19 มิ.ย. 2021 เวลา 11:32 • นิยาย เรื่องสั้น
Greek Mythology ตอนที่ 17 : คิวปิดและไซคี ความรัก บททดสอบ และจิตวิญญาณ part 2 - บทพิสูจน์แห่งความรัก
สวัสดีครับ กลับมาต่อกับครึ่งหลังของเรื่องราวแห่งความรักอันยิ่งใหญ่กันดีกว่า
ไซคี จะกลับมาเคียงคู่กับคิวปิดผู้ร่ำลาจากเธอไปแสนไกลได้หรือไม่ และเธอจะต้องเจอกับบททดสอบอะไรบ้าง ขอเปิดฉากครึ่งหลังของเรื่องราว ณ บัดนี้
ความเดินตอนที่แล้ว ไซคีได้กลับมาที่จุดเดิม ณ ที่เธอมารอผู้เป็นสวามีผู้ลึกลับให้มาพาตัวเธอไป บัดนี้เขาจากเธอไปแล้ว เธอทำผิดต่อเขาใหญ่หลวง ดังประโยคสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ให้แก่เธอ
"ความรักไม่อาจอยู่ได้โดยปราศจากความไว้เนื้อเชื่อใจ ลาก่อน"
แม้นไซคีจะคร่ำครวญสักเพียงใด แต่ในที่สุด เธอก็กอบเก็บจิตวิญญาณที่แหลกสลายขึ้นมาใหม่ ตั้งปณิธานอันสลักลงไปในจิตวิญญาณว่าจะตามหาเขา ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาชีวิตก็ตามแต่ เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้ที่มีต่อเขานั้น ยังไม่เสื่อมคลาย
เธอระหกระเหเร่ร่อนไปที่ไกลแสนไกล ไม่ว่าจะไปยังที่ใด ก็ไม่มีใครหรือสิ่งใดที่เป็นเบาะแสไปถึงคิวปิดเลย แน่ละ ไม่มีใครอยากมีปัญหากับวีนัส เทพกัญญาผู้มีเพลิงริษยาเป็นตัวนำ
ระหว่างทาง นางได้พบกับแพน เทพแห่งป่าเขาและธรรมชาติ ผู้มีครึ่งล่างเป็นแพะ ณ ริมฝั่งแม่น้ำ เขาได้รับฟังเรื่องราวอันแสนเศร้าของไซคี และปลอบโยนนางให้มีความกล้าลุกขึ้นมาสู้กับโชคชะตาอีกครั้ง ให้นางเชื่อมั่นว่า ความรักที่นางมีต่อคิวปิด จะต้องส่งไปถึงเขาแน่ ขอให้เดินทางต่อไป
Pan and Psyche - by Johann Erdmann Hummel 1790-1800
ในขณะเดียวกัน พี่สาวทั้งสองที่ยั่วยุไซคีให้กระทำการอันทำให้ไซคีต้องร่ำลาจากคิวปิดตลอดกาล ก็รอจังหวะอยู่แล้ว ที่จะเขาไปเสียบแทนไซคี พวกนางไปยังยอดเขา ณ ที่นั้น เพื่อว่าจะมีลมตะวันตกมารับพวกนางไปภรรยาของคิวปิด
แต่อนิจจา...ขณะที่พวกนางกระโจนลงจากยอดเขาเพื่อให้ลมมาหแบพวกนาง ไม่มีลมจากทิศใดมาทั้งสิ้น คิวปิดยังมั่นคงในรักแท้เช่นเดิม กลายเป็นว่า พี่สาวทั้งสองก็ตกเขาเสียชีวิตทันที
ไซคีเร่ร่อนไปแทบทุกที่ จนได้มาถึงวิหารแห่งดีมีเทอร์ เทพีแห่งพืชพรรณธัญญาหาร นางได้เข้าไปสักการะและจัดการทำความสะอาดวิหารที่รกให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ดีมีเทอร์มาพบเข้า ก็กล่าวเชิดชูและขอบคุณไซคี นางรู้ดี ว่าไซคีกำลังแสวงหาอะไร จึงแนะนำให้ไซคีไปพบเทพีวีนัส มารดาแห่งคิวปิด เพื่อขอความเมตตา และพิสูจน์หัวใจ
ไซคีกล่าวขอบคุณแล้วก็จากไป นางก็เดินทางต่อ และได้มาถึง ณ มหาวิหารอันเป็นที่พำนักแห่งวีนัส เทพกัญญาแห่งความงาม เมื่อเธอไปถึง วีนัสก็ได้มารออยู่ก่อนแล้ว ไซคีได้คุกเข่าและอ้อนวอนขอความเมตตา
วีนัสด้วยอาการโกรธและริษยา ก็เริ่มจากการกล่าวตำหนิและดูแคลนเหยียบหยาบไซคีต่างๆ นานา
"กำลังมาอ้อนวอนหาสามีใหม่หรือสามีเก่าของเจ้าคงไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีกแล้ว เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะนังแพศยาเช่นเจ้าไงล่ะ เจ้าทำให้เขาใจสลายจนต้องซมซานกลับมาหาข้า บัดนี้เขาคงไม่สนใจเจ้าอีกแล้วล่ะ"
Anthony van Dyck (1599-1641) - Cupid and Psyche
ไซคีมิได้เงยหน้าขึ้นมาตอบโต้คำดุถูกนั่น นางตอบกลับด้วยประโยคสั้นๆ
"ข้ามาเพื่อพิสูจน์รักแท้ของข้า ต่อหน้าเทพีแห่งความรักเช่นท่าน"
วีนัสได้ยินดังนั้น ก็เริ่มอยากทดสอบนาง ด้วยภารกิจแสนหฤโหด
ภารกิจแรก...วีนัสให้ไซคีคัดแยกเมล็ดนานาชนิดออกจากกัน จากเมล็ดพืชที่กองปนกันเป็นภูเขา "คัดแยกให้เสร็จก่อนค่ำล่ะ หากทำไม่ได้ ถือว่าสัจจะของเจ้านั้นเหลวไหล แล้วกลับไปหาสามีใหม่เสีย"
ไซคีแสนสิ้นหวัง เธอจะคัดแยกเมล็ดพืชกองพะเนินให้เสร็จก่อนตะวันตกดินได้อย่างไรกัน แต่ทว่า กลับมีผู้เมตตานาง ไม่ใช่ปวงเทพ แต่เป็นสัตว์น้อย อย่างมด
พวกมันมากันเป็นฝูงใหญ่จำนวนมหาศาล ต่างสงสารไซคี และมาช่วยสงเคราะห์นางโดยพากันคัดแยกเมล็ดพืชทั้งหลายให้กองเป็นระเบียบเรียบร้อย เสร็จทันเวลาก่อนสนธยายาม
Venus and Psyche
เมื่อวีนัสกลับมา ก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพบว่างานของไซคีเสร็จลุล่วงแล้ว นางโกรธมาก ที่ไม่เป็นไปดังที่คิด คืนนั้น วีนัสให้ไซคีรับประทานเพียงขนมปังก้อนเดียว และให้นอนกับพื้นดิน ด้วยคาดไว้ว่า หากให้ไซคีอยู่อย่างอดๆอยากๆ และทำงานหนักๆต่อไปเรื่อยๆ ความงามของนางก็จะต้องมัวหมองลงแน่แท้
วันต่อมา ภารกิจที่สอง...คราวนี้สาหัสกว่าเมื่อวาน วีนัสสั่งให้ไซคีไปนำขนแกะทองคำที่พาดไว้กับพุ่มไม้ริมตลิ่ง ที่แกะขนทองคำสลีดขนออก แกะเหล่านั้นดุมาก และมักใช้เขาของมันทิ่มแทงผู้ที่ผ่านมาแถวนั้น
Psyche on the order of Venus departing to find the golden fleece, from the Story of Cupid and Psyche as told by Apuleius (1530–60)
วีนัสว่าแล้วก็จากไป ไซคีที่ยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอีกฝั่งหนึ่งก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างแรง อยากจะกระโจนลงไปในลำธาร จะได้จบความทรมาณเสียที
แต่มันใดนั้น ก็มีเสียงเพรียกหานาง
"อย่าทำอะไรปลิ้นปล้อนเช่นนั้น อะไรๆไม่ได้เลวร้ายไปหมดดอก อย่าทิ้งโอกาสเดียวที่เจ้าได้รับมาอย่างไร้ความหมาย
"ฟังนะ ฝูงแกะนั้นดุมากก็จริง แต่ถ้าหากเจ้ารอจนกว่าเหล่าแกะทั้งหลายออกมาจากพุ่มไม้ตอนเย็นเพื่ออกไปพักผ่อน จงข้ามลำธารนี้ อล้วไปหยิบขนแกะที่พาดอยู่ตามพุ่มไม้เสีย"
เสียงแห่งเทพประจำลำธารกล่าวจบ ไซคีก็ดีใจมาก นางรอจังหวะ และไปหยิบขนแกะทองคำได้จำนวนมากจากในพุ่มไม้ได้สำเร็จ และกลับไปหาวีนัสทันที
วีนัสเมื่อเห็นขนแกะทองคำที่ไซคีหอบกลับมาจำนวนมาก ก็รู้ได้ทันทีว่า นางไม่ได้ทำด้วยตัวคนเดียว
"มีคนช่วยเหลือเจ้า คนอย่างเจ้าไม่มีทางทำได้แน่ๆ แต่เอาเถอะ ดูซิว่าคราวนี้โชคจะอยู่ข้างเจ้าหรือไม่"
ภารกิจที่ 3...วีนัสสั่งให้ไซคีไปนำบางอย่างที่ยากเย็นยิ่งกว่าเดิม
"เห็นแม่น้ำสีดำๆ นั่นไหม นั่นคือแม่น้ำสติกซ์ (Styx) มันไหลลงสู่ปรโลก อันว่าไม่มีใครอยากย่างกรายไป ณ ริมฝั่งของมัน ไปตักน้ำใส่ขวดนี่ซะ"
คราวนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้ ที่จะลุล่วง ริมฝั่งแม่น้ำสติกซ์ถูกขวางด้วยโขดหินที่สูงใหญ่และดินโคลน แต่ผู้อ่านทุกท่านก็คงจะคาดการณ์ไว้แล้ว จะต้องมีใครมาช่วยนางอีกแน่ๆ
ใช่แล้ว คราวนี้มีนกอินทรีมาจิกชวดแก้วจากนางบินโฉบไปตักน้ำในแม่น้ำ แล้วกลับมาหานางด้วยขวดแก้วที่บรรจุน้ำที่ดำเอาไว้ และกลับไปหาวีนัสด้วยขวดน้ำบรรจุน้ำแห่งสติกวืเอาไว้
Eagle Bringing cup to Psyche – Benjamin West
แต่...วีนัสไม่ยอมเลิกรา คราวนี้นางมอบภารกิจสุดท้ายแก่ไซคี นี่เป็นยิ่งกว่าครั้งใดๆ คือนางต้องลงไปยมโลก แล้วนำหีบไปให้เพอร์โซพิน่า (Persephone) ราชินีแห่งยมโลก แบ่งความงามบรรจุลงในหีบใบนี้ แล้วนำกลับมาให้วีนัส
คราวนี้ ระหว่างไซคีได้พบกับหอคอยที่อยู่ ณ ปากทางเข้าสู่ยมโลก หอคอยได้บอกวิธีไปยมโลกแก่ไซคี
"เข้าไปในโพรงใหญ่ แล้วเดินลงไปเรื่อยๆ เจ้าจะพบกับคนแจวเรือ ชารอน (Charon) เจ้าต้องจ่ายเหรียญเงินแก่เขาเป็นค่าข้ามฟาก แล้วเขาจะพาเจ้าข้ามฟาก แล้วก็เดินต่อไปตามถนนที่แสนเปลี่ยวเปล่า จนมาถึงหน้าประตูวังแห่งยมโลก หน้าประตู จะมีสุนัขสามหัวยักษ์ มันคือเซอร์เบรัส (Cerberus) ผู้เฝ้าประตูนรก มันจะไม่ยอมให้เจ้าผ่านไปแน่ แต่หากเจ้าให้เค้กมันสักชิ้น มันก็จะยอมปล่อยให้เจ้าผ่านเข้าไปได้ แล้วเจ้าก็จะไปถึงที่หมาย เทพีแห่งยมโลกอยู่ที่นั่น"
Psyché aux enfers (1865) by Eugène Ernest Hillemacher: Charon rows Psyche past a dead man in the water and the old weavers on shore
ไซคีปฏิบัติตามนั้นทุกขั้นตอนอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง และแล้ว นางก็ได้มาถึงที่หมาย นางมาอยู่ต่อหน้าเพอร์โซพิน่า เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ ผู้จะจากโลกไปเป็นเวลาหนึ่งในสามของรอบปี อันว่าเป็นช่งเวลาที่ความอบอุ่นบนพื้นพิภพจะลาจากโลกไปพร้อมกับนาง บัดนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นฤดูหนาว
Charles-Joseph Natoire: Psyche Obtaining the Elixir of Beauty from Proserpine
ไซคีได้ยื่นหีบแก่เพอร์โซพิน่า และกล่าวถึงสิ่งที่ต้องการขอประทานจากนาง เพอร์โซพิน่าได้ยินดังนั้นก็จัดการมอบสิ่งนั้นใส่หีบและส่งคืนแก่ไซคี โดยกำชับว่าห้ามเปิดออกเด็ดขาด พร้อมทั้งอวยพรให้นางได้พบกับรักแท้อีกครั้ง
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ไซคีก็กล่าวลาและกลับออกไปยังโลกมนุษย์
Psyche returns from the Underworld
แต่ระหว่างทาง ไซคีก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที ความงามของเทพีจะเป็นเช่นไร นางจะสวยขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ นางอยากไปพบหน้าสามีนางด้วยความสวยที่มากกว่านี้ เพราะบัดนี้นางแสนทรุดโทรมจากภารกิจที่ได้รับมา
อาการเช่นนี้คล้ายกับแพนโดร่า (Pandora) มนุษย์ผู้หญิงคนแรกของโลก ยามเปิดหีบไพธอส (Pithos) ซึ่งมีผลลัพธ์ที่แสนเลวร้ายตามมา
Pandora by John William Waterhouse
ไซคีอดใจไม่ไหว แอบเปิดหีบนั่น หวังว่าจะมีละอองแห่งความงามพวยพุ่งออกมา แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งที่ออกมา คือควันสีขาวแห่งการหลับไหล ไซคีก็หมดสติไปในทันที
Psyche Opening the Golden Box (1903) by John William Waterhouse
ใช่แล้ว นี่เป็นแผนของวีนัสแต่แรก ให้ไซคีต้องล้มเหลวด้วยความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง
บัดนี้ คิวปิดทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว เขาทนไม่ได้ที่ต้องเห็นไซคีทรุดโทรมไปมากกว่านี้ เขาละทิ้งอัตตาที่ปิดประตูแห่งหัวใจของเขาไป แล้วกระโจนออกทางหน้าต่าง ไปหาไซคีทันที
Anthony van Dyck (1599-1641) - Cupid and Psyche
และแล้ว เขาก็พบไซคีนอนหลับไหลอยู่ระหว่างทาง และได้ทำการถอนมนตร์แห่งนิทราออกจากไซคีแล้วเก็บใส่หีบกลับจนหมด และใช้ศรแห่งรักของเขา แทงใส่ไซคี เพื่อให้นางตื่นขึ้น
Cupid and Psyche, by John Hoppner
ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ก็คล้ายกับการที่กามเทพทางฝั่งฮินดู แผลงศรดอกไม้ใส่พระศิวะ เพื่อให้ทรงตื่นจากการบำเพ็ญตบะ เพื่อให้มารับรักจากพระแม่ปารวตี ไว้ผมจะมาเล่าเรื่องของกามเทพทางฝั่งฮินดูอีกทีนะครับ
The Legend of Kamadeva and Lord Shiva on Holi
ไซคี เมื่อได้สติ ก็ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งที่นางพบเห็นเป็นสิ่งแรก ก็คือคิวปิด ผู้เป็นจุดหมายของการเดินทางของนาง
คิวปิดกล่าวตำหนิไซคีเล็กน้อย
"ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เจ้าเกือบสูญเสียสิ่งสำคัญของเจ้าไปถึงสองครา แต่ทว่า...เจ้าก็ได้พิสูจน์ให้ข้าเห็น จิตวิญญาณอันแสนกล้าแกร่งของเจ้า ความรักที่เจ้ามีต่อข้า ช่างยิ่งใหญ่นัก ข้าให้อภัยเจ้าแล้ว มาเถิดมาอยู่ข้างกายข้าอีกครั้ง ไซคี"
Cupid and Psyche by Benjamin West PRA
ไซคีน้ำตานองหน้าด้วยความปีติยินดี สวดกอดคิวปิดเอาไว้แนบแน่น จากนั้น ทั้งคู่ก็โบยบินขึ้นสู่โอลิมปัส ที่พำนักแห่งทวยเทพ คิวปิดไปพบหน้าซุส ราชาแห่งเทพ เพื่อให้จัดงานแต่งงานอย่างถูกต้องระหว่างเขาและไซคีอีกครั้ง
The abduction of Psyche by William-Adolphe Bouguereau
ซุสตอบตกลงในทันที แม้ว่าคิวปิดจะเคยทำให้ซุสต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องรักๆใคร่ๆมาหลายครั้ง ซุสได้เรียกเหล่าเทพทั้งหมดให้มารวมตัวกัน เพื่อประกาศข่าวดี บัดนี้ ไซคีจะได้ดำรงอยู่ในฐานะเทพ เป็นเทพีแห่งจิตวิญญาณ (Spirit) และจะได้ครองคู่กับคิวปิด เทพแห่งคาวมรัก ตลอดไป
และแล้ว ซุสก็ได้ประทานอาหารทิพย์ หรือแอมโบรเซีย (Ambrosia) และน้ำอมฤต (Elixir) ให้ไซคีเสวย เพื่อแปรสภาพจากมนุษย์ไปสู่เทพเจ้าโดยสมบูรณ์ ให้จิตวิญญาณที่ห้าวหาญ ได้เคียงคู่กับความรักที่บริสุทธิ์อย่างเท่าเทียมกัน
The Marriage of Cupid and Psyche ca. 1540 Andrea Schiavone (Andrea Meldola)
แน่นอน คราวนี้วีนัสไม่สามารถคัดค้านได้ แต่บัดนี้ นางหายโกรธไซคีแล้ว เพราะไซคีได้แสดงให้วีนัสเห็นถึงจิตวิญญาณที่หนักแน่นและความรักที่ยิ่งใหญ่ และไซคีก็คงจะไม่ได้อยู่ในวิสัยแห่งโลกมนุษย์อีกต่อไป ผู้คนก็จะกลับมาบูชาวีนัสในฐานะเทพีแห่งความงามเพียงผู้เดียวเช่นเดิม
เรื่องราวของคิวปิดและไซคี ก็จบลงอย่างมีความสุข ณ ตรงนี้
เรื่องราวนี้ ไม่ได้พรรณาถึงความยิ่งใหญ่ของความรักที่แสนบริสุทธิ์ และจิตวิญญาณที่แสนทรนงอันทำให้ฝ่าฟันอุปสรรคทุกประการได้เพียงเท่านั้น แต่สอนเราในเรื่องของชีวิตคู่เช่นกัน หากคนสองคน ไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ก็ยากที่ความสัมพันธ์จะดำรงอยู่ต่อไปได้ และคงยากที่จะเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม เพราะความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่ใช่สมอง ผมเชื่อว่า หากทุกคนมีความรักและจิตวิญญาณที่สอดคล้องกัน ชีวิตคู่ก็จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่แสนล้ำค่าของชีวิตเป็นแน่แท้
แน่นอนที่สุด บทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ของความรักได้ประจักษ์ให้เห็นดังเรื่องราวที่เพิ่งจบไปเมื่อครู่ ความรัก (คิวปิด) และจิตวิญญาณ (ความหมายของคำว่าไซคี) ต่างแสวงหาซึ่งกันและกัน ผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆนานาชวนพาให้เจ็บปวด แต่สุดท้าย ก้ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และไม่มีวันถูกทำลายลงได้อีก เป็นเรื่องราวที่แสนงดงาม
สัญลักษณ์ของวิชาจิตวิทยา (Psy) อันมีที่มาจากตำนานคิวปิดและไซคี
ตอนหน้า ผมจะมาเล่าเรื่องราวของเทพเจ้าองค์หนึ่ง เขาอยู่เบื้องหลังอาวุธของเหล่าเทพและวีรบุรุษหลายชิ้น เขาคือเทพผู้น่าสงสารองค์หนึ่ง เรื่องราวของเขาชวนให้ดราม่ายิ่งกว่าละครหลังข่าวเสียอีก
ทุกท่านคงจะคาดเดากันได้แล้ว...ไว้เจอกันคราวหน้า สำหรับวันนี้ ขอลาไปก่อน มหาวิทยาลัยใกล้จะเปิดเทอมแล้วครับ สวัสดีครับ ขอให้ทุกคนมีชีวิตและความรักที่มีความหมายที่งดงาม
Viva La Vida
@Krishna

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา