Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คีตาแห่งสยาม
•
ติดตาม
2 พ.ค. 2021 เวลา 07:44 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣ ความท้อแท้ของอรชุน
(ตอนที่ 15) ✴️
🌸 “กองทัพฝ่ายจิตวิญญาณ” กับ “กองทัพฝ่ายวัตถุ” 🌸
1
⚜️ โศลก 4️⃣➖6️⃣ ⚜️ (ตอนที่ 3)
3
หน้า 67 – 70
▪️โกษ, ขั้นตอนวิวัฒนาการในการเนรมิตสร้างมนุษย์▪️
ขั้นตอนการแสดงออกเหล่านี้กล่าวกันในโยคะว่าเป็นกาบ หรือ โกษ (koshas - โกษะ) #สิ่งเนรมิตสร้างทุกอย่างถูกห่อหุ้มอยู่ด้วยกาบนี้หนึ่งกาบหรืออาจจะมากกว่าถึงห้ากาบ และกาบเหล่านี้ก็คือ “#กาบของความหลง” ซึ่งแต่ละกาบ (ตามลำดับก้าวลง) #จะเป็นอุปสรรคขัดขวางเหตุและหัวใจแห่งการเนรมิตสร้างทั้งมวล_ซึ่งก็คือพระเจ้า
โกษทั้งห้าได้แก่ :
1️⃣ อานันทมยโกษ หรือ 'กาบความเกษม',
2️⃣ ญาณมยโกษ 'กาบปัญญา',
3️⃣ มโนมยโกษ 'กาบจิต',
4️⃣ มนะ; ปราณมยโกษ 'กาบชีวิต' หรือ 'ปราณ',
5️⃣ อันนมยโกษ 'กาบวัตถุ'
★ 5 อยู่ชั้นนอกสุด ไล่ไปถึง 1 ที่อยู่ชั้นในสุด – แอดมิน]
กาบความเกษม(1) เป็นสิ่งที่ครอบคลุมและเป็นเหตุของโลกเหตุและกายมนุษย์ กาบทั้งสามของปัญญา(2) จิต(3) และชีวิต(4) เป็นสิ่งที่ครอบคลุมจักรวาลทิพย์และกายของมนุษย์ กาบวัตถุ(5) แสดงตนในลักษณะของจักรวาลทางกายภาพและกายของมนุษย์
ส่วนการก้าวสู่ขั้นสูง จาก “วัตถุสู่บรมวิญญาณ” นั้น #ห้าขั้นตอนของวิวัฒนาการชีวิตตามธรรมชาติ ก็เป็นผลมาจากกาบทั้งห้านี้ #เมื่อแต่ละกาบถูกปอกออกไป_ชีวิตประเสริฐก็จะค่อยๆสำแดงตน
แร่ธาตุที่มีความเฉื่อยถูกกักอยู่ในกาบทั้ง 5️⃣ นี้
—เมื่อปอกกาบอันนมยโกษ(5) หรือกาบวัตถุออก ปราณมยโกษ(4) กาบชีวิตหรือปราณก็สำแดงออกมา #การสำแดงที่ปรากฏคือชีวิตในพืช
— เมื่อปอกกาบปราณมยโกษ(4)ออก และแสดงมโนมยโกษ(3) หรือกาบจิตออกมา #ชีวิตในอาณาจักรของสัตว์ก็จะปรากฏ (สัตว์มีจิตและการรับรู้แต่ไม่มีพุทธิปัญญาแยกแยะความถูกผิด)
— เมื่อปอกกาบมโนมยโกษ(3)ออก และญาณมยโกษ(2) หรือกาบปัญญาถูกเปิดออก #ปัญญาหรือมนุษย์ก็จะสำแดงตน พร้อมกับความสามารถที่จะคิด ที่จะใช้เหตุผล ใช้ปัญญานำการกระทำและการเลือกเสรีของตน
— เมื่อมนุษย์ใช้ปัญญาแยกแยะนี้อย่างถูกต้อง ญาณมยโกษ(2)ก็จะหมุนกลับ อานันทมยโกษ(1) หรือ กาบความเกษมก็จะเผยตน #นี่คือภาวะของมนุษย์ประเสริฐ_ซึ่งมีแค่ม่านบางๆกางกั้นระหว่างตัวเขากับพระเจ้า★
★ เจ.บี.เอส. ฮัลเดน นักพันธุศาสตร์ผู้โด่งดังชาวอังกฤษ ได้ประกาศว่า “เมื่อวิเคราะห์กันถึงที่สุดแล้ว #จักรวาลนี้ไม่เป็นอะไรมากไปกว่าการสำแดงอย่างยิ่งของพระเจ้า”
นิตยสาร Time (28 ธันวาคม 1992) รายงานว่า การค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ในงานวิจัยหลายๆสาขาได้ค่อยๆคลี่คลายสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์คิดกันมานานว่า วิวัฒนาการที่สูงขึ้นของชีวิตและสติปัญญาซึ่งในที่สุดได้กลายเป็นมนุษย์นั้นเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ แต่ชีวิตที่ดำรงอยู่นี้กลับทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนยอมรับว่า มันเหมือนมี 'การออกแบบ' “#การวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนชี้ให้เห็นว่าแม้แต่โมเลกุลน้อยๆก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นมาอย่างส่งเดช”
บทความหนึ่งในนิตยสาร Newsweek (19 กรกฎาคม 1993) ได้ตั้งคำถามว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่อยู่ดีๆ เมื่อแก๊สและก้อนดินมารวมกันแล้วจะเกิดเป็นชีวิตขึ้นมาได้...ไม่ว่าส่วนประกอบของชีวิตจะเริ่มวิวัฒนาการขึ้นที่ไหนก็ตาม แต่เมื่อจับมารวมกันแล้วจะทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตแบบเต็มรูปแบบขึ้นมาได้ ดูเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างที่สุด”
ครั้งหนึ่งเฟรด ฮอยด์ นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษ (ผู้ก่อตั้ง Institute for Theoretical Astronomy ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์) เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เหลือเชื่อ เหมือนกับการประกอบเครื่องบินโบอิ้ง 747 ด้วยการส่งพายุทอร์นาโดโยนเข้าไปกองขยะ”
บทความในนิตยสาร Time กล่าวต่อไปว่า “ข้อสังเกตทางฟิสิกส์ที่ท้าทายได้ชี้ว่า จักรวาลมีความเหมาะสมต่อการดำรงอยู่ของชีวิต ถ้าแรงโน้มถ่วงของโลกถูกดันให้สูงขึ้นไปอีกหน่อย ดวงดาวก็จะเผาไหม้เร็วขึ้น ชีวิตที่หมุนวนอยู่บนดาวเคราะห์ทั้งหลายก็จะมีเวลาเพียงเล็กน้อยที่จะวิวัฒน์ ถ้าปริมาณโปรตอนกับนิวตรอนเปลี่ยนไปสักนิด ก็อาจไม่มีดวงดาวเกิดขึ้นเพราะขาดไฮโดรเจน และตอนเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ (Big Bang) ถ้าเลขจำนวนพื้นฐานซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญขาดความคงที่ สสารกับพลังงานคงไม่อาจรวมตัวกันเป็นกาแลกซี่ เป็นดวงดาว เป็นดาวเคราะห์ หรือเป็นเวทีที่มั่นคงพอให้ชีวิตอย่างที่เรารู้จักกันนี้เกิดขึ้นได้”
“แต่ข้อเท็จจริงที่ผู้คนยังรู้กันน้อย ก็คือ ปัจจุบันนี้นักชีววิทยาหัวก้าวหน้าหลายคน หรือเกือบทุกคนเชื่อว่าวิวัฒนาการนั้น ถ้ามีเวลามากเพียงพอ จะสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ที่มีคุณลักษณะอันจำเป็นอย่างที่เรามีกันอยู่นี้ได้ ปัญญาอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้มนุษย์รู้จักตัวเอง และเริ่มคิดได้ว่าสิ่งทั้งหลายทำหน้าที่ของมันอย่างไร จริงๆแล้วนักชีววิทยาจำนวนมากเชื่อกันมานานแล้วว่า (ตามโครงสร้างพื้นฐานของจักรวาล) การเกิดขึ้นของชีวิตที่มีปัญญาประเสริฐนั้น เป็นสิ่งที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยทีเดียว”
ในหนังสือ The Immense Journey (New York: Random House, 1957) นักชีววิทยา ลอเร็น ไอส์ลีย์ ได้ให้ความเห็นถึงสิ่งที่เชื่อกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาเกี่ยวกับกระบวนการวิวัฒนาการโดย “การคัดเลือกตามธรรมชาติ” และ “การมีชีวิตรอดของชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด” ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าชีวิตที่มีความซับซ้อนนี้มีชีวิตรอดก็ด้วยวัตถุดิบของโลกว่า :
“มนุษย์เราพูดกันมากเกี่ยวกับสสารและพลังงาน พูดถึงการต่อสู้เพื่อการมีชีวิต สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง แต่ก็ยังมีสิ่งอื่นที่ละเอียดอ่อน เลื่อนไหล ไปเร็วราวครีบปลาในน้ำ นั่นคือ 'หลักการเร้นลับ' ที่เรียกว่า 'การจัดองค์กร (organization)' ซึ่งถ้านำมาเปรียบเทียบกันแล้ว ความลับอื่นๆที่เกี่ยวกับชีวิตก็จะกลายเป็นสิ่งจืดชืดไร้ความสำคัญ เพราะถ้าขาด 'การจัดองค์กร' เสียแล้วก็เห็นได้ชัดว่า ชีวิตคงดำรงอยู่ไม่ได้
แต่องค์กรนี้ก็ไม่ใช่ผลผลิตของชีวิต ไม่ใช่การคัดเลือก เช่นเดียวกับที่ดวงตาเราเห็นเงาที่วูบไหวอยู่ในสสาร หรือได้ยินเสียงนกมีโดว์ลาร์ก ร้องเพลงในที่โล่ง... ถ้าสสาร “ไร้ชีวิต” ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่มีจิ้งหรีดกรีดเสียง นกกระจิบขับขาน และมีมนุษย์ผู้น่าอัศจรรย์ได้ มันก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาแม้แต่สำหรับนักวัตถุนิยมอย่างสุดตัวว่า 'สสาร' ที่เขาพูดถึงนั้นย่อมมีสิ่งอัศจรรย์ปนอยู่ด้วย เพราะถ้าไม่ใช่เป็นพลังอำนาจที่น่าครั่นคร้าม ก็น่าจะเป็นอย่างที่ ฮาร์ดี้กล่าวไว้ว่า “หนึ่งในหลายหน้ากากกำบัง เบื้องหลังคือ มหาพักตรา” ”
{หมายเหตุโดยผู้จัดพิมพ์}
#มนุษย์ซึ่งเป็นจุลชีวินในจักรวาลก็มีกาบทั้งห้านี้ในตน — วัตถุ(4) ชีวิต(4) จิต(3) ปัญญา(2) และความเกษม(1) #มีแต่มนุษย์เท่านั้นในบรรดาสิ่งเนรมิตสร้างทั้งหลายที่สามารถลอกกาบเหล่านี้ #และสามารถปลดปล่อยวิญญาณของตนให้เป็นอิสระและกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าได้
โยคะดังที่ได้พรรณนาไว้ในภควัทคีตา และได้ขยายความทั้งสามโศลกไว้ ณ ที่นี้ #เป็นวิธีที่จะไปถึงการปลดปล่อยดังว่านี้_ด้วยการปฏิบัติโยคะอย่างถูกต้อง
✴️โยคีผู้สำเร็จแล้วซึ่ง 'ปราณายามะ' หรือ #การควบคุมปราณ จะสามารถ “ปอก” กาบพลังชีวิต (ปราณมยโกษะ)(4) แล้วท่านจะพบว่า #พลังชีวิตนี้คือการเชื่อมโยงระหว่างวัตถุกับบรมวิญญาณ เมื่อท่านสามารถ “ควบคุมพลังชีวิต” ได้ ท่านย่อมเข้าใจว่า #ธรรมชาติแท้จริงของวัตถุ (อันนมยโกษ)(5) ก็คือ #การแสดงมายาของบรมวิญญาณ
1
✴️เมื่อพลังชีวิตที่ไหลอยู่ภายใน #ตัดการเชื่อมต่อกับจิตที่โยงอยู่กับจิตผัสสอินทรีย์อันจำกัด (มโนมยโกษ)(3) และเมื่อกาบนี้ 'เปิดออก' กาบพุทธิปัญญา (ญาณมยโกษ)(2) ก็จะมีอำนาจอยู่ในชีวิตและการภาวนาของท่าน
✴️#การบ่มเพาะพุทธิปัญญาด้วยการกระทำทางจิตที่ถูกต้องและการปฏิบัติโยคะสมาธิ #จะทำให้ท่านสามารถม้วนกาบปัญญา_เปิดเผยกาบแห่งความเกษม (อานันทมยโกษ)(1) ซึ่งเป็น #กายเหตุ_ที่ห่อหุ้มวิญญาณท่านด้วยญาณปัญญา_และสหัชญาณอันบริสุทธิ์
✴️#การเปิดกาบแห่งความสุขขณะอยู่ในสมาธิอันลึกซึ้ง #ทำให้โยคีสามารถรวมวิญญาณของท่านกับความเป็นหนึ่งเดียวอันเกษมสุขของพระผู้เป็นเจ้า
(มีต่อ)
บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภควัทคีตา เล่ม 1 บทที่ 1
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย