21 พ.ค. 2021 เวลา 17:40 • ประวัติศาสตร์
🌻ที่มาของดอกทานตะวันจากตำนานกรีก
ภาพวาดชื่อว่า Clytie Transformed into a Sunflower โดย Charles de Lafosse, 1688 Photo: Wikimedia
🌻ที่มาจากตำนานกรีก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีสาวงามนางหนึ่งชื่อว่า Clytie ผมของเธอมีสีทองสวยงามและมีนัยน์ตาสีน้ำตาลดวงโต เธอมีรูปร่างสูงระหงสะโอดสะองงดงาม
Clytie อาศัยอยู่ใกล้สวนขนาดใหญ่ วันหนึ่งเธออยู่ในสวนยืนเฝ้าดูนกพิราบสัตว์เลี้ยงของเธอบินไปมาบนท้องฟ้า แล้วสายตาเธอก็เห็นรถม้าพระอาทิตย์ของเทพเจ้า Apollo พร้อมทั้งเห็นองค์เทพกำลังขับรถม้าไปตามเส้นทางรอบสวรรค์ วันนั้นที่เธอได้เห็นเป็นเพราะว่ามีเมฆมาปกคลุมท้องฟ้าอย่างหนาแน่น เธอจึงมองเห็นองค์เทพได้โดยไม่ถูกพระอาทิตย์สาดแสงส่องสายตาจนบอดไป
หลังจากวันนั้น Clytie ก็ไปที่สวนแห่งนี้ทุก ๆ วันเป็นเวลามากกว่า 1 เดือนเพื่อเฝ้ามองท้องฟ้าโดยหวังว่าจะได้ยลโฉมเทพ Apollo อีกครั้ง แม่ของนางเฝ้าเตือนลูกสาวอยู่เสมอว่ามิให้ทำเช่นนั้นเพราะจะทำให้เทพเจ้า Apollo โกรธกริ้ว แต่ Clytie ไม่เชื่อฟังแม่ของนาง ความงดงามของเทพเจ้า Apollo ทำให้นางหลงใหลจนไม่เป็นอันทำอะไร
เมื่อเทพเจ้า Apollo เห็นนางวันแล้ววันเล่าจึงหมดความอดทน และบอกกับนางว่าหญิงสาวชาวมนุษย์จะต้องเชื่อฟังแม่ของตัวเอง พร้อมกับคันศรพระอาทิตย์ที่เผาไหม้ได้หล่นลงมาใส่ศีรษะของนาง
ทันใดนั้นร่างกายของนางก็เปลี่ยนแปลงไป ตาสีน้ำตาลของนางโตขึ้น ๆ ผมสีทองแสนสวยยืดออกไปรอบ ๆ ศีรษะของนาง และเสื้อผ้าที่นางสวมใส่เปลี่ยนเป็นใบไม้รูปหัวใจขนาดใหญ่ เท้าของนางติดอยู่ที่พื้นแล้วนิ้วเท้าทั้งสิบนิ้วของนางกลายเป็นรากอันแข็งแรงขนาดใหญ่ที่งอกออกไปทุก ๆ ที่เพื่อแสวงหาน้ำ
1
เมื่อ Clytie หายไปแม่ของนางจึงออกมาร้องเรียกตามหาแต่ไร้เสียงขานตอบ เมื่อมาถึงสวนแม่ของนางพบว่ามีดอกไม้ดอกหนึ่งขึ้นอยู่แทนที่ตรงที่ลูกสาวของนางได้มายืนอยู่
จนกระทั่งทุกวันนี้ Clytie ยังเฝ้ามองพระอาทิตย์ตลอดทั้งวัน เมื่อยามรุ่งอรุณใบหน้าของนางจะหันไปทางตะวันออกเพื่อมองพระอาทิตย์ และพอยามราตรีใบหน้าของนางจะหันไปทางตะวันตกตรงที่พระอาทิตย์ลับสายตาไป
นี่คือเรื่องเล่าตามตำนานกรีก แต่มีอีกเวอร์ชั่นหนึ่งเล่าว่า Clytie นั้นเป็นนางไม้แล้วหลงรักเทพเจ้า Apollo ซึ่งเทพเจ้าองค์นี้ก็รักนางตอบ แต่ต่อมาเทพ Apollo เปลี่ยนใจไปรักนางไม้ตนอื่น ด้วยความริษยา Clytie จึงนำเรื่องนี้ไปบอกพ่อของนางไม้ตนนั้น พ่อของนางไม้จึงลงโทษลูกสาวด้วยการฝังทั้งเป็น เทพเจ้า Apollo เมื่อรู้เรื่องจึงโกรธมากและได้สาปให้นางกลายเป็นดอกทานตะวัน แต่ด้วยความรักที่มีต่อเทพ Apollo แม้จะถูกสาปแต่นางยังคงเฝ้ามองตามเทพเจ้า Apollo ขับรถม้าข้ามท้องฟ้าทุก ๆ วัน เฉกดังเช่นดอกทานตะวันหันตามพระอาทิตย์ทุกชั่วโมงยาม
🌻เรื่องน่ารู้
•ชื่อวิทยาศาสตร์ของดอกทานตะวันคือ helianthus ซึ่งมาจากภาษากรีกคือคำว่า helios แปลว่า พระอาทิตย์ กับคำว่า anthus แปลว่า ดอกไม้
•ดอกทานตะวันพบว่ามีถิ่นกำเนิดที่ทวีปอเมริกามานานนับ 1000 ปีก่อนคริสตกาลในบริเวณที่ปัจจุบันกลายเป็นรัฐแอริโซน่ากับนิวเม็กซิโก
•คนท้องถิ่นในทวีปอเมริกายุคแรกเริ่มได้ปลูกทานตะวันเพื่อใช้เป็นอาหาร โดยจะบดเมล็ดทานตะวันให้ละเอียดและทำเป็นแป้งเพื่อผลิตขนมปัง
•เมื่อต่อมาคนท้องถิ่นของทวีปอเมริกาสามารถสกัดน้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวันเพื่อใช้ทำอาหารได้แล้ว ก็มีการนำนำ้มันจากเมล็ดดอกทานตะวันมาใช้เพื่อบำรุงผิวและผมด้วย
•ต่อมาในช่วงปี 1700 ทานตะวันกลายเป็นที่นิยมในยุโรปไปจนจรดรัสเซียและยูเครน
•คริสตจักรออโธดอกซ์ห้ามกินอะไรทั้งสิ้นในช่วงถือศีลอดยกเว้นทานตะวันจึงยิ่งทำให้พืชชนิดนี้เป็นที่นิยมในรัสเซียมาก
🌻ความหมายของดอกทานตะวัน
ดอกทานตะวันเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความจงรักภักดีและการชื่นชมบูชา และเนื่องจากการที่เกี่ยวข้องกับพระอาทิตย์จึงเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความสุขด้วย แต่ทั้งนี้ในแต่ละวัฒนธรรมได้ให้ความหมายของทานตะวันแตกต่างกันไปด้วย เช่น
•ในจีน ดอกทานตะวันเป็นสัญลักษณ์ของความอายุยืนยาว พลังชีวิต และโชคดี
• สำหรับชาวอเมริกันพื้นเมืองทานตะวันหมายถึงการเก็บเกี่ยวและเสบียงอาหาร
ดอกทานตะวันไม่ได้มีแค่สีเหลืองเท่านั้น แต่ยังมีสีอื่นอีกด้วย ดอกทานตะวันสีขาวหายากที่สุด (จริง ๆ แล้วเป็นสีออกซีด ๆ) และแต่ละสียังมีความหมายต่างกัน เช่น
• ทานตะวันสีเหลือง หมายถึง ความดีงาม ความจริง ความไม่มีที่สิ้นสุด
• ทานตะวันสีแดง หมายถึง ความแข็งแกร่ง พลังบวก
• ทานตะวันสีส้ม หมายถึง ความกระปรี้กระเปร่า ความสุข และความโชคดี
• ทานตะวันสีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์ การเกิดใหม่ และความสงบสุข
• ทานตะวันสีชมพู หมายถึง ความไร้เดียงสา การมีสุขภาพดี
• ทานตะวันสีม่วง หมายถึง ความร่ำรวย ความรุ่งโรจน์
Photo: Pinterest

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา