25 พ.ค. 2021 เวลา 02:41 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 51
“กัณฑ์...อยู่ไหน?...มาหาฉันที่คอนโดได้ไหมว๊ะ” คริสต์ที่สร่างเมาสนิทยามเย็น โทรหากัณฑ์ โดยทันทีที่สติกลับมาครบร้อยเปอร์เซ็นต์
“ได้...ฉันอยู่แถวนี้พอดี”
“ขอบคุณครับ...” หมอพีระ กล่าวขอบคุณพยาบาลที่ช่วยทำแผลหลังจากที่ตัวเองต้องเย็บรอยแตกที่ศีรษะเพื่อนไปถึงห้าเข็ม
“เอ้าเปลี่ยนซะ...และบอกมาได้สักทีว่า...แผลนี้ท่านได้แต่ใดมา” กัณฑ์ ส่งเสื้อตัวใหม่ให้คริสต์เปลี่ยน หลังจากที่ทำแผลเรียบร้อยแล้ว
คริสต์ใบหน้าที่นิ่งเฉยมาตลอด แม้แต่เวลาที่เย็บแผล เขาปฎิเสธยาชาให้หมอพีระเย็บมันสดๆแบบนั้น แต่ก็ไม่ทำให้คริสต์รู้สึกถึงความเจ็บปวด เพราะคริสต์เอาแต่เงียบ เฉย ตั้งแต่ที่กัณฑ์เข้าไปหาที่คอนโดตามคำขอนั้น ที่กัณฑ์ต้องร้องตกใจออกมา เมื่อภาพของคริสต์ในห้องคอนโดนั่งนิ่งโดยที่เลือดไหลเปรอะเลอะเสื้อมากมาย
“ไปคุยกันที่ร้านของไอ้กัณฑ์ แล้วกัน...แกต้องเข้าเวรต่อมั้ย?” ประโยคหลังคริสต์หันไปถามหมอพีระ ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้า และหันไปสบตากับกัณฑ์ที่แสดงสีหน้าถึงความไม่เข้าใจ
“…ตามนั้น!...เดี๋ยวฉันโทรหา เอกรัตน์ ชวนไปด้วยกันเลย...เพราะวันนี้พวกเราอาจจะพร้อมหน้ากันในรอบหลายเดือน” กัณฑ์เอ่ยออกมา ได้รับการเห็นด้วยจากหมอพีระและคริสต์ ที่เตรียมย้ายขบวนไปสถานบันเทิงของกัณฑ์
“เฮ้ย!!!!!!!…..” เสียงร้องของ กันฑ์ เอกรัตน์ และหมอพีระ ดังออกมาพร้อมกันหลังจากได้ฟังเรื่องราวจากคริสต์ ที่ตอบคำถามถึงสาเหตุ ‘แผลนี้ท่านได้แต่ใดมา’
“น้ำเปล่า...ของแก” หมอพีระที่ดึงแก้วเครื่องดื่มสีอำพัน ออกจากมือคริสต์และยัดแก้วน้ำเปล่าใส่มือนั้นแทน
“ฉันกลุ้มนะโว้ย!!!!” คริสต์ตอบกลับหมอพีระ เมื่อเขาต้องการสิ่งแก้กลุ้ม
“แล้วที่แกต้องมานั่งบ่น ‘กลุ้ม’ ไม่ใช่เพราะไอ้น้ำพวกนี้เหรอ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่ทำให้แกเหมือนคนอยากตายอยู่ตอนนี้” เอกรัตน์สำทับเห็นด้วยกับหมอพีระ
“คริสต์!...แกไม่รู้จริงๆเหรอว่านั้นพ่อของคุณกอหญ้า” กัณฑ์ อดถามไม่ได้ เพราะแปลกใจมากที่คริสต์เข้านอกออกในห้องของกอหญ้าได้ขนาดนั้น จะไม่เห็นรูปพ่อของหญิงสาวเลยเหรอ
“ฉันไม่เคยเจอมาก่อน...รูปถ่ายในห้องกอหญ้า...ฉันก็ไม่เคยสังเกต เพราะส่วนใหญ่มีแต่รูปวาด และเป็นรูปภาพที่วาดคู่กับกอหญ้าตอนเด็กๆ” คริสต์คิดว่าภาพวาดเหล่านั้นกอหญ้าคงวาดเอง และในห้องเธอก็ไม่มีภาพถ่ายของพ่อเธอจริงๆ เพราะเขาไม่เคยเห็นเลย
“ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี...” กัณฑ์พูดต่อด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆ
“ไว้แกเห็นตัวจริง พ่อของกอหญ้า แกคงไม่มีคำถามและเข้าใจฉันแน่นอน” คริสต์พูดจบ ก็หงายหน้าพิงพนักโซฟา ด้วยใบหน้าที่มีความเครียดและความกังวลเต็มสมบูรณ์ในใบหน้านั้นและความรู้สึก
ภาพของคริสต์ ทำให้เพื่อนทั้งสามได้แต่มองเงียบๆ เพราะไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงเหมือนกัน เอกรัตน์ว่าโชคดีแล้วที่เขาไม่ต้องไปใส่กุญแจมือ จับคริสต์ข้อหาทำร้ายร่างกาย ว่าที่พ่อเมียอย่างไม่เป็นทางการ
“แล้วแกจะเอาไงต่อ...” หมอพีระเป็นฝ่ายถาม
“ก็ต้องไปขอโทษพ่อเขาก่อน ... เพราะดูเหมือนพ่อของกอหญ้าน่าจะเป็นคนใจดีมาก และมีเหตุผล เพราะตอนนั้นเขาน่าจะเข้าใจว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ...”
“ฟังแกแบบนี้แล้ว...ฉันว่าพ่อคุณกอหญ้าต้อง ‘สุดยอด’ มาก จนอยากจะเจอและรู้จักเลยว๊ะ” กัณฑ์เป็นฝ่ายเอ่ยออกมา
“แล้วคืนนี้แกจะกลับบ้านมั้ย?...เพราะแกต้องกินยาแก้อักเสบ และควรพักผ่อน ถ้ามีคนคอยดูแลแกด้วยยิ่งดี เพราะแผลต้องอักเสบแน่นอน...” หมอพีระแจ้งต่อคริสต์
คริสต์เอาแต่เงียบ เพราะ ‘คนดูแล’ เขาอยากให้เป็นกอหญ้า แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้... ขืนกลับเข้าไปหาเธอตอนนี้ มีหวังเขาต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบเป็นแน่
‘เช้าตรู่...ณ บ้านคุณหญิงศศิธร’
คุณหญิงศศิธรกำลังเดินลงบันได เพื่อที่จะเตรียมไปตักบาตรเป็นประจำทุกวัน แต่เมื่อเท้าก้าวสู่พื้นชั้นหนึ่ง ดวงตาที่ผ่านโลกมามาก โฟกัสไปยังโซฟาตัวยาวโซนรับแขก เมื่อเธอเห็นสิ่งมีชีวิตที่คุ้นตาทอดยาวอยู่บนนั้น
“คริสต์!!!!...” คุณหญิงศศิธรร้องออกมา มือป้องปาก เมื่อเดินเข้ามาเห็นใบหน้าของบุตรชายที่ซีดเซียวและศีรษะมีผ้าพันไว้ “คริสต์!...ได้ยินแม่มั้ยลูก” คุณหญิงรีบจ้ำเข้าใกล้ลูกชายและเขย่าเรียก คิ้วเรียวที่ได้รับการตกแต่งตามวัย ขมวดเข้าหากันเมื่อฝ่ามือรับรู้ถึงความร้อนของร่างกายลูกชาย
“คุณแม่.....” คริสต์ครางออกมาพร้อมเสียงที่แหบพร่าด้วยพิษไข้ และสายตาพร่ามัวของเขาก็เห็นแม่ที่หลังมืออัง วัดความร้อนที่หน้าผากตนเอง
“คริสต์ลูกไม่สบาย...ลุกไหวมั้ย?...ขึ้นไปนอนที่ห้องเก่าของลูกดีกว่า” คุณหญิงศศิธรเอ่ยกับบุตรชายอย่างใจดี เลือกที่จะข้ามสิ่งที่เธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบุตรชายเพียงคนเดียวของเธอ แต่สนใจอาการของบุตรชายตอนนี้มากกว่า
คุณหญิงศศิธร วางแก้วน้ำที่รับมาจากคริสต์ หลังจากเช็ดตัวป้อนข้าวป้อนยาให้เรียบร้อย บนห้องนอนเก่าของบุตรชายในบ้านของเธอ
“พร้อมจะบอกแม่ได้เหรอยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” คุณหญิงศศิธรเอ่ยถามทันที ที่เห็นว่าบุตรชายดีขึ้นแล้ว...
คริสต์พยักหน้าและบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้เป็นแม่ฟัง.... “ตาย!!!...แล้วววว!!!!!....” คุณหญิงศศิธรร้องออกมาด้วยความตกใจหลังจากฟังเรื่องราวจากลูกจนจบ...
“แม่ครับ!...ช่วยลูกคนนี้ของแม่ด้วยนะครับ...” คุณหญิงศศิธรถอนหายใจและกอดลูกชายที่กอดและอ้อนเธอเหมือนสมัยเด็กๆ ไม่ผิดเพี้ยน
“ตอนนี้คริสต์ต้องรักษาตัวเองให้หายไวๆ...แล้วค่อยว่ากันต่อ...เรื่องหนูกอหญ้ากับพ่อเขาตอนนี้ไม่รู้เป็นไงบ้าง...แม่เป็นห่วงทุกคนไปหมดแล้วตอนนี้” คริสต์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจและเศร้าใจอย่างเป็นที่สุด เขาก็ได้แต่หวังว่าเวลาสองสามวันนี้จะทำให้กอหญ้าใจเย็นลง และยอมคุยและรับคำขอโทษของเขา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา