Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขมานันทะในใจเรา - ชาติพันธุ์ภาวนา
•
ติดตาม
3 มิ.ย. 2021 เวลา 23:00 • ปรัชญา
ดั่งสายน้ำไหล (๑๙)
ทีนี้ผมจะเล่านิทานให้หัวเราะบ้าง เรื่องนี้มีคนอ่านกันทั่ว คือนิทานเรื่อง “นัสรูดิน” นัสรูดินมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อมุสตาฟา เป็นคนที่ไม่ฉลาด นัสรูดินเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ชอบทำเป็นคนโง่ และชอบล้อเลียนเพื่อนบ้าน
วันหนึ่งมุสตาฟาตื่นแต่เช้ามืด ด้วยความท้อแท้ก็ไปหานัสรูดินบอกว่า เพื่อนเอ๋ย บ้านที่ผมอยู่มันแคบ กลิ่นอับ ไม่คล่องตัวเลย ผมไม่มีความสุขกลัดกลุ้มมาหลายปีแล้ว ช่วยผมหน่อยได้ไหม เงินที่จะขยายห้องก็ไม่มี นัสรูดินบอกว่า เอาล่ะ แกต้องเชื่อข้านะ เชื่อทุกอย่างนะ แล้วจะช่วยให้สบายขึ้น มุสตาฟาบอกว่าผมจะเชื่อทุกอย่างที่นายบอก
นัสรูดินได้ทีก็บอกว่า คืนนี้นะเอาแพะเข้าไปล่ามในห้องนอนของแก มุสตาฟาก็งงแต่ก็เชื่อฟังนัสรูดิน รุ่งเช้าตื่นมาตาแดงมาหานัสรูดิน ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ เจ้าแพะวายร้ายมันร้องทั้งคืน ไหนว่าจะช่วยผมให้มีความสุข นัสรูดินบอกว่าเอาน่าเชื่อฉัน คืนนี้เอาลาเข้าไปอีกตัวหนึ่งไปล่ามด้วยกัน มุสตาฟาคนโง่ก็ทำตาม เอาลาเข้าไปล่าม รุ่งเช้าก็โผเผมาบอกว่า เจ้าแพะกับลามันทะเลาะกันทั้งคืน ร้องและเตะกันและถ่ายมูลออกมา ห้องผมเล็กอยู่แล้วเหม็นคลุ้งไปหมด ไหนว่าจะช่วยผมให้สบายขึ้นไงล่ะ นัสรูดินบอกว่าเอาน่า คืนนี้ได้เรื่อง เอาม้าเข้าไปอีกตัวหนึ่ง พอรุ่งเช้ามุสตาฟาไม่มีแรงเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน บอกนัสรูดินช่วยผมด้วย ช่วยผมให้มีความสุขหน่อย
นัสรูดินบอกว่าเอาละได้ที่แล้ว คืนนี้เอาแพะออกจากห้องไป พอรุ่งเช้ามุสตาฟามาหา นัสรูดินก็ถามว่าเป็นไงบ้าง มุสตาฟาจึงบอกว่าค่อยยังชั่วนิดหนึ่งแล้ว นัสรูดินบอกว่า งั้นคืนนี้เอาลาออกไป รุ่งเช้ามุสฟาบอกว่าผมรู้สึกว่าห้องผมกว้างขึ้น นัสรูดินบอกว่า เอ้าคืนนี้แกเอาม้าออกไปจากห้อง รุ่งเช้ามุสตาฟาเดินยิ้มเผล่บอกว่า แหม, ผมรู้สึกเป็นสุขเหลือเกิน ห้องผมรู้สึกมันกว้างขวางดี
คนเราจะไม่รู้จักพอใจตนเอง เที่ยวคิดฟุ้งไป ครั้นสูญเสียไปทีละน้อยพอได้คืนมาก็รู้สึกดีขึ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้จักสิ่งที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า สันโดษ ความรู้สึกพอใจในสภาพที่เป็นจริงที่ตนเองเป็นอยู่ ซึ่งเป็นคุณธรรมหลักในพระพุทธศาสนา สันโดษ คือความรู้สึกพออยู่เสมอ ไม่ว่าในการเจริญภาวนาหรือด้านอาชีพ รายได้หรือความสามารถ ความรู้สึกพออกพอใจเท่าที่ตัวเองมีตัวเองเป็น ก็เกิดกำลังอย่างต่อเนื่องที่จะให้เกิดความสามารถหรือสิ่งดีๆ เพิ่มพูนขึ้น
ดังนั้นยิ่งสันโดษก็ยิ่งก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่างแน่นแฟ้น ถ้าคนเรารู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ จิตใจก็จะหดหู่มีแต่โทสะ เกลียดชังตนเอง ในที่สุดงานสร้างสรรค์ก็ไม่เกิดขึ้น
คุณธรรมสองประการที่ทำให้พระพุทธเจ้า ท่านบรรลุเป็นศาสดาที่เยี่ยมยอดประการต้นนั่นคือ “สันโดษ” ท่านตรัสว่า “ตถาคตเป็นผู้สันโดษอย่างยิ่ง” มีจีวร ที่อยู่ อาหาร ปัจจัย เครื่องยังชีพถือเอาตามมีตามเกิด เรารู้ว่าพระพุทธเจ้านอนกับดิน แล้วท่านไม่ใช่คนธรรมดามาก่อน เป็นเจ้าชายในราชสำนักด้วย ท่านไม่ใช่ตาสีตาสา
คุณธรรมอีกประการหนึ่งก็คือ ความไม่รู้จักสันโดษ เรียกว่า “อสันโดษ” ตรัสว่า “ตถาคตไม่เคยสันโดษในคุณธรรมเบื้องต่ำ” คือย่อมมุ่งไปสู่คุณธรรมเบื้องสูงเสมอ
ท่านบอกว่าท่านมีทั้งสองอย่างคือทั้งสันโดษ และไม่สันโดษ คือสันโดษในปัจจัยสี่เครื่องยังชีพ แต่ไม่รู้จักสันโดษในคุณงามความดี คือขยันขวนขวายอยู่เรื่อย ไม่ทอดธุระ ไม่นิ่งนอนใจ
รวบรวมจากคำแนะนำต่อกลุ่มธรรมจาริณี ในรายการภาวนาประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ณ อาศรมศานติ-ไมตรี นิคมพึ่งตนเองขุนทะเล จ.สุราษฎร์ธานี
1 บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ดั่งสายน้ำไห
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย