5 มิ.ย. 2021 เวลา 06:31 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 66
‘…วัด...’
กอหญ้าที่กำลังก้มลงกราบพระในโบสถ์โดยที่ข้างกายเป็นอันโตนิโอและกิ๊ก ที่วันนี้ทั้งสามมาทำบุญกันตามปกติ กอหญ้านับถือศาสนาพุทธตามอันโตนิโอที่นับถือศาสนาพุทธมาโดยตลอด
“มีอะไรเหรอ?...” อันโตเอ่ยถามบุตรสาว ที่ขมวดคิ้วเมื่อเปิดไลน์อ่านข้อความเข้า...
“พี่คริสต์...ไลน์มาบอกว่า...คืนนี้จะพาไปฟังเพลง...แต่หญ้าไม่อยากไป...อยากอยู่กับอันโตมากกว่า...”
“ไปเถอะ!...พ่อว่าดีเสียอีก ที่เขาจะไปไหนและเขาคิดถึงหญ้า” กอหญ้าพยักหน้ารับ และตอบ ‘ตกลง’ กลับไป
“ตอนนี้หญ้าเริ่มจะอยากรู้แล้ว...อะไร ทำไม ในตัวของพี่คริสต์ ถึงทำให้อันโตเหมือนจะเอาหญ้าใส่พานถวายเขา...อันโตไม่อยากเลี้ยงดูหญ้าต่อแล้วเหรอคะ?...” อันโตนิโอยิ้มพร้อมกับดึงร่างกอหญ้าเข้ามากอด เพราะเหมือนลูกสาวกำลังจะน้อยใจ กิ๊กเองก็อดยิ้มไปกับภาพความน่ารักของพ่อลูกตรงหน้า ถึงแม้เธอจะเห็นมาโดยตลอดหลายปีมานี้ ถึงจะชินตาแต่ก็อดไม่ได้ที่ต้องยิ้มออกมาทุกครั้งที่ได้เห็น
“น่าจะเป็นพ่อมากกว่ามั้ง...ที่ตอนนี้ลูกสาวพ่อกำลังมี ‘ฮีโร่’ คนใหม่”
“…ซาตาน...น่าจะเหมาะกับพี่คริสต์มากกว่า” คำพูดของกอหญ้าเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของอันโต และ กิ๊ก ที่หันมาสบตากัน
‘…หัวค่ำ ในวันเดียวกัน’
“เรากำลังจะไปที่ไหนคะ?” กอหญ้าเอ่ยถามคริสต์ที่ประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัย...
“วันนี้พี่จะพาหญ้าไปแนะนำและเปิดตัวกับเพื่อนสนิทของพี่ทุกคน...ที่ผับของนายกัณฑ์...”
“ทุกคน!...” กอหญ้าร้องเสียงดังออกมา เธอไม่เคยชอบเลยเวลาที่ตัวเองเป็นจุดสนใจของคนมากมาย...
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น...เพื่อนสนิทของพี่ หญ้าก็เคยเจอมาแล้วทุกคน ถ้าหญ้าได้สังเกตุบ้าง...” ใช่! กอหญ้าเจอเพื่อนสนิทของเขาทุกคน และ ‘ทุกคน’ ของคริสต์ก็มีเพียงสามคนเท่านั้น ที่อยู่เมืองไทยและเป็นคนไทย
“เคยเจอ!...เท่าที่จำได้...ก็คงเป็นผู้กำกับมั้งค่ะ” คริสต์หันไปยิ้ม แน่ล่ะ! กอหญ้าต้องจำนายเอกรัตน์ได้อยู่แล้ว ใครจะคิดว่าตอนนั้นกอหญ้ากล้าแจ้งความเรื่องที่เขา ‘จูบ’ เธอ กอหญ้าแตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เขาได้เจอ เพราะผู้หญิงเหล่านั้นล้วนแล้วแต่อยากได้เขาจนยอมเอาตัวเข้าแลก ก็มีแต่กอหญ้าเท่านั้นที่ทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดเขาออกจากชีวิตเธอ
“ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น...เพื่อนสนิทพี่ที่อยู่เมืองไทยมีแค่สามคน อีกสองคน ตอนนั้นหมอพีระ กับ นายกัณฑ์ก็ไปร่วมงานวันเกิดหญ้าด้วยนะ...”
“หญ้าขอโทษนะคะ...หญ้าจำไม่ได้เพราะตอนนั้นเลือดขึ้นหน้า ‘มาก’ ” คริสต์อยากจะหัวเราะ แต่เขายอมรับว่าหัวเราะไม่ออกเลย ถึงมันจะผ่านมาแล้ว เพราะเหตุการณ์วันนั้น เขาเกือบทำแหวนของตกทอดหาย ซึ่งสำหรับคริสต์แล้ว กอหญ้าไม่มีความผิดอะไรเลย...ถ้าไม่ได้อันโตนิโอ ที่เจ้าของร้านอาหารเคยเป็น ผู้ช่วยของอันโตนิโอมาก่อน เขาก็ไม่รู้ว่าจะได้แหวนคืนมามั้ย เพราะมูลค่าของมันคริสต์ไม่แน่ใจว่ากี่หลักถึงจะตีราคาของแหวนวงนี้ได้ ที่ตอนนี้มันนอนสงบนิ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา ที่คริสต์จะพกติดตัวไว้ตลอด และเขาก็หวังเป็นอย่างมากที่คืนนี้เขาจะสามารถมอบมันให้กับกอหญ้า...
กัณฑ์ที่ออกมายืนรอรับเพื่อนและคนสำคัญที่คริสต์บอกว่าคืนนี้เขาจะพากอหญ้ามาให้ทุกคนรู้จักเป็นทางการ รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของกัณฑ์ที่เห็นรถของเพื่อนเลี้ยวเข้ามา เพราะคริสต์มาถึงเป็นคนสุดท้าย หมอพีระกับเอกรัตน์ มาถึงก่อนหน้าคริสต์ไม่นานนี้
หญิงชายที่เดินเคียงข้างกันมา กอหญ้าวันนี้แต่งตัวด้วยเกาะอกเข้ารูปสีเทาที่เข้าชุดกับกางเกงสีเดียวกับเสื้อ โชว์เรียวขาเล็กยาวในรองเท้าส้นสูง ‘สง่างาม’ คืนนี้กอหญ้าเป็นแบบนั้น พร้อมกับเสื้อคลุมในมือที่เธอถือติดมือมาด้วย
“กอหญ้า...นี้นายกัณฑ์เพื่อนพี่” คริสต์แนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน เมื่อเดินมาถึงกัณฑ์ กอหญ้ายกมือไหว้ตามธรรมเนียมที่ผู้วัยเยาว์กว่าพึงปฎิบัติกับผู้ที่อายุมากกว่า...
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างสมบูรณ์แบบนะครับ...” ประโยคของกัณฑ์ปรากฎรอยยิ้มบนใบหน้าของกอหญ้าและคริสต์ และทั้งสามก็เดินเข้าไปด้านใน
เมื่อเดินเข้าด้านใน เอกรัตน์และหมอพีระ ลุกยืนขึ้นเป็นการให้เกียรติสุภาพสตรีเพียงหนึ่งเดียว เมื่อการแนะนำทำความรู้จักจบลง ทั้งสี่คนก็ลงนั่ง คริสต์เป็นผู้สั่งเครื่องดื่มให้กับกอหญ้าเสียเอง ‘น้ำส้มคั่น’ ทำให้กอหญ้าอดแปลกใจไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร...ซึ่งคริสต์ก็รู้สึกได้ถึงความแปลกใจของกอหญ้า แต่เขามีอะไรพิเศษมากกว่าแค่พาเธอมารู้จักกับเพื่อน และผับแห่งนี้ของกัณฑ์ ไม่มีห้องแบบวีวีไอพี แต่มีการแบ่งแยกที่นั่งบางส่วนเป็นพื้นที่ส่วนตัว และบนเวทีก็ไม่ใช่ลักษณะที่รองรับวัยรุ่นทั่วไป เพราะที่นี่เป็นแนวที่คู่รักมานั่งฟังเพลงเต้นรำกันมากกว่า...หรือเป็นที่รับรองลูกค้าของเหล่าของบริษัทต่างๆ
กอหญ้าปฎิเสธไม่ได้เลยว่าถึงเธอจะเป็นหญิงเพียงคนเดียวที่โต๊ะนี้ แต่เธอกลับสนุกไปกับกลุ่มเพื่อนๆของคริสต์ ที่ต่างอาชีพกันดูไม่น่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันได้ง่ายๆ
“เบื่อมั้ย?...” คริสต์หันมากระซิบที่ใบหูเล็ก
“ไม่ค่ะ...เพื่อนพี่คริสต์น่ารักทุกคนเลย...”
“… ‘น่ารัก’...ไม่ได้นะหญ้า...หญ้าต้องรักพี่คนเดียว”
“หญ้าว่าพี่คริสต์เริ่มเมา เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว...”
“งั้นพี่ว่า...คงต้องไปยืดเส้นยืดสายกันหน่อย...เต้นรำกันนะ” กอหญ้ายิ้มและพยักหน้าตอบรับคำชวนนั้น
คริสต์ที่โอบเอวกอหญ้าไว้ขยับร่างกายไปตามจังหวะเพลงแบบสบาย...
“พี่คริสต์...หญ้าเขิน...ใช้สายตาแบบอื่นมองหญ้าบ้างก็ได้” กอหญ้าไม่รู้จะต้องทำยังไง แค่เพียงสายตาเข้มของคริสต์ที่มองเธอตลอดเวลา ‘หวาน’ มันเต็มไปหมด...
“หญ้า...วันอาทิตย์นี้เราหมั้นกันไว้ก่อนได้มั้ย?” ดวงตาของกอหญ้าที่ขยายกว้างมองใบหน้าของคริสต์ ประโยคน้ำเสียงธรรมดาของเขาแต่ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นผิดจังหวะ
“มันเร็ว...ไปมั้ย?” คริสต์คาดการณ์ของคำตอบไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
“พี่รู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก...เรากลับไปนั่งกันนะ” กอหญ้าพยักหน้าและเธอก็รู้สึกว่าคริสต์ดูแปลกไป เธอไม่ได้ปฎิเสธเขาสักหน่อยแค่บอกว่ามันเร็วไป
“เกิดอะไรขึ้น...คริสต์หน้าแกดูไม่ดีเลยว๊ะ...” หมอพีระถามทันที เมื่อเห็นเพื่อนเดินกลับมานั่งที่เดิม
“เออ! จริงด้วย...คริสต์แกเป็นอะไรว๊ะ?” กอหญ้าเริ่มใจไม่ดี เพราะคริสต์เหงื่อออกมามากกว่าที่จะใช้คำว่า ปกติ
“ปวดหัวแปลกๆ....”
“ขอฉันดูหน่อย!...” หมอพีระพูดพร้อมกับขยับไปใกล้คริสต์ เขาจับชีพจร และมองเข้าไปในดวงตาเข้มที่ส่งสัญญาณบางอย่างออกไป ที่มีเพียงหมอพีระเท่านั้นที่เห็น “...ฉันว่าเราไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่า”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” กอหญ้าที่นั่งอีกข้าง ถามกลับ ‘กังวล’ ชัดเจนมาก
“ผมเคยเตือนคริสต์ไว้นะครับ...ว่าอย่าให้ความเครียดเข้าใกล้...เพราะเนื้องอกอาจเปลี่ยนเป็นเนื้อร้ายนะครับ...” คำพูดของหมอพีระ เรียกความสนใจของทุกคน รวมถึงคริสต์ด้วย ‘เนื้องอก’ เลยเหรอว๊ะไอ้เพื่อนหมอ
“เนื้องอก!!!...” กอหญ้าเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ
“ครับ!...ล่าสุดที่คริสต์ตรวจร่างกายเราพบเนื้องอก แต่ขนาดเล็กมากในสมอง แค่ไม่เครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ มันก็จะสลายไปเอง...ผมกำลังกังวลนะครับว่าที่จู่ๆ คริสต์ปวดหัวขึ้นมา เครียดมากเกินไปมั้ย?...”
“ทำไม? เรื่องสำคัญขนาดนี้พี่คริสต์ไม่บอกกอหญ้าสักคำ...หญ้าขอโทษนะคะที่เป็นสาเหตุให้พี่คริสต์เครียด...พี่คริสต์เลิกเครียดนะคะ...วันอาทิตย์นี้เราสองคนจะหมั้นกันนะคะ...” ดวงตาสี่คู่ของเหล่าบุรุษหันไปมองกอหญ้า แต่มีเพียงหนึ่งคู่ที่หันไปสบตากับเธอตรงๆ
“หญ้าพูดจริงๆนะ...ไม่หลอกให้พี่แค่ดีใจเล่น...หรือแค่หญ้าสนใจแต่อาการป่วยของพี่ แต่แท้จริงแล้วหญ้าไม่อยากหมั้นกับพี่” หมอพีระมองหน้าเพื่อนและคิดในใจ มันช่างคิดได้นะไอ้เพื่อนรัก...
“ขอถามอีกนิดได้มั้ยคะ?...” กอหญ้าเอ่ยหันไปถามหมอพีระ เลี่ยงที่จะตอบคำถามของคริสต์
“ถามผม?...อะไรเหรอครับ”
“คือเรื่องอาการป่วยของพี่คริสต์...คุณหมอพีระมั่นใจได้อย่างไรค่ะ...ว่าเนื้องอกจะไม่เป็นเนื้อร้าย...” สายตาของคริสต์หันไปมองหมอพีระ “เหตุผลดีๆนะโว้ย!” คริสต์คิดในใจ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา