“เกาะลังกาวีเมื่อสมัยสองร้อยปี ก็ได้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ท่านเจ้าเมืองที่ลือเลื่องในยุคนั้น สั่งประหารเจ้าหญิงมัสสุหรี”
เพลงลูกทุ่งที่ใครหลายคนน่าจะเคยได้ยินได้ฟัง (ถ้าคุณเคยได้ฟังเพลงนี้แสดงว่าคุณไม่เด็กแล้วนะคะ) เนื้อหาเพลงได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหญิงมัสสุหรีถูกใส่ร้าย และถูกจับประหารชีวิต นางจึงได้อธิษฐานว่า หากนางไม่ได้ผิดจริงขอให้เลือดของนางที่ออกมาเป็นสีขาว และสาปแช่งคนบนเกาะ แต่รู้หรือไม่คะว่าเรื่องราวในบทเพลงนั้นเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 200 ปีที่แล้ว หาใช่เรื่องเล่า หรือเป็นแค่บทเพลงที่ถูกแต่งขึ้นเองแต่อย่างใด ดังนั้นเราไปอ่านเรื่องราวความเป็นมาของคำสาปมรณะที่เกาะแห่งนี้กันค่ะ
พระนางมัสสุหรีเป็นลูกพ่อค้าชาวไทยที่ได้ล่องเรือมาตั้งรกรากบนเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ด้วยรูปโฉมที่งดงาม และคุณสมบัติที่เพียบพร้อมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเกาะ เรื่องความงามของนางได้ลือเลื่องไปถึงเจ้าชายวันดารุส พระอนุชาองค์สุลต่านแห่งลังกาวี เมื่อองค์สุลต่านได้มาเห็นจึงเกิดหลงรักและขอนางแต่งงาน
โฉมของพระนางมัสสุหรี
แต่ความรักครั้งนี้กลับไม่ได้สุขสมอย่างที่หวัง เมื่อฝ่ายพระมารดาของสุลต่านไม่เห็นด้วยจึงรังเกียจและดูถูกดูแคลนลูกสะไภ้คนนี้มาก เมื่อถึงวันที่สุลต่านต้องออกไปรบในสงครามไทรบุรี ด้วยความเป็นห่วงท่านจึงสั่งให้ทหารคนสนิทช่วยดูแลพระนางมัสสุรีย์
แต่นั่นกลับเป็นปมที่พระมารดาใช้กล่าวหาว่านางมีชู้ สุลต่านจึงตัดสินประหารชีวิต พระนางมัสสุหรีกับมหาดเล็กคนสนิทในอีก 3 วันข้างหน้า โดยมิได้มีการไต่สวน นางเสียใจมาก และสงสารลูกน้อยที่อายุได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
เมื่อวันประหารมาถึง นางได้อธิษฐาน และกล่าววาจาสาปแช่งว่า “หากเราทำผิดอย่างที่ถูกใส่ร้ายก็ขอให้เราตายไปอย่างไม่มีความสุข แต่ถ้าหากเราเป็นผู้บริสุทธิ์จริงขอให้เลือดที่หลั่งออกมาเป็นสีขาว และขอให้เมืองลังกาวีแห่งนี้มีอันเป็นไป ไม่มีความสุขความเจริญไป 7 ชั่วโคตร”
พระนางมัสสุหรีถูกจับประหารชีวิต
หลังจากนั้นเพชฌฆาตก็นำกริช ซึ่งเป็นกริชประจำตระกูลของนางเองมาแทงที่ไหปลาร้าด้านซ้าย และทันทีที่เพชฌฆาตดึงกริชออกเลือดสีขาวก็พุ่งกระจายออกมาจากร่างของนาง จึงเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกผู้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ว่านางเป็นผู้บริสุทธิ์ สร้างความเศร้าเสียใจให้แก่สุลต่านเป็นอย่างมากจนท่านตัดสินใจพาลูกน้อยล่องเรือหนีมาอยู่ที่ประเทศไทย
และจากวันนั้นเป็นต้นมาเกาะลังกาวีก็ประสบกับความอาเพศ ทั่วทั้งเกาะถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนดั่งคำสาปแช่งของพระนาง ประชาชนทุกข์เข็ญเพราะพืชผลที่เพาะปลูกไม่เจริญเติบโตงอกงามตามที่ควรจะเป็น ทั้งกิจการการค้าก็ไม่เจริญรุ่งเรือง และไม่สามารถล่องเรือออกไปจับปลาได้เพราะท้องทะเลอันตรายเกินไป
ภาพเกาะลังกาวีที่ดินแห้งแล้ง ไม่สามารถเพาะปลูกได้
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เริ่มต้นด้วยความรัก แต่กลับจบลงด้วยความตาย แต่ใช่ว่าเรื่องจะจบลงเพียงเท่านี้นะคะ เพราะเมื่อ 200 ปีผ่านไปทายาทรุ่นที่ 7 ของพระนางมัสสุหรีก็ได้กำเนิดขึ้น บทความหน้าเรามาดูกันค่ะว่าคำสาปมรณะนี้จะสามารถแก้ได้หรือไม่ แล้วชะตาของเกาะลังกาวีจะเป็นอย่างไรต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก
“ลังกาวี” ดินแดนแห่งคำสาป - Chiang Mai News
อัศจรรย์..มัสซูรีลังกาวี แก้บนด้วย...กล้วยน้ำว้า (thairath.co.th)
ตำนาน เกาะต้องคำสาป "นางมัสสุหรี" - ตำนาน อาภรรพ์แห่งเกาะลังกาวี (google.com)
- 22
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
