6 มิ.ย. 2021 เวลา 09:59 • นิยาย เรื่องสั้น
Greek Mythology ตอนที่ 16 : คิวปิดและไซคี ความรัก บททดสอบ และจิตวิญญาณ part 2 - โฉมงามผู้เดียวดาย กับสามีผู้ลึกลับ
ก่อนอื่น กราบขออภัยที่ผมหายไปเสียนาน ด้วยมีภาระหน้าที่บางอย่าง วันนี้จะขอกลับมาเล่าในส่วนที่ค้างเอาไว้ นั่นคือเรื่องราวความรักที่ยิ่งใหญ่ของตำนานกรีก
ตอนที่แล้วผมพาทุกท่านไปรู้จักอีรอส หรือคิวปิด กามเทพผู้แผลงศรแห่งรัก บันดาลให้เหล่าผู้คน เหล่าเทพ นางพราย ต่างตกหลุมรักกัน วันนี้จะมาถึงคราวความรักของอีรอสหรือคิวปิดเองบ้าง
แม้ว่าอีรอสจะทำให้ผู้อื่นอยู่ในห้วงอารมณ์รักมาหลายชีวิต ก็มีทั้งสุขนาฏกรรม และโศกนาฏกรรม แก่ผู้ตกเป็นเหยื่อ ดังเช่นอะพอลโล ที่ผมได้เคยเล่าไปแล้ว และซุส กับบรรดาอนุภรรยาของเขา ส่วนใหญ่ก็เป็นฝีมือของอีรอสทั้งสิ้น
Eros stringing his bow, A Roman copy from the Capitoline Museum (2nd Century AD)
แต่เรื่องราวความรักของตัวอีรอสเองนั้น กลับมีหลากรสชาติ หลายอารมณ์ สมแก่ฐานะเทพแห่งความรัก
และสตรีตัวเอกของเรื่องราว ก็มีความงามที่ไม่แพ้ใครในปฐพี แต่นางมาพร้อมหัวใจที่กล้าแกร่ง จิตวิญญาณที่หนักแน่น อันว่าสมกับที่ได้เคียงคู่กับความรักของกามเทพหนุ่มรูปงาม
ขอเปิดม่านเรื่องราวความรักของคิวปิดและไซคี ผู้ที่จะพิสูจน์ให้เราได้ประจักษ์ อันว่า ความรัก (Love) และจิตวิญญาณ (Spirit) จักอยู่เคียงกัน ไม่ว่าด้วยเหตุอันใด
ดังที่ได้สดับมา…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง ตำนานมิทราบนามที่แน่ชัด แต่ที่แน่นอน คือเขามีบุตรสาวอยู่สามคน อันว่างามเลิศกันหมด แต่คนสุดท้อง ถือว่างามยิ่งกว่าพี่สาวทั้งสอง ประหนึ่งเทพธิดามาจุติ ผู้คนต่างพากันมาทั่วสารทิศเพื่อมายลโฉมความงามของนาง
Psyche by Bertel Thorvaldsen (1844)
ใช่แล้ว นางคือ ไซคี (Psyche) นางเอกของเรื่องราวนี้ ความงามของนางนั้นเป็นเลิศ อาจจะเสียยิ่งกว่าอะโฟรไดท์ เทพีแห่งความงาม และกามารมณ์เสียด้วยซ้ำ เพราะนางได้รับการสรรเสริญประหนึ่งเทพีองค์หนึ่ง และวิหารบูชาแด่อะโฟรไดท์ก็ถูกเมินเฉย ปล่อยปะละเลย เต็มไปด้วยหยากไย่ แทนบูชามิมีเลยแม้แต่ของถวาย ไม่มีใครไปเซ่นสรวงบูชานางเลย
Psyche’s honored by the People (1693-1702) by Luca Giordano
เพราะอะไร นั่นเพราะผู้คนต่างพากันไปหาไซคีเท่านั้น ในฐานะความงามบนพื้นปฐพีที่แท้จริง วีนัสรู้สึกเสียหน้าอย่างยิ่ง เทพกัญญาผู้เป็นอมรรตัยและบุคคลาธิษฐานแห่งความงามเช่นนาง พ่ายแพ้แก่มนุษย์คนหนึ่งที่สักวันต้องมีอันเป็นไป ความอิจฉาริษยา และความแค้นบังเกิดแก่วีนัสแล้ว
ในตำนานกรีก เทพีผู้สร้างความเดือดร้อนแก่เหล่ามนุษย์และเทพด้วยกัน รองจากเฮราแล้ว ก็เป็นอะโฟรไดท์นี่แล นางนั้นใช้อำนาจแห่งความรักและตัณหา บันดาลให้ชีวิตของผู้ที่นางไม่ชอบหน้าต้องปั่นป่วนวุ่นวาย
และคราวนี้ก็มาถึงคราวของไซคีแล้ว นางสั่งให้คิวปิด บุตรของนาง ไปแผลงศรใส่ไซคี
“จงใช้ศรของเจ้า ทำให้นังหญิงแพศยานั่นหลุ่มหลงในตัวอะไรที่แสนต่ำช้าและน่าอัปลักษณ์ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานใดๆ จนโงหัวไม่ขึ้น”
คิวปิด รับบัญชามาโดยทันที เขารีบรุดไปยังสถานที่ที่ไซคีพำนักอยู่ เตรียมคันธนูและศรทองยิงใส่นาง แต่ทว่า…เมื่อเขามาใกล้และมองเห็นไซคีชัดขึ้นเรื่อยๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
กามเทพผู้บันดาลให้คนตกหลุมรักกัน กลับกลายเป็นว่าโดนแผลงศรแห่งรักใส่ตัวเสียเอง ความงามของนางนั้นทำให้เขาตะลึง และศรที่เขาตั้งใจจะยิงออกไป กลับหล่นและทิ่มมือของเขาทันที แม้แต่กามเทพ ก็มิอาจต้านทานอำนาจศรของตัวเองได้ เขาตกหลุมรักนางไซคีอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ภารกิจไม่สำเร็จ แต่เขาก็ต้องกลับไปรายงานมารดาให้เป็นไปตามที่นางขอ นั่นคือให้ไปตกหลุมรักสัตว์ประหลาด วีนัสพอใจมาก และตายใจติดว่า จากนี้จะไม่มีมนุษย์ใดมามีความงามเทียบนางได้อีก
มาที่เรื่องของไซคี นางอยู่ในฐานะที่เป็นที่สรรเสริญของเหล่าผู้คน ราวกับว่าเป็นความงามที่เอื้อมไม่ถึง ไม่อยู่ในวิสัยแห่งความรักใคร่ จึงไม่มีใครกล้ามาสู่ขอนาง ในขณะที่พี่สาวทั้งสองมีคู่ครอง ออกเรือนไปเป็นราชินีกันหมดแล้ว
นางได้แต่นั่งเศร้าสอยอยู่ผู้เดียว มิมีผู้ใดจะมารับตัวนางไปเลย ทั้งๆที่นางต้องการแต่เพียงใครสักคนที่จะมารับรักจากนางไปเท่านั้น
ในที่สุด บิดาของนางนั้นก็ได้เดินทางไป ณ วิหารแห่งเดลฟี (Delphi) วิหารแห่งเทพพยากรณ์ อะพอลโล เพื่อถามไถ่ถึงเนื้อคู่ของบุตรสาวคนสุดท้องผู้เดียวดาย
Temple of Delphi
อะพอลโล เทพพยากรณ์ผู้สง่างามนั้นได้รู้มาก่อนแล้ว เพราะคิวปิดได้มาขอให้อะพอลโล ช่วยมอบคำพยากรณ์บางอย่างแก่พระราชา ให้ไซคี มาอยู่ข้างกายเขา
เนื่องด้วยจากคำบัญชาของวีนัส ที่สั่งให้คิวปิดแผลงศรให้ไซคีไปตกหลุมรักสัตว์ประหลาด อะพอลโลจึงให้คำทำนายตามที่คิวปิดบอก ความว่า…
“ให้พาบุตรสาว ไปยังยอดเขาในชุดไว้ทุกข์แต่เพียงลำพัง พรหมลิขิตของนาง ก็คืออมนุษย์ พญางูมีปีกทุรลักษณ์ ที่มีอำนาจพละยิ่งกว่าเทพองค์ใด มันผู้นั้นแล ที่จะมารับนางไปเป็นภรรยา”
พระราชาตื่นตระหนกและหวาดกลัวกับคำทำนายนี้มาก แต่ก็มิอาจขัดบัญชาจากเทพพยากรณ์ได้ เขากลับมาบอกข่าวร้ายแก่บุตรสาว แต่ทว่า นางมิได้แสดงออกถึงสีหน้าแห่งความหวาดกลัวออกมาเลย นางยังคงความกล้าหาญเอาไว้ได้ มิเกรงกลัวต่อโชคชะตาที่แสนโหดร้าย
หากสวรรค์นั้นบันดาลให้นางต้องจบสิ้นเพราะความงามของตัวนาง นางก็จะยอมรับมันแต่โดยดี และแล้ว บิดาของนาง ก็นำนางในชุดไว้ทุกข์ สีดำสนิท พร้อมด้วยขบวนที่แต่งมาในชุดไว้ทุกข์เช่นกัน ไปยังยอดเขา ปล่อยนางไว้บนนั้น และกลับมาในอาการที่เศร้าหมอง ไม่มีใครมีความสุขเลย เพราะทุกคนในเมืองได้แต่ไว้ทุกข์แก่นาง
Psyche’s wedding (Pre-Raphaelite, 1895) by Edward Burne Jones
และในขณะที่ไซคีอยู่บนยอดเขารอคอยผู้ที่จะมารับตัวนาง บนยอดเขาไม่มีอะไรเลย นอกจากความมืดมิด และอากาศที่หนาวเหน็บ นางเนื้อตัวสั่นเทาสะท้านต่อลมหนาว แต่ทันใดนั้น มีลมโชยมาจากทิศตะวันตก พัดพาอากาศที่เบาสบายและอบอุ่นมาที่ตัวนาง ขับไล่ลมหนาวออกไป
ลมนั่น คือเทพเจ้านั่นเอง เซฟิรัส (Sephirus) เทพแห่งลมตะวันตก เซฟิรัสในรูปของลม หอบอุ้มนางขึ้นจากโขดหิน นางล่องลอยอยู่บนฟากฟ้า และลงสู่ทุ่งหญ้าเขียวขจีงาม มีกลิ่นหอมโชยมาจากผืนดินอันอ่อนนุ่ม ณ ที่แห่งนั้น มีคฤหาสน์ใหญ่โตโอ่อ่า แลดูงดงาม ดั่งที่พำนักแห่งทวยเทพ ตั้งอยู่ฝั่งริมแม่น้ำใสสะอาด ช่างเป็นสวรรค์บนดิน
นางได้มายังสถานที่แห่งหนใดกัน ได้แต่สงสัย แต่ก็รวบรวมความกล้า ย่างเท้าเข้าไปในเคหสถานแห่งนั้น
Psyche lifted up by Zephyrus (1800) by Pierre-Paul Prud’hon
ทันทีที่นางย่างเท้าข้ามผ่านธรณีประตู ก็มีเสียงเรียกขานนาง โดยที่ไม่ทราบว่าแหล่งกำเนิดเสียงมาจากที่ใด
“ไม่ต้องตกใจไปใย เราคือข้ารับใช้ของท่าน คฤหาสน์แห่งนี้คือที่พำนักของท่าน”
นางไม่มีทั้งที่จะกลับไปหา และไม่มีที่จะไปต่อ นางจึงตัดสินใจใช้ชีวิตใหม่ ณ คฤหาสน์แห่งนั้น สรงน้ำ รับประทานอาหารที่จัดวางเป็นสำรับบนโต๊ะอยู่แล้วก่อนที่นางจะมาถึงทุกครา นี่คืออำนาจแห่งข้ารับใช้ที่มองไม่เห็น
ระหว่างรับประทานอาหาร ก็มีเสียงเพลงบรรเลงพิณ ประสานกับเสียงขับลำนำช่างไพเราะยิ่งนัก แน่นอน นางมาใช้ชีวิตอยู่ ณ ที่นี่ ประเดี๋ยวนี้ ในฐานะภรรยาของใครสักคนที่นางมิอาจเห็นหน้า
เรื่องนี่พิสูจน์ได้อย่างไร นั่นคือทุกค่ำคืน จะมีชายลึกลับผู้หนึ่งมาอยู่กับนาง เสียงของเขาช่างไพเราะ และอ่อนโยนปานเทพบุตร มิส่อแววถึงอสุรกายแสนน่ากลัวแต่อย่างใด
แต่ทว่า…เขาไม่ยอมเปิดเผยหน้าตาให้นางได้เห็น ด้วยสาเหตุบางอย่างที่เปิดเผยแก่ไซคีไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยต่อทั้งตัวเขาและผู้เป็นเจ้าสาว
ตัวเขานั้น จะมาอยู่กับนางในทุกค่ำคืน มากับความมืดมิดยามราตรี แต่มีเงื่อนไขว่า อย่าได้พยายามถามไถ่หรือค้นหาว่าเขาเป็นใครเป็นอันขาด มิฉะนั้นเขาจะจากนางไปตลอดกาล
Cupid and Psyche by François-Edouard Picot
ไซคีนั้นแม้จะไม่อาจเห็นหน้าของสามีได้ แต่นางก็พึงพอใจและอุ่นใจยิ่ง ที่เพียงแค่สัมผัสได้ว่าคู่ชีวิตของนางไม่ใช่เจ้าอสุรกายร้ายกาจแต่อย่างใด และพึงพอใจกับการมาของเขาในทุกค่ำคืน นั่นทำให้นางไม่ต้องทนอยู่อย่างเปลี่ยวเหงาอีกต่อไป
วันเวลาผ่านเลยไป ไม่อาจรู้ได้ว่านานเท่าใด ไซคีใช้ชีวิตใหม่ ณ ดินแดนปริศนา ในคฤหาสน์อันแสนมหัศจรรย์ กับสามีผู้ลึกลับ นางย่อมขัดเคืองเป็นธรรมดาต่อตัวตนที่เป็นปริศนาของสวามี แต่แม้นั่นจะเป็นชีวิตครึ่งๆกลางๆ นางก็มีความสุขพอแล้วกับชีวิตใหม่ของนางกับคู่รัก
Cupid and Psyche by Jacques-Louis David (1817)
วันหนึ่ง…ไซคีคิดถึงพี่สาวทั้งสอง จึงได้อ้อนวอนต่อสามีในความมืด ให้ได้พบกับพี่สาวทั้งสองอีกครั้ง ณ ที่แห่งนี้
คิวปิด ได้สดับคำขอร้องของภรรยา ก็คาดเดาได้ว่า ผู้เป็นพี่สาว จะต้องยุยงให้น้องสาวคนเล็ก เคลือบแคลงสงสัยในตัวของเขา และเขาจะไม่มีวันได้มาอยู่เคียงข้างนางอีก
แน่นอนเขาได้ทักท้วงไป แต่ผู้เป็นภรรยาก็ยังอ้อนวอนคำเดิม เขาจึงจำต้องทำตามคำขอของนาง แน่นอนเขาขอให้นางสัญญาว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้รักษาสัญญาที่นางมีต่อเขา ว่าจะไม่ถามถึงตัวตนของเขาเป็นอันขาด
วันรุ่งขึ้น ลมตะวันตกที่เคยพัดพาไซคีมายังที่แห่งนี้ ก็ได้นำพาพี่สาวทั้งสองมาหาไซคี จากยอดเขาเดียวกับที่ไซคีเคยเฝ้ารอผู้มารับตัวไป
ทันทีที่พี่สาวทั้งสองพบน้องสาวผู้จากไปเสียนาน ก็พลันโอบกอดกันด้วยอาการคิดถึง และพากันไปสู่คฤหาสน์ที่พำนักของไซคี ทันทีที่เข้าไป สองพี่สาวก็ตกตะลึงกับความสวยงามโอ่อ่าของคฤหาสน์ ทรัพย์สินของพวกนางในฐานะราชินี มิอาจเทียบได้เลยกับคฤหาสน์แห่งนี้
จิตริษยาได้เข้าครอบงำพี่สาวทั้งสองเข้าเสียแล้ว เหมือนดั่งทุรโยธน์ที่อดไม่ได้ที่อยากจะครอบครองปราสาทพระราชวังแห่งกรุงอินทรปรัสถ์ของเหล่าพี่น้องปาณฑพ
ทั้งคู่จึงคิดจะแย่งชิงสมบัตินี้มาเป็นของตัว และทำลายชีวิตของไซคีผู้เป็นน้องสาวให้ย่อยยับ ด้วยจิตริษยาความงามของน้องสาวที่ติดตัวมาแต่ก่อนแล้ว จึงได้ยุยงให้ไซคี เคลือบแคลงสงสัยในตัวสามี ผู้ไม่ยอมปรากฎให้นางได้เห็นหน้า หากไม่ใช่อสุรกายงูยักษ์ ใยเล่าต้องหลบหน้านาง เขามาพร้อมกับราตรีกาล และหายไปกับการมาของแสงแรกแห่งวัน
Psyche showing her Jewelry to her sisters (1815-1816) grisaille wallpaper by Merry-Joseph Blondel
แน่นอนมันได้ผล ตอนนี้ไซคีเริ่มอยากจะรู้แล้วว่าสามีนางใช่อสุรกายอย่างที่ร่ำลือกันหรือไม่ พี่สาวไม่หยุดแค่นั้น ยังยุแหย่ให้นางพกมีดติดตัวไว้ตอนนอน แล้วรอให้เขามาหานางในตอนกลางคืน รอจังหวะเขาหลับไหล ใช้ตะเกียงส่องดูใบหน้าของเขา แล้วจัดการปลิดชีพเขาเสีย
จากนั้นพี่สาวผู้มีจิตริษยาก็กลับไปพร้อมกับลมสายเดิม ไซคี แม้จะไม่มีเจตนาจะฆ่าสามีผู้ลึกลับ แต่ความเคลือบแคลงสงสัยก็ชักนำให้นางใคร่จะรู้ ว่าใบหน้าของชายผู้มาหานางในทุกค่ำคืน นั้นเป็นใครกันแน่
ในคืนนั้น เขามาหานางตามปกติ แล้วหลับไหลลงไป นางรอจังหวะนั้นอยู่ จุดตะเกียงแล้วส่องดูใบหน้าที่แท้จริงของเขา และแล้ว แสงเทียนก็กระทบกายของชายหนุ่มผู้หลับไหล นางตกตะลึงยิ่งกว่าสิ่งใด นี่มันเกินกว่าที่นางได้จินตนาการวาดฝันเอาไว้เสียอีก
Psyche use of the lamp to see Eros
ไม่ใช่อสุรกายงูหลายหัว ตรงกันข้าม ผู้ที่นางเห็นอยู่ตรงหน้า คือชายหนุ่มที่รูปงามเกินใคร แผ่นหลังของเขามีปีกสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์และงดงาม ร่างกายที่อ้อนแอ้นอรชรสมส่วน นางทราบได้ทันที ว่าเขาคือใคร
1
เขาคือคิวปิด กามเทพผู้แผลงศรแห่งรัก บัดนั้น นางได้แต่จ้องมองเขาด้วยอาการหลงไหลนาวกับตกอยู่ในภวังค์ ไหนเลยงูร้าย มีแต่เทพบุตรผู้แสนบริสุทธิ์ นางหลงไหลในตัวเขา จ้องมองเขาอยู่นาน จนเผลอทำหยดน้ำตาเทียนตกใส่ตัวเขา
คิวปิดสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา มองเห็นแสงไฟจากตะเกียง อยู่ในมือของหญิงสาวผู้อยู่ข้างกายเขา เขาตระหนักได้ สัญญาที่นางให้ต่อเขาขาดสะบั้นลงแล้ว นางไม่เชื่อใจเขาอีกแล้ว ด้วยสาเหตุใดเขาก็ทราบดี นางถูกยุยง แต่เขาก็โกรธนางมาก และลุกจากเตียงเตรียมตัวจะจากนางไป
คิวปิดกำลังสยายปีกและกระโจนออกไปทางหน้าต่าง ไซคีผู้ทำผิดพลาดไปพยายามอ้อนวอนให้เขาอภัยแก่นาง และอย่าทอดทิ้งนางไป
คิวปิดหันกลับไปหานาง กล่าวว่า
“ในนามของกามเทพ เทพแห่งความรัก ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ในที่ไร้ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจ ข้าปกปิดตัวตนของเจ้าเพราะข้ารักเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด มิอาจให้เจ้าถูกใครมาย่ำกรายได้ ข้ามาหาเจ้าในทุกค่ำคืนเพราะอยากให้เจ้าได้มั่นใจ ว่าข้ามีตัวตนอยู่จริงและมิใช่ตัวอัปลักษณ์ใดๆ แต่มาวันนี้เจ้าไม่รักษาสัญญาที่เรามีให้กัน ข้าจำเป็นต้องจากเจ้าไปและไม่มาเจอหน้าเจ้าอีกแล้ว ข้าเสียใจ ยอดรัก แต่เจ้าผิดสัญญา”
เขาจากนางไปแล้ว ไม่มีวันหวนกลับมา ไซคีเสียใจยิ่ง ที่เผลอทำลายความไว้ใจระหว่างเขาและเธอ นางทรุดตัวลง น้ำตานองหน้า ร้องให้จนไม่มีน้ำตา และสลบไป
ยามรุ่งสาง นางตื่นขึ้นมา ณ ที่เดิมที่นางมารอใครบางคน ยอดเขาแห่งเดิมที่ผู้คนมาส่งนางด้วยความเศร้าโศก แน่นอนนี่คือบทลงโทษของนาง คฤหาสน์หายไป ไปพร้อมกับตัวเขา กลับมาที่เดิม มาสู่จุดเริ่มต้น ไม่เหลืออะไรอีก
แต่คราวนี้ นางจะไม่ร้องให้อีกต่อไป นางได้ตั้งปณิธานเอาไว้ด้วยจิตวิญญาณที่หนักแน่น
“ข้าคือหญิงผู้ต่ำช้า บังอาจทำลายความรัก ย่ำยีหัวใจของเทพแห่งความรักจนไม่เหลือชิ้นดี แต่ก็เอาเถิด หากเขาคิดจะจากข้าไปตลอดกาล ข้าก็จะใช้เวลาทั้งชีวิตตามหาเขาเช่นกัน แม้นความรักที่เขามีให้ข้าจะไม่เหลือแล้ว แต่ข้าก็จะไปพบเขา และพิสูจน์ให้เขาเห็นถึงความรักที่ข้ามี มิจางหายไปไหนเลย”
ว่าแล้ว นางก็เริ่มออกเดินทางตามหาเขา แม้นไม่รู้ว่าเขาไปอยู่แห่งหนใด เขาจะเฝ้ามองนางมาจากที่ใดหรือไม่ แต่สิ่งที่นางรู้ คือนางจะไม่มีวันล้มเลิกการตามหาความรักที่หล่นหายไป
ขอพักเรื่องราวของคิวปิดและไซคีไว้ตรงนี้ก่อน คราวหน้าจะกลับมาเล่าอีกครั้ง (นี่ผ่านมาแค่ครึ่งทางเท่านั้น) กับบทพิสูจน์ความรักที่แท้จริงของไซคี ว่าจิตวิญญาณของนาง หนักแน่นคู่ควรกับความรักที่แท้หรือไม่
นี่อาจจะเป็นเรื่องราวความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของตำนานกรีกเลยก็ว่าได้ ไว้มาต่อกันในคราวหน้า สวัสดีครับ
Viva La Vida
@Krishna

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา