“เฮ้ย!!!!!!!…..” เสียงร้องของ กันฑ์ เอกรัตน์ และหมอพีระ ดังออกมาพร้อมกันหลังจากได้ฟังเรื่องราวจากคริสต์ ที่ตอบคำถามถึงสาเหตุ ‘แผลนี้ท่านได้แต่ใดมา’
“น้ำเปล่า...ของแก” หมอพีระที่ดึงแก้วเครื่องดื่มสีอำพัน ออกจากมือคริสต์และยัดแก้วน้ำเปล่าใส่มือนั้นแทน
“ฉันกลุ้มนะโว้ย!!!!” คริสต์ตอบกลับหมอพีระ เมื่อเขาต้องการสิ่งแก้กลุ้ม
“แล้วที่แกต้องมานั่งบ่น ‘กลุ้ม’ ไม่ใช่เพราะไอ้น้ำพวกนี้เหรอ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่ทำให้แกเหมือนคนอยากตายอยู่ตอนนี้” เอกรัตน์สำทับเห็นด้วยกับหมอพีระ
“คริสต์!...แกไม่รู้จริงๆเหรอว่านั้นพ่อของคุณกอหญ้า” กัณฑ์ อดถามไม่ได้ เพราะแปลกใจมากที่คริสต์เข้านอกออกในห้องของกอหญ้าได้ขนาดนั้น จะไม่เห็นรูปพ่อของหญิงสาวเลยเหรอ
“ฉันไม่เคยเจอมาก่อน...รูปถ่ายในห้องกอหญ้า...ฉันก็ไม่เคยสังเกต เพราะส่วนใหญ่มีแต่รูปวาด และเป็นรูปภาพที่วาดคู่กับกอหญ้าตอนเด็กๆ” คริสต์คิดว่าภาพวาดเหล่านั้นกอหญ้าคงวาดเอง และในห้องเธอก็ไม่มีภาพถ่ายของพ่อเธอจริงๆ เพราะเขาไม่เคยเห็นเลย
“ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี...” กัณฑ์พูดต่อด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆ
“ไว้แกเห็นตัวจริง พ่อของกอหญ้า แกคงไม่มีคำถามและเข้าใจฉันแน่นอน” คริสต์พูดจบ ก็หงายหน้าพิงพนักโซฟา ด้วยใบหน้าที่มีความเครียดและความกังวลเต็มสมบูรณ์ในใบหน้านั้นและความรู้สึก
ภาพของคริสต์ ทำให้เพื่อนทั้งสามได้แต่มองเงียบๆ เพราะไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงเหมือนกัน เอกรัตน์ว่าโชคดีแล้วที่เขาไม่ต้องไปใส่กุญแจมือ จับคริสต์ข้อหาทำร้ายร่างกาย ว่าที่พ่อเมียอย่างไม่เป็นทางการ
“แล้วแกจะเอาไงต่อ...” หมอพีระเป็นฝ่ายถาม
“ก็ต้องไปขอโทษพ่อเขาก่อน ... เพราะดูเหมือนพ่อของกอหญ้าน่าจะเป็นคนใจดีมาก และมีเหตุผล เพราะตอนนั้นเขาน่าจะเข้าใจว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ...”
“ฟังแกแบบนี้แล้ว...ฉันว่าพ่อคุณกอหญ้าต้อง ‘สุดยอด’ มาก จนอยากจะเจอและรู้จักเลยว๊ะ” กัณฑ์เป็นฝ่ายเอ่ยออกมา
“แล้วคืนนี้แกจะกลับบ้านมั้ย?...เพราะแกต้องกินยาแก้อักเสบ และควรพักผ่อน ถ้ามีคนคอยดูแลแกด้วยยิ่งดี เพราะแผลต้องอักเสบแน่นอน...” หมอพีระแจ้งต่อคริสต์
คริสต์เอาแต่เงียบ เพราะ ‘คนดูแล’ เขาอยากให้เป็นกอหญ้า แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้... ขืนกลับเข้าไปหาเธอตอนนี้ มีหวังเขาต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบเป็นแน่