Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
26 เม.ย. 2021 เวลา 06:38 • หนังสือ
#45 เล่มสอง บทที่ 18 หน้า 270 ~ 275
...
N : แต่ถ้าอย่างนั้น อะไรที่จะทำให้ผู้คนหยุดใช้ชีวิตไปอย่างสูญเปล่า❓ หยุดใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อยไร้สาระและคอยแต่นั่งเก็บเกี่ยว "ผลประโยชน์" แต่เพียงอย่างเดียวครับ❓
...
...
...
G : อย่างแรกเลยนะ ✴️มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่จะไปตัดสินชีวิตใครว่าสูญเปล่าหรือไม่สูญเปล่า✴️
ถือว่าเป็นชีวิตที่สูญเปล่าหรือเปล่าถ้าคนๆหนึ่งเอาแต่คิดเรื่องบทกวีอยู่ 70 ปีโดยไม่ทำอะไรเลย แล้วอยู่ๆก็เกิดคิดโคลงบทหนึ่งขึ้นมาได้ โคลงบทหนึ่งที่เปิดประตูสู่ความเข้าใจและปัญญาจนแก้ปัญหาให้กับคนนับพันนับหมื่นได้❓
ถือว่าเป็นชีวิตที่สูญเปล่าไหมถ้าชีวิตของใครคนหนึ่งที่มีแต่การโกหก หลอกลวง คิดอ่านวางแผน สร้างความเสียหาย ครอบงำและทำร้ายผู้อื่นมาทั้งชีวิต แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับระลึกได้ถึงบางสิ่งที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเองขึ้นมาได้จากทุกสิ่งที่เขาได้ทำลงไป❓ (ซึ่งบางทีอาจเป็นสิ่งที่เขาได้ใช้เวลามาแล้วหลายชาติภพเพื่อจะรำลึก) สุดท้ายแล้วเขาก็วิวัฒน์สู่ขั้นต่อไปได้ในท้ายที่สุด
ชีวิตแบบนั้นถือว่า "สูญเปล่า" หรือเปล่า❓
💢มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอเลยที่จะเที่ยวไปตัดสินการเดินทางของวิญญาณดวงอื่น💢
2
✴️หน้าที่ของเธอก็คือการตัดสินว่าตัวเองเป็นใคร✴️
1
✴️ไม่ใช่คอยดูว่าใครที่ล้มเหลวต่อภารกิจของตน✴️
เธอถามว่า...อะไรที่จะทำให้ผู้คนหยุดใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่า หยุดใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อยไร้สาระและคอยแต่นั่งเก็บเกี่ยว "ผลประโยชน์" แต่เพียงอย่างเดียว...
คำตอบก็คือ 🔸ไม่มี🔸
N : แล้วพระองค์คิดจริงๆหรือครับว่ามันจะได้ผล❓ พระองค์ไม่คิดหรือว่าคนที่กำลังทำประโยชน์จะเริ่มขุ่นเคืองคนที่ไม่ยอมทำอะไรเลย❓
G : ใช่ พวกเขาจะขุ่นเคือง ถ้าหากพวกเขา 🔹ยังไม่ตื่นรู้ 🔹
✨ทว่าผู้ตื่นรู้ที่แท้จริงนั้นจะมองไปยังผู้อยู่เฉยด้วยสายตาแห่งความเมตตา มิใช่ขุ่นเคือง✨
N : ความเมตตา❓
G : ใช่ เพราะผู้ทำประโยชน์จะเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่าผู้อยู่เฉยกำลังพลาด "โอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุด" และ "ความยิ่งใหญ่อันงดงามที่สุด" ไป
ซึ่งเป็น ✨โอกาสที่จะได้สร้างสรรค์✨
เป็นความยิ่งใหญ่ที่จะได้มีประสบการณ์ถึงอุดมคติขั้นสูงสุดว่า ✨ตัวตนที่แท้จริงของตนนั้นคือใคร✨
และผู้ทำประโยชน์ก็รู้ดีว่าเพียงแค่นี้ก็ถือเป็นการลงโทษที่เพียงพอแล้วสำหรับความเกียจคร้าน
ถ้า`จำเป็น`ต้องมีการลงโทษจริงๆนะ ซึ่งจริงๆแล้วก็`ไม่จำเป็น`หรอก
N : แต่คนที่ลงทุนลงแรงไปจะไม่โกรธหรือครับที่ต้องคอยแบ่งผลประโยชน์ของตัวเองให้กับพวกขี้เกียจ❓
G : เธอไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลย ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งขั้นต่ำสุดเพื่อยังชีพ คนที่มีมากจะ 🔸ได้รับโอกาส🔸 ที่จะบริจาค 10% ของรายรับตัวเองเพื่อให้เรื่องนี้เป็นไปได้
ส่วนเรื่องว่าจะกำหนดรายได้กันอย่างไรนั้น ระบบตลาดเสรีจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าผลงานของแต่ละคนออกมา ไม่ต่างจากที่เป็นอยู่ในประเทศของเธอทุกวันนี้
N : แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็จะยังคงมี "คนรวย" กับ "คนจน" อยู่ดี ไม่ต่างอะไรกับตอนนี้เลย❗ ไม่เห็นจะเสมอภาคกันตรงไหน
G : แต่มันคือ :
✨โอกาสที่เสมอภาคกัน✨
✴️เพราะทุกคนจะได้รับโอกาสที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวเองจะอยู่รอดไหม
✴️และทุกคนยังได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันในการหาความรู้ พัฒนาทักษะและได้ใช้พรสวรรค์ตามธรรมชาติในที่ทำสุข
★ ลองคิดดูว่าถ้าปัจจัยขั้นพื้นฐานทุกอย่างนั้นฟรีหมด(การศึกษา การรักษา การเดินทาง อาหาร ฯลฯ) หรือ มนุษย์ทุกคนได้รับเงินเดือนที่เพียงพอในทุกๆเดือนเพื่อการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน ทุกคนจะมีโอกาสที่เท่าเทียมกันไหม? ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะแสวงหาเพิ่มเติม หรือ ใครจะอยู่เฉยๆ ~ แอดมิน
N : ที่ทำสุข❓
G : นั่นจะเป็นชื่อเรียกใหม่ของ
🔸ที่ทำงาน🔸
N : แต่มันจะไม่มีการอิจฉากันหรือครับ❓
G : อิจฉา(Envy)...มี
แต่ริษยา(Jealousy)...ไม่
🔹อิจฉา🔹 คืออารมณ์ตามธรรมชาติที่ปลุกเร้าให้เธอพยายามเป็นให้มากขึ้น เหมือนกับเด็กสองขวบที่มองลูกบิดประตูด้วยสายตาละห้อยและพยายามเอื้อมให้ถึงเหมือนที่พี่ชายทำได้ ไม่มีอะไรเสียหายหรือเลวร้ายสำหรับความอิจฉา มันคือตัวกระตุ้น มันคือความปรารถนาอันบริสุทธิ์ที่ก่อให้เกิดความยิ่งใหญ่
ตรงกันข้าม 🔹ริษยา🔹 คืออารมณ์ที่มีที่มาจากความกลัวที่ทำให้มนุษย์มุ่งหมายให้คนอื่นต้องมีน้อยกว่าตน มันคืออารมณ์ที่มักมีที่มาจากความขมขื่น เป็นผลผลิตของความขุ่นเคืองที่นำไปสู่ความโกรธแค้น เป็นอารมณ์ประหัตประหาร ความริษยาเป็นอารมณ์แห่งการทำลายล้าง ใครก็ตามที่เคยประสบกับภาวะรักสามเส้าจะรู้ดี
💥 ริษยาจะเข่นฆ่า
🌟 ส่วนอิจฉาจะให้กำเนิด
คนที่อิจฉาจะได้รับทุกโอกาสที่ทำให้ประสบความสำเร็จไปตามวิถีทางของตัวเอง ไม่มีใครจะถูกรั้งเอาไว้ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม หรือด้วยเหตุผลทางเชื้อชาติ เพศ รสนิยมทางเพศ หรือด้วยเหตุผลทางวรรณะ สถานภาพทางชนชั้น อายุ หรือด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม
✴️การได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อีกต่อไป✴️
และแน่นอน มันจะยังคงมี "คนรวย" และ "คนจน" อยู่
แต่จะไม่มีใครที่ต้อง "อดอยากหิวโหย" และ "สิ้นเนื้อประดาตัว" อีก
เธอเห็นมั้ยว่าแรงจูงใจไม่ได้ถูกพรากไปจากชีวิตเลย... 🔸แค่เอาความสิ้นหวังออกไปเท่านั้น🔸
N : แล้วอะไรจะเป็นตัวรับประกันครับว่าเราจะมีผู้ทำประโยชน์ (ผู้บริจาค) มากพอที่จะ "ช่วยผยุง" เหล่าคนที่ไม่ทำอะไรเลย❓
G : 🌟ความยิ่งใหญ่ของจิตวิญญาณมนุษย์🌟
N : หา❓
G : ตรงกันข้ามกับความเชื่อของพวกเธออย่างร้ายแรงเลยใช่ไหมล่ะ
คนทั่วไปจะไม่พอใจกับสถาพความเป็นอยู่แค่ระดับพอยังชีพ พวกเขาจะสนใจแค่เพียงเรื่องนี้
มากกว่านั้นนะ 🔸แรงจูงใจเพื่อความยิ่งใหญ่🔸 ทั้งหมดจะเปลี่ยนไป
เมื่อการยกระดับกระบวนทัศน์ครั้งที่สองซึ่งคือ ✨การยกระดับกระบวนทัศน์ทางจิตวิญญาณ✨ เกิดขึ้น
N : อะไรที่ทำให้เกิดการยกระดับกระบวนทัศน์ครับ❓ มันไม่ได้เกิดขึ้นเลยในประวัติศาสตร์สองพันปี...
G : ลองประวัติศาสตร์ "สองพันล้านปี" ดีกว่าไหม...
N : ...ของโลกใบนี้ ทำไมมันถึงควรเกิดขึ้นในตอนนี้ครับ❓
G : ✴️เพราะเมื่อถอยห่างออกจากการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดทางกายภาพ (ด้วยการขจัดความจำเป็นที่จะต้องบ้าคลั่งไขว่คว้าหาความสำเร็จเพื่อจะมีความมั่นคงเพียงเล็กน้อย) ก็จะไม่มีเหตุผลอื่นใดอีกที่จะต้องทำตัวให้ 'ประสบความสำเร็จ' 'โดดเด่น' หรือ 'เพื่อจะกลายเป็นคนที่ต้องยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น' จะเว้นก็แต่ประสบการณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของตนเอง❗✴️
N : นั่นเป็นแรงจูงใจที่มากพอหรือครับ❓
G : ✴️จิตวิญญาณของมนุษย์จะยกระดับขึ้น มันจะไม่ลดระดับลงเมื่อได้เผชิญหน้ากับโอกาสที่แท้จริง วิญญาณจะแสวงหาประสบการณ์ที่สูงส่งขึ้นให้กับตัวมันเอง ไม่ใช่ลดต่ำลง ใครก็ตามที่เคยมีประสบการณ์ถึงความยิ่งใหญ่อันตราตรึงอย่างแท้จริงแม้เพียงชั่วขณะ จะเข้าใจเรื่องนี้ดี✴️
N : แล้วเรื่องอำนาจล่ะครับ❓ การจัดระเบียบใหม่นี้ มันก็จะยังคงมีคนที่รวยมากเกินไปหรือมีอำนาจมากเกินไปอยู่ดี
G : 🔹รายได้ทางการเงินจะถูกจำกัด🔹
N : โห มาอีหรอบนี้อีกล่ะ พระองค์ต้องการที่จะอธิบายว่ามันจะได้ผลอย่างไรก่อนที่ผมจะได้อธิบายว่าทำไมมันถึงจะไม่ได้ผลอย่างนั้นใช่มั้ยครับ❓
G : ใช่...และขณะที่มีการรับประกันรายได้ขั้นต่ำ จะมีการจำกัดเพดานรายได้ด้วย ขั้นแรกเลยคือ เกือบทุกคนจะปัน 10% ของรายได้ให้กับรัฐบาลโลก นี่คือการหัก 10% ด้วยความเต็มใจที่ฉันได้พูดไป
N : ใช่ครับ...ข้อเสนอเรื่อง "ภาษีที่เท่าเทียม" ที่มีมานานแล้ว
G : สังคมในตอนนี้ของพวกเธอ ณ ห้วงเวลาปัจจุบันขณะนี้ จำเป็นต้องใช้รูปแบบภาษี เพราะพวกเธอยังไม่ตื่นรู้เพียงพอที่จะเห็นว่า 🔸การสมัครใจปันส่วนหนึ่งของรายได้เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวเธอเองด้วย🔸
ทว่าเมื่อการยกระดับของจิตสำนึกเกิดขึ้นแล้วอย่างที่ฉันได้อธิบายไป พวกเธอจะเห็นว่าการปันส่วนอย่างเปิดเผย เอื้ออาทร และสมัครใจถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
N : ผมคงต้องบอกอะไรกับพระองค์บางอย่าง พระองค์จะว่าอะไรมั้ยครับถ้าผมขอขัดตรงนี้หน่อยเพื่อบอกอะไรบางอย่างกับพระองค์❓
...
...
...
บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย