5 มิ.ย. 2021 เวลา 03:05 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 65
‘ยามเช้า...วันรุ่งขึ้น’
“ผลั๊ก...” อันโตนิโอ เงยหน้าจากเตาที่แพนเค้กพร้อมทานอย่างสวยงาม
“สวัสดียามเช้าครับ” คริสต์ทักทายอันโตนิโอ เมื่อเดินออกมาจากห้องนอนกอหญ้า
“สวัสดีครับ...มื้อเช้าเป็นแพนเค้กกับกาแฟมั้ยครับ” อันโต ทักทายตอบพร้อมมองคริสต์ในชุดทำงานอย่างเรียบร้อยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงแสลกซ์สีดำ และเน็กไทสีโทนเดียวกับเสื้อ
“ขอบคุณครับ...” คริสต์รับไมตรีนั้น อันโตเตรียมแพนเค้กให้คริสต์ ส่วนคริสต์เดินไปที่เครื่องชงกาแฟสดที่น่าจะเป็นอันโตที่ทำไว้เรียบร้อยแล้ว คริสต์เพียงแค่หยิบแก้วกาแฟรินกาแฟดำที่ควันลอยหอม และเดินมานั่งที่ท๊อปตรงข้ามกับ อันโตที่ยื่นจานแพนเค้กมาให้คริสต์
“ดูเหมือนสองสาวของเรา...ยังไม่มีใครจะลุกออกจากที่นอนนะครับ” คริสต์ยิ้มให้กับประโยคนั้นของอันโต และสายตาของคริสต์ก็จับจ้องที่หน้าอกของอันโต เมื่อมีบางอย่างใต้เสื้อที่คริสต์คล้ายๆว่าจะใช่สิ่งที่เขาคิด
“…ขอโทษนะครับ...จะรังเกียจมั้ยครับ...ถ้าผมจะขอดูล็อคเก็ตที่คุณแขวนอยู่นะครับ...” อันโตก้มมองตามสายตาของคริสต์ และดึงสร้อยคอล็อคเก็ยส่งให้คริสต์ คริสต์รับมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
ดวงตาคมอ่อนแสงลงทันที เมื่อเขาเปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างใน ด้านหนึ่งเป็นนาฬิกาบอกเวลา ส่วนอีกด้านมีภาพของเด็กหญิงตัวเล็กที่เห็นซีกหน้าด้านข้างคล้องแขนรอบคอชายใส่ชุดเชฟ ‘อันโตนิโอ’ กับกอหญ้า
“เด็กผู้หญิงคนนี้คงเป็นกอหญ้า...”
“ครับ!...กอหญ้าชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็กๆ...ตอนแรกผมคิดว่าเธอจะเรียนเอกศิลปะ...แต่กลายเป็นเอกมัณฑนากร”
“ตอนแรกผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ตอนที่เห็นภาพวาดในเล่มของเธอและส่วนใหญ่ในห้องนี้ ล้วนแล้วเป็นภาพวาด...ทำไมถึงไม่มีภาพถ่ายเลยครับ”
“ภาพถ่ายถ้าเป็นภาพกอหญ้า...จะอยู่ที่มิลานครับ ที่บ้านเราที่นั้นจะเต็มไปด้วยภาพถ่ายของกอหญ้าทุกการเจริญเติบโต เมื่อกอหญ้าโตขึ้นมา ที่กำแพงบ้านที่นั้น จะมีกรอบรูปในภาพเดียวกันที่เป็นภาพถ่ายและภาพวาดที่กอหญ้าเริ่มวาดตั้งแต่ภาพแรก...กอหญ้าชอบและเริ่มจากการวาดภาพตัวเองที่เห็นในกรอบรูป และภาพในล็อคเก็ตก็เป็นฝีมือเธอเช่นกัน...และล็อคเก็ตชิ้นนี้ก็เป็นของขวัญครบรอบวันเกิดของเราสองคน...เธอภูมิใจมากกับของขวัญชิ้นนี้ เพราะเธอสั่งทำด้วยรายได้ที่เธอหาเป็นก้อนแรกนะครับ...”
“รายได้ก้อนแรก?...” คริสต์ทำหน้าชวนสงสัย
“ครับ!...ช่วงที่เธอฝึกงานอยู่...มีคนซื้องานออกแบบภายในของเธอนะครับ...กอหญ้าดีใจมากแต่เป็นใครนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน” คริสต์ฟังพร้อมรอยยิ้ม และส่งคืนล็อคเก็ตให้กับอันโต “เออ!...กอหญ้าบอกคุณเหรอยังครับ ว่าผมจะเดินทางกลับมิลานวันอังคารหน้าครับ...”
“ครับ...ว่าแต่วันนี้คุณอันโตต้องไปไหนมั้ยครับ?...”
“คงต้องรอสองสาวนะครับ...ว่าแต่คุณคริสต์มีอะไรหรือเปล่า” อันโต ตอบ พร้อมมองคริสต์ที่เร่งจัดการมื้อเช้า
“ผมไม่อ้อมค้อมเลยนะครับ...คือผมจะขอหมั้นกอหญ้าเป็นการภายใน ก่อนที่คุณจะเดินทางกลับ...ผมจะไปเรียนคุณแม่ให้มาสู่ขอกอหญ้ากับคุณอย่างไม่เป็นทางการก่อนครับ...หลังงานรับปริญญาบัตรของกอหญ้า ตอนนั้นผมจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องนะครับ...เพราะผมรู้สึกว่ากอหญ้าไม่ต้องการให้ผมเร่งรัดเรื่องนี้มากนัก...แต่ผมเคยคุยกับเธอไว้ว่าหลังจากที่คุณอันโตเดินทางกลับ ผมอยากให้เธอย้ายไปอยู่ที่บ้านผมนะครับ...แต่กอหญ้ายังไม่ตอบรับเรื่องนี้เลย”
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่คุณรักและจริงใจกับกอหญ้าลูกสาวของผม...แต่กอหญ้าเธอไม่เคยถูกบังคับ เรื่องการย้ายนั้นคุณคงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป...เพราะผมมักจะบอกเธอเสมอว่าชีวิตเป็นของเธอ เธอมีสิทธิที่จะเป็นผู้กำหนดชีวิตของเธอเอง ผมเคารพในการตัดสินใจของลูกสาวคนนี้ของผมนะครับ...ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกอหญ้าครับ” คริสต์รับฟัง และเขาอยากจะบอกอันโตเหลือเกินว่า กอหญ้าดื้อแสนดื้อ และเขาก็รักเธอคนนั้น กอหญ้าที่ดื้อแสนดื้อ
“…ผมฟังคุณแล้ว...ผมรู้สึกเจองานยาก...”
“แต่ผมไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน...มีแต่คนพิเศษสำหรับกอหญ้าเท่านั้นแหละครับ...ที่เธอจะทำให้คนพิเศษคนนั้นเจองานยาก...” คริสต์ยิ้มกับกำลังใจจากว่าที่พ่อตาที่บอกใครใครจะเชื่อว่าพ่อตาเขา บอกเป็นพี่ชายยังน่าเชื่อกว่า
‘ห้องประธานบริหาร ช่องสถานี...’
“แม่ไม่มีปัญหาหรอกนะ...ดีใจมากเลย...ในที่สุดคริสต์ก็เจอคนที่คริสต์ต้องการจริงๆสักที...”
“ขอบคุณนะครับ...แม่ผมน่ารักที่สุด” คริสต์พูดพร้อมเข้าหอมแก้มและกอดคุณหญิงศศิธรแน่น เขมิกาอดยิ้มไปด้วยไม่ได้
“แหม!...แม่ยังได้รับตำแหน่ง ‘น่ารัก’ ที่สุดของคริสต์อยู่อีกเหรอ?” คุณหญิงศศิธรอดไม่ได้ที่ต้องแซวลูกชายเพียงคนเดียว...
“แน่นอนครับ!...ไม่มีใครน่ารักเท่าคุณแม่อีกแล้ว”
“แล้วหนูกอหญ้าล่ะ...จะให้แม่ไปสู่ขอเขา...เขายังไม่น่ารักที่สุดสำหรับคริสต์เหรอจ๊ะ” คุณหญิงศศิธรเอ่ยล้อเลียนบุตรชายอย่างใจดี
“น่ารักก็น่ารักอยู่เหมือนกันแต่ไม่ที่สุด...เพราะยายเด็กนั้น ดื้อแสนดิื้อ เถียงคำไม่ตกฟาก ร้ายกาจจนผมอยากจะฟาดวันละหลายๆรอบ...เพี้ยะ!...โอ้ย!” คริสต์ที่ยังพูดไม่ทันจบก็ต้องร้องออกมา เมื่อคุณหญิงฟาดมือลงบนท่อนแขนเขา
“…ดูสิ!!!ว่าน้องเขา...ตัวเองรู้บ้างมั้ยว่า ช่างเอาแต่ใจและวางอำนาจมากมายขนาดไหน...”
“คุณแม่กลายเป็นพวกยายเด็กดื้อไปแล้ว...นี้ถ้ารู้เข้า...คงจะกระโดดโลดเต้นเป็นลิงแน่ๆ...” เขมิกากลั้นเสียงหัวเราะต่อไปไม่ไหว ทั้งในเรื่องที่คริสต์กับคุณหญิงศศิธรปฎิบัติต่อกัน และความแข็งแรงด้านภาษาไทยของคริสต์
“พี่ว่าคุณกอหญ้า มาถูกทางมวยถูกคู่กับคุณคริสต์แล้วละคะ...ต้องแบบคุณกอหญ้านี้แหละถึงจะเอาคุณคริสต์อยู่...นี้รู้จักเขาไม่นานก็ให้คุณน้าไปขอแล้ว เธอต้องมีอะไรที่มากกว่าแค่ ดื้อแสนดื้อ แล้วมั้งค่ะ”
“เอ่อ!...เรื่องที่จะให้แม่ไปสู่ขอเธอ กอหญ้ายังไม่ตอบรับมาเลยครับ ผมกะว่าจะมัดมือชกนะครับ...เดี๋ยวคืนนี้เธอคงจะรู้ วันอาทิตย์คุณแม่เตรียมตัวไว้เลย”
“อะไรนะ!!!!” สองเสียงดังออกมาพร้อมกัน คุณหญิงศศิธรกับเขมิกา เอ่ยออกมาพร้อมกันทันทีเมื่อสิ้นเสียงของคริสต์
“คุณแม่อย่าตกใจขนาดนั้นสิครับ...รับรองวันอาทิตย์นี้คุณแม่มีว่าที่ลูกสะใภ้แน่นอน...พี่เขมด้วย วันอาทิตย์ผมจองนะครับ เพราะคงมีแต่พวกเราไม่มีกี่คน นะครับ”
“ว่าแต่คุณคริสต์คาดว่าจะเปิดกล้อง ‘พ่ายกลซาตาน’ ได้ตอนไหนคะ?” เขมิกาเป็นฝ่ายถาม และให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าทางผู้กำกับคันไม้คันมืออยากสร้างละครเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะตอนที่เขมิกาแจ้งไปกับผู้กำกับว่า ทางคุณคริสต์กำลังจะทาบทามนักเขียนตัวจริงมาเล่นเป็นนักแสดงนำฝ่ายหญิงเสียเอง...
“ต้องขอโทษพี่เขมด้วยนะครับที่ผมล่าช้า...ผมยังไม่ได้คุยกับหญ้าเลย...พึ่งจะเคลียกับเธอเรื่องที่ผมไปทำร้ายร่างกายคุณอันโต...แผลที่หางคิ้วผมยังหายไม่สนิทเลย...เพราะถ้าขอร้องเธอคงปฎิเสธแน่นอน...” คำตอบและเหตุผลของคริสต์เรียกสายตาสองคู่ที่จ้องมองคริสต์อย่างเหลือเชื่อ เพราะคุณหญิงศศิธรกับ เขมิกา ไม่เคยเห็นคริสต์ไร้ซึ่งความไม่มั่นใจในทุกเรื่อง แต่ช่วงหลังๆเรื่องของ กอหญ้าที่เป็นจ้าวหัวใจของเขา ดูทำให้คริสต์หมดความมั่นใจในตัวเองไปเยอะเลย
“แล้วมันหมายความว่าอย่างไร?...” คุณหญิงศศิธรเป็นผู้เอ่ยถาม
“มันก็ต้องใช้เล่ห์ ใช้กล บ้างกับกอหญ้า...ก็อย่างที่บอกยายเด็กคนนี้ เรื่องดื้อเธอไม่เป็นรองใคร ต่อปากต่อคำก็เก่งจนต้องให้โล่...”
“ดูพูดเข้า...” คุณหญิงศศิธรเปรยออกมา แต่นั้นเป็นครั้งแรกและกอหญ้าเป็นผู้หญิงคนแรกที่คริสต์เอ่ยถึงและพูดถึงบ่อยๆ จนเธอไม่มีความเคลือบแคลงหลงเหลือสักนิด ‘รัก’ ลูกชายคนเดียวของเธอ รักกอหญ้ามากจนตัวเองไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ...ว่ามันมากขนาดไหน ในเวลาอันสั้นคริสต์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้นกับบุตรชายของเธอ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา