Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขมานันทะในใจเรา - ชาติพันธุ์ภาวนา
•
ติดตาม
5 มิ.ย. 2021 เวลา 23:00 • ปรัชญา
ดั่งสายน้ำไหล (๒๑)
เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ ท่านเดินสวนทางกับอุปกะชีวก อุปกะชีวกสังเกตเห็นตรงที่ท่านสงบ แจ่มใสดี ก็เข้าไปถามว่า ท่านเป็นใครหนอ ท่านเป็นเทพหรือคน คนอินเดียเชื่อว่าเทวดาสามารถแปลงร่างเป็นคนได้ ท่านเป็นเทวดาหรือ
พระพุทธเจ้าของเราตอบว่าไม่ใช่เทวดา ท่านเป็นมนุษย์หรือ เราไม่ใช่มนุษย์ ท่านเป็นนาคหรือ เราไม่ใช่นาค ท่านเป็นคนธรรพ์หรือ เราไม่ใช่คนธรรพ์ ท่านเป็นครุฑหรือ เราไม่ใช่ครุฑ อุปกะชีวกก็รำคาญ ถามยังไงๆ ก็ตอบว่าไม่ใช่ ท่านเป็นใครตอบซิ พระพุทธเจ้าตอบว่า เราคือพุทธะ พราหมณ์คนนั้นไม่เข้าใจเลยแลบลิ้นหลอก แล้วพูดว่าเชิญเป็นเสียให้พอนะพ่อ
คือไม่เข้าใจอะไรเลย มันติดยึดในรูปกายภายนอก ส่วนพระพุทธเจ้าท่านบอกอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งทุกๆ คนเป็นเหมือนท่าน แต่พราหมณ์คนนั้นไม่เข้าใจ ในที่สุดก็ได้บทเรียนเพราะเป็นครั้งแรกที่ท่านสอน เพราะท่านยังไม่พบผู้ใดเลย ทรงเสด็จจากอุรุเวลาเสนานิคม (ที่พุทธยาเดี๋ยวนี้) เสด็จพระราชดำเนินตรงไปเมืองกาสี คือพาราณสีทุกวันนี้ เพื่อจะไปตีกลองปลุกประชาชน ว่าแท้ที่จริงอะไรคือตัวชีวิต อะไรคือสิ่งประเสริฐ ท่านไม่ได้ตั้งใจไปโปรดปัญจวัคคีย์ บังเอิญพบกันกลางทางเท่านั้น
พระพุทธเจ้าพอรู้เรื่องนี้ก็ตรงไปยังที่แหล่งของภูมิปัญญา เพราะกาสีเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมอินเดีย ศูนย์กลางของพราหมณ์ ศาสนา พิธีกรรมต่างๆ
ดังนั้นพระพุทธเจ้าท่านพูดตรง พูดง่าย ในที่สุดท่านก็เรียนรู้ว่าคนเข้าใจสิ่งนี้ไม่ได้ ท่านจะต้องหาอุบายที่จะสอน จึงแจกแจงเป็นขันธ์ห้า มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ โดยย่อแล้วมีกายกับจิต ถ้าให้เป็นหนึ่งก็หมายความว่าพุทธะสิ่งเดียวเท่านั้น ชีวิตนี่แหละคือพุทธะ
รวบรวมจากคำแนะนำต่อกลุ่มธรรมจาริณี ในรายการภาวนาประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ณ อาศรมศานติ-ไมตรี
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ดั่งสายน้ำไห
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย