Empress Elisabeth of Austria : ไอดอลแห่งศตวรรษที่ 19 ตอนที่ 3 (จบ)
มาถึงตอนจบของชีวิตของจักรพรรดินี Elisabeth แห่งออสเตรียกันนะครับ ครั้งนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับชีวิตบั้นปลายของเธอ รวมถึงจุดจบก่อนวัยอันควรที่เธอต้องพบเจอกันครับ
ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินตามถนนมายังท่าเรือ มีชาวอิตาเลี่ยนหัวรุนแรงคนหนึ่งชื่อว่า Luigi Lucheni ได้เดินเข้ามาหาเธอ จากคำให้การของนางสนองพระโอษฐ์ เธอกล่าวว่า Luigi ทำทีเป็นพยายามเปิดร่มของ Elisabeth เพื่อที่จะดูหน้าของเธอ และในจังหวะนั้นเองที่เสียงหวูดจากเรือดังขึ้น Luigi ทำท่าเหมือนกับจะล้มลงไปทางองค์จักพรรดินี และพยายามคว้าตัวเธอไว้เพื่อจะรักษาสมดุลย์
แต่ในความเป็นจริง Luigi ไม่ได้ล้ม สิ่งที่นางสนองพระโอษฐ์เห็นนั้น จริง ๆ แล้วคือเขาเข้าประชิดตัว Elisabeth แล้วแทงเธอด้วยตะไบปลายแหลม ซึ่งมีความยาวถึง 4 นิ้ว
Luigi แทง Elisabeth ด้วยตะไบปลายแหลม (Source: Pinterest)
หลังจากการจู่โจม Elisabeth ล้มลงไปกองกับพื้น คนขับรถม้าที่ผ่านมาและนางสนองพระโอษฐ์ของเธอ รีบช่วยกันพยุงเธอขึ้นเรือทันที และหลังจากขึ้นเรือได้สำเร็จ เธอก็หมดสติและล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
มีการพยายามปฐมพยาบาล Elisabeth เบื้องต้นที่ดาดฟ้าเรือ ก่อนที่เธอจะถูกรีบนำตัวลงไปรักษาต่อ (Source: Pinterest)
สุดท้ายนางสนองพระโอษฐ์ของเธอสังเกตเห็นรอยเปื้อนสีน้ำตาลเข้ม เหนือหน้าอกด้านซ้ายของ Elisabeth และเธอรู้ทันทีว่าจะปล่อยสถานการณ์ให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เธอจึงรีบบอกกัปตันถึงตัวตนที่แท้จริงของ Elisabeth ทำให้กัปตันเรือต้องหันหัวเรือกลับ Geneva ทันที
ขบวนพระบรมศพของ Elisabeth ที่กรุงเวียนนา (Source: Wikipedia)
เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น
จริง ๆ แล้ว Elisabeth ไม่ใช่เป้าหมายจู่โจมของ Luigi ด้วยซ้ำ เป้าหมายของเขาจริง ๆ คือ Duke of Orlean บุคคลที่มีสิทธิ์ในบัลลังก์ของฝรั่งเศสคนหนึ่ง แต่ปรากฏว่าท่านดยุคได้ออกจาก Geneva ก่อนกำหนดไปเสียก่อน
ในเมื่อเตรียมการมาแล้ว ก็ต้องไม่ทำให้การเตรียมการเสียเปล่า และประจวบเหมาะพอดีกับการที่นักข่าวของสวิสไปสืบทราบมาพอดีว่า Elisabeth พักอยู่ใน Geneva โดยเธอกำลังเดินทางภายใต้ชื่อปลอมว่า Countess of Hohenembs ทำให้ Luigi เปลี่ยนเป้าหมายแล้วเข้าจู่โจมเธอแทน
หลังจากการจู่โจม Luigi รีบหนีออกจากที่เกิดเหตุ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับได้ภายในวันเดียวกัน ในวันรุ่งขึ้นอาวุธสังหารถูกพบ ซึ่งหลังจากการสอบสวนพบว่าจริง ๆ แล้ว Luigi ต้องการจะใช้มีดสั้น แต่เนื่องจากเขาไม่มีเงินก็เลยนำตะไบปลายแหลมมาเหลาใหม่ แล้วใช้เป็นอาวุธสังหารแทน
หลังการโจมตี Luigi รีบหนีออกจากที่เกิดเหตุทันที (Source: Pinterest)
Luigi ให้การว่าเขาทำทุกอย่างเพียงคนเดียว ไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิด และเมื่อมีข่าวว่าฆาตกรที่สังหารจักรพรรดินีเป็นคนอิตาเลี่ยน เกิดการลุกฮือขึ้นในเวียนนา เพื่อขับไล่ชาวอิตาเลี่ยนทันที และเริ่มมีการถามคำถามว่าทำไมจักรพรรดินีถึงไม่ได้รับการคุ้มกันที่เหมาะสม
ข่าวการเสียชีวิตของ Elisabeth เป็นข่าวพาดหัวใหญ่ไปทั่วยุโรป (Source: Pinterest)
ในวันนั้นถ้าเธอยอมให้มีคณะบุคคลที่อารักขาเธอ ถ้าท่าน Duke of Orlean ไม่เปลี่ยนแผนการเดินทางไปเสียก่อน ถ้าตัวเธอเองไม่เปลี่ยนแผนการเดินทาง และถ้าเหล่านักข่าวทั้งหลายจะไม่เปิดเผยชื่อจริงของเธอ (เพราะเธอเดินทางใต้ชื่ออื่นอยู่) เธออาจจะไม่ต้องเจอกับจุดจบอันน่าเศร้าแบบนี้ก็เป็นได้
Luigi Lucheni ผู้สังหารจักรพรรดินี Elisabeth มีสีหน้าไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย (Source: reddit.com)
ในส่วนของ Elisabeth นั้น ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอได้ร่างพินัยกรรมต่าง ๆ เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่าให้นำเครื่องเพชรและอัญมณีส่วนตัวของเธอออกไปขาย และนำเงินไปให้กับองค์กรการกุศลต่าง ๆ ซึ่งเงินที่ได้มานั้นมีมูลค่ากว่า 600,000 ปอนด์ ส่วนสมบัติส่วนตัวอื่น ๆ เช่นที่ดิน เสื้อผ้า เธอมอบให้กับหลานสาวคนเดียวของเธอ ลูกสาวของ Rudolf ชื่อว่า Elisabeth เหมือนเธอ
ข่าวการเสียชีวิตของ Elisabeth เป็นข่าวพาดหัวใหญ่ไปทั่วยุโรป (Source: Pinterest)
การปล้นข้ามโลก
อีกเรื่องที่ควรจะกล่าวถึง เมื่อพูดถึงจักรพรรดินีพระองค์นี้คือ Sisi Star ซึ่งเป็นเครื่องประดับผมที่เธอสั่งทำขึ้นมา เครื่องประดับผมนี้มีลักษณะเป็นดาว 10 แฉก ตรงกลางเป็นไข่มุกเม็ดงาม แล้วล้อมรอบไปด้วยเพชร
Elisabeth สั่งให้มีการทำ Sisi Star มีจำนวนทั้งหมด 27 ชิ้น ซึ่งบางชิ้นเธอก็มอบให้นางสนองพระโอษฐ์เป็นของกำนัล ภาพวาดของเธอที่มี Sisi Star ประดับเรือนผมอยู่ กลายมาเป็นหนึ่งในภาพที่คนสามารถจดจำเธอได้มากที่สุด จวบจนถึงปัจจุบันนี้
ภาพวาดของจักรพรรดินี Elisabeth กับเรือนผมของเธอที่มี Sisi Star ประดับอยู่ (Source: Pinterest)
และด้วย Sisi Star กับภาพวาดนี่เอง ที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้นำแฟชั่นเทรนด์ในหมู่ราชวงศ์ยุโรปในการจัดหาเครื่องประดับผมทำจากเพชร ทำให้ช่างอัญมณีที่ทำ Sisi Star ให้เธอนั้น ได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว
ในปี 1998 มีชายนามว่า Gerald Blachard และครอบครัว ได้ขโมย Sisi Star 1 ชิ้นไปจากนิทรรศการที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกครบรอบ 100 ปี การเสียชีวิตของ Elisabeth ที่พระราชวัง Schönbrunn ในเวียนนา
1
Sisi Star เครื่องประดับผมของ Elisabeth ที่โดนขโมยไป (Source: https://www.seattletimes.com/nation-world/gem-theft-polishes-a-con-mans-image)
Gerald Blanchard มีชื่อเสียงในฐานะนักโจรกรรมที่มีฝีมือระดับโลก เขาเล่าว่าประมาณ 2-3 วันก่อนการโจรกรรม เขาพร้อมกับภรรยา ได้ถ่ายวีดีโอ ถึงรูปแบบของห้อง จากนั้นในวันโจรกรรม เขาโดดร่มชูชีพลงมาจากเครื่องบินเล็ก ลงมายังหลังคาของพระราชวัง จากนั้นปลดระบบสัญญาณเตือนภัย แล้วขโมย Sisi Star ไปโดยแทนที่ของจริงด้วยของเลียนแบบแทน
ภาพวาดของจักรพรรดินี Elisabeth กับเรือนผมของเธอที่มี Sisi Star ประดับอยู่ (Source: Pinterest)
ทางการใช้เวลานานถึง 2 อาทิตย์ กว่าจะทราบว่า Sisi Star ที่จัดแสดงอยู่นั้นเป็นของเลียนแบบ และสุดท้ายการตามล่าหา Sisi Star ก็เริ่มต้นขึ้น มีการพบชูชีพ และวีดีโอที่ Gerald ถ่ายเอาไว้ แต่ก็ยังไม่สามารถตามจับเขาได้
1
จนกระทั่งในปี 2007 Gerald ถูกจับที่ประเทศแคนาดาในข้อหาโกงเงิน และเขาก็ยอมที่จะคืน Sisi Star ของจริงให้กับทางการออสเตรีย เขาบอกว่าสิ่งเดียวที่เขาต้องการคือ ให้คนที่ร่วมก่อคดีกับเขา (ภรรยาและพ่อตาของเขา) นั้นได้รับโทษเพียงทัณฑ์บน ส่วนตัวเขายินดีที่จะได้รับโทษตามกำหนด นับว่าเป็นโจรที่มีหลักการดีที่เดียว และในปัจจุบันหลังจากออกมาจากคุก เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับบริษัทชั้นนำของโลก