21 พ.ค. 2021 เวลา 05:24 • ปรัชญา
E P 5 " อารมณ์ความรู้สึก คือตัวแสดงผลของความคิด คือเครื่องรับ-ส่งสัญญาณ "
เราเปลี่ยนแปลงนิสัยได้ ด้วยการมีสติรู้เท่าทันความคิด แต่ความคิดไวมาก จับแทบไม่ทัน ถ้าสติยังไม่ไวพอ ยังผ่านการฝึกฝนไม่เพียงพอ
แต่เรายังมี สัญญาณเตือน ที่เป็นตัวแสดงผลของความคิด ว่าความคิดเหล่านั้นเป็นความดีงาม ความคิดบวก หรือเป็นความคิดลบ
คือ "อารมณ์ความรู้สึก" ของเรานี่เอง
อารมณ์ความรู้สึกเป็นตัวแสดงผลของความคิด
เมื่อประสาทสัมผัสไปกระทบกับสิ่งภายนอก แล้วเกิดความคิด การตีความ จะก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกตามมา
เมื่อพบเจอกับสิ่งที่ชอบ จึงเกิดความรู้สึกดี
เมื่อพบเจอกับสิ่งที่ชัง จึงเกิดความรู้สึกไม่ดี
ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นจากการตัดสิน ตีความ ของความคิด จากประสบการณ์ในอดีตที่สั่งสมมา
ความทุกข์ทั้งหลายเกิดขึ้นจากการยึดติดอยู่กับอดีตนั้น
เกิดจากความรู้สึกยึดติดว่า สิ่งนี้ฉันชอบ ฉันอยากได้สิ่งนี้อีก หรือสิ่งนี้ฉันไม่ชอบ ฉันไม่อยากได้สิ่งนี้อีก
เมื่อพบเจอผู้คน เหตุการณ์ สถานการณ์ตรงหน้า แล้วไม่เอาจิตเข้าไปตัดสิน ตีความ สิ่งเหล่านั้น จึงเป็นอิสระจากอดีตได้
อยู่กับปัจจุบันขณะ ด้วยความบริสุทธิ์
ด้วยความรัก เมตตา
สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ
จึงเป็นคนคนใหม่ที่หลุดพ้นจากอดีตนั้น
1
ชีวิตใหม่สร้างได้ที่ปัจจุบันขณะนี้เท่านั้น มิใช่ที่อดีตและอนาคตนั้น
เราทุกคนมีเครื่องรับ-ส่ง สัญญาณ อยู่กับตัวตลอดเวลา เครื่องรับส่งนี้ทำงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งยามหลับและยามตื่น
อารมณ์ความรู้สึกของเรานี้ ส่งคลื่นสั่นสะเทือน ที่เป็นความถี่เฉพาะ ที่เราเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง ส่งออกไปอยู่ตลอดเวลา
ที่ใจเรานี้เป็นเครื่องรับสัญญาณคลื่นความถี่
ที่ผู้คน และทุกสรรพสิ่ง ส่งออกมาได้เช่นกัน
เวลาที่ได้อยู่ใกล้กับคนที่มีจิตใจสงบสุข
คนที่คิดบวก คิดแต่สิ่งดีงาม
หรือไปยังสถานที่ที่มีพลังงานดีดี
อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หรือเสพสื่อด้านบวก
ใจเราจะรับรู้สัมผัสได้ เกิดความรู้สึกดีดี
เวลาที่ได้อยู่ใกล้คนที่คิดลบ กลัว กังวล โกรธ หงุดหงิด เมื่อไปยังสถานที่ที่มีพลังงานคลื่นความถี่ต่ำ หรือเสพสื่อด้านลบ
ความรู้สึกภายในใจเรานี้ก็รับรู้ได้เช่นกัน
หากเรามีสติรู้เท่าทันความรู้สึกตัวเอง
อารมณ์เราจะไม่ไหลลงต่ำไปตามสิ่งรอบตัวนั้น
เราเลือกได้ ที่จะไม่รู้สึกตามความคิดลบเหล่านั้น ไม่ไปยังสถานที่ที่ทำให้รู้สึกไม่ดี ไม่เสพสื่อที่ทำให้อารมณ์ไหลลงต่ำ
เลือกความคิดที่ดีงาม ความคิดด้านบวก เลือกสังเกต เลือกสนใจแต่สิ่งดีดี
สังเกตเห็นความงดงาม ความรักที่ผู้คนมอบให้แก่กันและกัน รอบตัวเรา
หมั่นเติมความรักให้ตัวเอง ชื่นชมตัวเอง
หมั่นแบ่งปันความรัก ความเมตตา ให้อภัย
ทั้งต่อตัวเราเอง และทุกผู้คน
ในทุกเหตุการณ์ สถานการณ์ มีด้านดีงาม อยู่ภายในนั้นเสมอ สังเกตให้เห็น มองอย่างลึกซึ้ง
ต้องอาศัย กำลังจิต กำลังใจ กำลังศรัทธา กำลังสติ จากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
ฝึกฝนใหม่ๆ ก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะนิสัยเดิม ความคิดเดิมในอดีตที่ยึดติดมาอย่างเหนียวแน่น จะคอยเหนี่ยวรั้งให้ไหลลงต่ำ
เราได้สะสม ความคิด ความรู้สึก คำพูด การกระทำ เหล่านั้นมายาวนานแค่ไหนแล้ว ?
เราเลือกได้ว่า จะดำเนินตามรอยเดิม และเกิดผลลัพธ์ในชีวิตแบบเดิมๆ พบเจอผู้คน เหตุการณ์ สถานการณ์แบบเดิมๆ
หรือสลัดทิ้งอดีตเหล่านั้น ชำระล้างพลังงานเก่าที่เหนียวข้นนั้น ให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ เบาสบาย
ด้วยการเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่อย่างมีสติรู้เท่าทัน ความคิด คำพูด อารมณ์ความรู้สึก และการกระทำ
เราจะเริ่มสังเกตเห็นความคิด และอารมณ์ความรู้สึกตัวเองได้มากขึ้น ละเอียดอ่อน ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ให้กำลังใจ และชื่นชมตัวเองเสมอ แม้ทำได้เพียงเล็กน้อย ความคิดดีงามเหล่านั้นจึงจะเจริญเติบโตงอกงามในใจเรา
สิ่งที่เราคิด พูด กระทำ ซ้ำๆ
สร้างความเป็นจริงให้เกิดขึ้นในชีวิตเสมอ
ฝึกฟังเสียงภายในส่วนลึกที่สุดของจิตใจนี้ไปเรื่อยๆ เราจะสังเกตเห็นนิสัยตัวเองได้ชัดเจน และลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นแล้ว เพียงสังเกตเฉยๆ ไม่เข้าไปตัดสิน หรือตีความ ความคิดและอารมณ์เหล่านั้นก็จะสลายตัวไปเอง
ธรรมชาติเดิมนั้นบริสุทธิ์ สะอาด อิสระ
เป็นความรัก อ่อนโยน เมตตา สงบสุข ศานติสุข
เราคือส่วนหนึ่งของธรรมชาตินี้ จึงมีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่ภายใน
อารมณ์ด้านบน -อารมณ์ด้านล่าง (ภาพประกอบจาก Pinterest)
เมื่อปล่อยสิ่งที่เรายึดถือว่าคือตัวตนเราออกไป ใจเราจะเป็นอิสระ และเบาสบายยิ่งขึ้น เป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และสอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติได้ยิ่งขึ้น
เราทุกคนสามารถกลับไปเป็นตัวตนที่แท้จริงนี้ได้
เพราะเราคือธรรมชาตินี้อยู่แล้วโดยเนื้อแท้
ความรัก ความอ่อนโยน เมตตา ความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ มีอยู่แล้วอย่างสมบูรณ์แบบในตัวเราทุกคนเสมอมา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา