24 เม.ย. 2021 เวลา 04:07 • ประวัติศาสตร์
“Mona Lisa” กับตำนานการขโมยภาพเขียนระดับโลก
“Mona Lisa” คือภาพเขียนระดับโลก ฝีมือของ “Leonardo da Vinci” จิตรกรเอกและอัจฉริยบุคคลระดับโลก
หากแต่ภาพเขียนระดับตำนานนี้ ก็เคยถูกขโมย และสร้างความโด่งดังให้ภาพนี้ยิ่งขึ้นด้วยตำนานการขโมยภาพที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
Mona Lisa
คืนหนึ่ง ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1911 (พ.ศ.2454) “Vincenzo Peruggia” ช่างซ่อมในพิพิธภัณฑ์ Louvre ได้แอบซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของๆ พิพิธภัณฑ์ Louvre
ในช่วงเวลาเช้ามืด เขาค่อยๆ ย่องออกมาจากห้องเก็บของ และยกเอาภาพ Mona Lisa ออกจากกระจกนิรภัย
ในเวลานั้น พิพิธภัณฑ์ยังไม่มีสัญญาณเตือนภัย พนักงานรักษาความปลอดภัยก็มีเพียงไม่กี่คน
Peruggia ได้แอบซ่อนรูปภาพไว้ใต้เสื้อและเดินออกนอกประตูไป
Vincenzo Peruggia
ภายหลังจากที่ภาพ Mona Lisa ถูกขโมย เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ก็ยังไม่ได้สังเกตหรือสนใจ ซึ่งการที่ภาพที่แขวนไว้หายไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากต้องมีการนำภาพไปทำความสะอาดและถ่ายรูปไว้เป็นประจำอยู่แล้ว การที่ Mona Lisa หายไปจากที่แขวนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หนึ่งในผู้อุปถัมภ์พิพิธภัณฑ์เกิดสังเกตเห็นว่าภาพ Mona Lisa หายไป และถามเจ้าหน้าที่ว่า Mona Lisa อยู่ไหน และจะนำกลับมาแขวนไว้ที่เดิมเมื่อไร
เจ้าหน้าที่ได้ไปสอบถามช่างภาพและพนักงานทำความสะอาดของพิพิธภัณฑ์ และก็ไม่มีใครที่เอาภาพ Mona Lisa ไป ในเวลานั้น จึงทราบว่าภาพเขียนที่โด่งดังนี้ได้หายไปแล้ว
ภาพข่าวการโจรกรรม Mona Lisa
สำหรับตัวของ Peruggia ผู้ที่เป็นขโมยนั้น เขาเป็นช่างชาวอิตาลีวัย 32 ปี และพิพิธภัณฑ์ Louvre ได้จ้างให้มาทำหน้าที่ติดตั้งกระจกครอบภาพวาดในพิพิธภัณฑ์
1
ด้วยความที่เขาทำหน้าที่ติดตั้งกระจกครอบภาพวาด เขาจึงสามารถถอดภาพออกจากกระจกได้อย่างง่ายดาย และภายหลัง Peruggia ก็ได้อ้างว่าที่ขโมย เนื่องจากอยากให้ภาพนี้ได้กลับไปอยู่ที่อิตาลี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Mona Lisa และเขาก็จะเป็นวีรบุรุษของอิตาลี
การโจรกรรมนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วฝรั่งเศส ก่อนจะแพร่ไปทั่วโลก เป็นกระแสที่ผู้คนสนใจ ทั้งตำรวจฝรั่งเศสและผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ก็นั่งไม่ติด เนื่องจากถูกสื่อรุมด่าว่าทำงานล่าช้าและบริหารงานไม่ดี
1
จุดที่เคยเป็นที่แขวน Mona Lisa
การออกตามหา Mona Lisa เป็นไปอย่างเข้มข้นจริงจัง และเป็นข่าวที่ผู้คนสนใจเป็นเวลานานกว่าสองปี และข่าวนี้ก็ดังมากจนตัวของ Peruggia เองไม่กล้าจะติดต่อหาผู้ต้องการซื้อ เขาทำได้เพียงซ่อนภาพวาดนี้ไว้ในอพาร์ทเม้นท์ของเขาในฝรั่งเศส
ตำรวจและผู้คนก็สงสัยและต้องการคำตอบว่าใครเป็นผู้โจรกรรม Mona Lisa มีทฤษฎีต่างๆ ออกมามากมาย
บางทฤษฎีก็ว่าเศรษฐีชาวอเมริกันที่ซื้อภาพหายากในตลาดมืด อาจจะเป็นผู้จ้างให้คนเข้าไปขโมย Mona Lisa บ้างก็ว่าอาจจะเป็นฝีมือของพวกเยอรมัน
2
ในเวลานั้น ได้เกิดความตึงเครียดระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี ชาวฝรั่งเศสหลายรายก็เชื่อว่าเป็นฝีมือของราชวงศ์เยอรมัน
ตำรวจได้ทำการสอบปากคำทุกคนที่ทำงานในพิพิธภัณฑ์ Louvre รวมทั้ง Peruggia ด้วย ซึ่งตำรวจก็ลงความเห็นว่า Peruggia ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง
ในเดือนธันวาคม ค.ศ.1913 (พ.ศ.2456) หลังจากเหตุการณ์โจรกรรมสองปี Peruggia ก็ได้รวบรวมความกล้าและส่งจดหมายหาผู้ค้างานศิลปะในเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี
ได้มีการนัดพบระหว่าง Peruggia กับผู้ค้างานศิลปะ และผู้บริหารแกลเลอรีภาพวาดในฟลอเรนซ์ ซึ่งเมื่อตรวจสอบ ผู้ค้างานศิลปะก็สังเกตเห็นสแตมป์ที่ติดอยู่ด้านหลังภาพวาด จึงรู้ได้ว่านี่คือภาพของจริง
ผู้ค้างานศิลปะและผู้บริหารแกลเลอรีภาพวาดได้ขอให้ Peruggia ทิ้งภาพวาดไว้กับพวกตน และจะส่งเงินตามไปให้ทีหลัง แต่ภายหลังจากที่ Peruggia เดินทางกลับที่พัก ตำรวจก็ได้บุกมาจับเขาถึงที่พัก
ในที่สุด Mona Lisa ก็ได้กลับคืนสู่อ้อมอกพิพิธภัณฑ์ Louvre ส่วน Peruggia ก็ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาเจ็ดเดือน
การโจรกรรมภาพ Mona Lisa นี้ มีผลดีอย่างหนึ่ง นั่นคือทำให้ Mona Lisa โด่งดังและได้รับความสนใจไปทั่วโลก
ถึงแม้ว่าภาพนี้จะได้รับการยกย่องให้เป็นงานชิ้นเอก หากแต่ก่อนการโจรกรรม ภาพนี้ก็ไม่ได้โด่งดังในวงกว้างมากนัก เพิ่งจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกภายหลังจากถูกขโมย
3
ในทุกวันนี้ Mona Lisa คือหนึ่งในงานศิลปะที่ผู้คนแทบทั้งโลกรู้จัก
โฆษณา