหน้า
💢ข้อสังเกตแรกของจิตสำนึกที่ยังไม่เติบโต (เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงผิด) คือการคิดว่าตนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
N : โอเคครับ มาสรุปกัน วิธีที่เราจะก้าวสู่บันไดขั้นแรกซึ่งก็คือการรับประกันขั้นพื้นฐานสองประการให้แก่ทุกคนคือ...
G : ด้วยการยกระดับสองสิ่ง...การเปลี่ยนแปลงสองอย่าง
อย่างแรกคือ :
✨กระบวนทัศน์ทางการเมือง✨
อย่างที่สองคือ :
✨กระบวนทัศน์ทางจิตวิญญาณ✨
การเปลี่ยนแปลงสู่รัฐบาลโลกที่มีเอกภาพต้องประกอบด้วยศาลโลกที่ได้รับอำนาจอย่างเต็มที่ในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ และมีกองกำลังรักษาสันติภาพเพื่อสร้างอำนาจให้กับกฎหมายที่พวกเธอเลือกไว้ปกครองตนเอง
รัฐบาลโลกจะต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งสหประชาชาติ (ตัวแทนจากทุกประเทศบนโลกประเทศละสองคน) และสภาประชาชน ซึ่งมีผู้แทนลดหลั่นกันลงไปตามสัดส่วนประชากรของแต่ละประเทศ
N : รัฐบาลสหรัฐฯ จัดตั้งขึ้นแบบนี้เลยครับ มีสองสภา สภาหนึ่งมีตัวแทนตามสัดส่วนประชากร อีกสภาหนึ่งให้แต่ละรัฐมีสิทธิเท่าเทียมกัน
G : ใช่ รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯได้รับแรงบันดาลใจจากพระผู้เป็นเจ้า
ดุลอำนาจแบบเดียวกันนี้จะต้องมีอยู่ในรัฐธรรมนูญโลกฉบับใหม่ด้วย
เช่นเดียวกัน มันจะแยกออกเป็น ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และ ฝ่ายตุลาการ
แต่ละประเทศจะคงกองกำลังที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศของตัวเองเอาไว้ แต่กองทัพที่มีไว้สู้รบกับประเทศอื่นจะถูกปลดประจำการไป แบบเดียวกับในอดีตที่รัฐต่างๆปลดประจำการกองทหารบกและกองทหารเรือของตน เพื่อให้กองกำลังรักษาสันติภาพจากส่วนกลางเข้าไปดูแลกลุ่มของรัฐที่รวมตัวเข้าด้วยกัน ซึ่งในตอนนี้พวกเธอเรียกว่าประเทศนั่นล่ะ
ประเทศต่างๆจะยังคงมีสิทธิจัดตั้งและเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการเป็นครั้งๆไป เหมือนที่แต่ละรัฐก็มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะคงทหารกองหนุนไว้และสามารถเรียกเข้าประจำการได้
และก็แบบเดียวกับที่รัฐต่างๆทำอยู่ในตอนนี้ นั่นคือแต่ละประเทศทั้ง 160 ประเทศ ที่มารวมตัวกันเป็นสหพันธ์นี้ มีสิทธิแยกตัวเป็นอิสระตามการลงประชามติของประชาชนในประเทศ (แม้เหตุผลที่แยกตัวออกไปนั้นจะเกินกว่าที่ฉันคาดหวังไว้ เมื่อดูจากว่าประชาชนของประเทศนั้นๆจะได้รับความปลอดภัยและมั่งคั่งมากกว่าที่เคยเป็น)
N : สำหรับคนที่อาจจะยังตามไม่ค่อยทัน ขออีกรอบได้มั้ยครับว่าสหพันธ์โลกที่รวมเข้าเป็นหนึ่งนี้จะก่อให้เกิดอะไรขึ้น❓
G : 1️⃣ สิ้นสุดสงครามระหว่างประเทศและยุติการแก้ไขข้อพิพาทด้วยการเข่นฆ่า
2️⃣ ขจัดความยากจนข้นแค้น ภาวะที่ผู้คนต้องอดตาย การขูดรีดประชาชนและการกักตุนทรัพยากรของผู้มีอำนาจ
3️⃣ ยุติการทำลายสภาพแวดล้อมโลกอย่างเป็นระบบ
4️⃣ การดิ้นรนไขว่คว้าหาสิ่งที่ใหญ่ขึ้น ดีขึ้น และมากขึ้นอย่างไม่รู้จบจะหายไป
5️⃣ โอกาส (ที่เท่าเทียมกันจริงๆ) ให้ทุกผู้คนได้แสดงด้านที่ดีที่สุดของตัวเองออกมา
6️⃣ ทุกข้อจำกัดและการแบ่งแยกที่เป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้ผู้คนก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน ระบบการเมือง หรือความสัมพันธ์ทางเพศจะจบสิ้นลง
N : การจัดระเบียบโลกใหม่ที่พระองค์ว่ามาจะบังคับให้ต้องจัดสรรความมั่งคั่งกันใหม่ด้วยหรือเปล่าครับ❓
G : ไม่ต้องบังคับอะไรทั้งนั้น แต่มันจะก่อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรกันใหม่ด้วยความสมัครใจและเป็นไปโดยอัตโนมัติ
ยกตัวอย่างเช่น...
▪️ทุกคนจะได้รับการศึกษาที่เหมาะสมและมีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่ศึกษามานั้นในหน้าที่การงาน ได้ทำงานที่ทำแล้วมีความสุข
▪️ทุกคนจะได้รับการรับประกันในการเข้ารับบริการทางสุขภาพไม่ว่าเมื่อไหร่หรือรูปแบบไหนก็ตามที่จำเป็น
▪️ทุกคนจะได้รับการรับประกันว่าจะไม่อดตาย หรือมีชีวิตอยู่โดยขาดเครื่องนุ่งห่มที่เพียงพอและที่พักอาศัยที่เหมาะสม
▪️ทุกคนจะได้รับปัจจัยขั้นพื้นฐานของชีวิต เพื่อว่า "ความอยู่รอดจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป" เพื่อมนุษย์ทุกคนจะได้รับความสะดวกสบายตามอัตภาพและศักดิ์ศรีขั้นพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์
N : แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นหรือครับ❓
G : ความคิดที่ว่า ✴️เราต้องทำอะไรบางอย่างก่อนถึงจะมีสิทธิได้รับสิ่งเหล่านี้ คือรากฐานของความคิดที่ว่าเธอต้องทำอะไรบางอย่างก่อนถึงจะได้ขึ้นสวรรค์✴️
ทว่าความจริงก็คือเธอไม่สามารถทำอะไรก็ตามเพื่อรับความเมตตากรุณาจากพระผู้เป็นเจ้าได้ และก็ 🔸ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นด้วย🔸
🌟เพราะเธอได้รับไปเรียบร้อยแล้ว🌟
นี่คือสิ่งที่เธอ 🔹ยอมรับไม่ได้🔹
เพราะนี่คือ 🔹สิ่งที่เธอไม่อาจให้ได้🔹
เมื่อเธอได้เรียนรู้
✨การให้แบบไร้เงื่อนไข✨
(พูดอีกอย่างได้ว่า
✨รักแบบไร้เงื่อนไข✨)
เมื่อนั้นเธอจะได้เรียนรู้
✨การรับแบบไร้เงื่อนไข✨
✴️ชีวิตนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือให้เธอสามารถมีประสบการณ์ที่ว่านี้ได้นั่นเอง
✴️พยายามให้ความคิดนี้ฝังแน่นลงไปในจิตใจของเธอ นั่นคือ "มนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตรอดแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม"
✴️และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับใครเลย แต่การมีชีวิตรอดอย่างมีศักดิ์ศรีคือหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานของชีวิต
✴️ฉันได้ให้ทรัพยากรกับพวกเธอไปมากพอที่จะสามารถรับประกันความอยู่รอดให้กับทุกคน
ทั้งหมดที่พวกเธอต้องทำก็คือ :
🌟แบ่งปัน🌟
N : แต่ถ้าอย่างนั้น อะไรที่จะทำให้ผู้คนหยุดใช้ชีวิตไปอย่างสูญเปล่า❓ หยุดใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อยไร้สาระและคอยแต่นั่งเก็บเกี่ยว "ผลประโยชน์" แต่เพียงอย่างเดียวล่ะครับ❓
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา