7 มิ.ย. 2021 เวลา 13:57 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 69
‘เช้าวันจันทร์...’
คริสต์ที่ขยับเพื่อจะกอดร่างบางที่เขาโอบรัดมาตลอดทั้งคืน ‘ว่างเปล่า’ เมื่อแขนเขาคว้าได้แต่ความว่างเปล่าดวงตาเข้มค่อยๆเปิดขึ้น
“เจ็ดโมง...ไปไหนของเขา” คริสต์ที่ขยับดูนาฬิกาพร้อมลุกนั่ง และเดินเข้าห้องน้ำไป
กอหญ้าที่เดินเคียงข้างคุณหญิงศศิธร ทำให้สายตาของคริสต์ดูอ่อนแสงลง ภาพของทั้งสองคนทำให้เขารู้สึกเบิกบานใจ
“สวัสดีครับคุณแม่...” คริสต์เอ่ยทักทายมารดาพร้อมกับหอมแก้ม
“ไปทานมือเช้ากัน...” คุณหญิงเอ่ยออกมาและเดินนำไป
“เมื่อคืนนอนหลับสบายมั้ย?” คริสต์เอ่ยถามกอหญ้า
“ถามทำไม?” กอหญ้าขมวดคิ้วหันไปมองหน้าคนถาม
“ถาม?…ก็ตอบสิ...เด็กอะไร ช่างย้อน”
“…รู้เหมือนกันเหรอว่าเค้ายังเด็ก...คนชอบกินเด็ก” คริสต์ยิ้มออกมา เป็นไงละ ว่าที่แม่ของลูกเขา ทุกคำไม่ตกฟาก ยอกย้อน เถียง
“…ต้องตอบมั้ยว่า...เด็กอยากทำตัวให้น่ากินทำไม...พูดแล้วน่าจะ... ‘....’ ก่อนไปทำงาน...” คริสต์ตอบกลับ ไม่มีเสียล่ะที่จะยอมแพ้กอหญ้าง่ายๆ
“…หื่น...ไม่คุยด้วยแล้ว...ไปกินอาหารเช้ากับคุณแม่ดีกว่า...คนแก่ชอบกินเด็ก...” กอหญ้าพูดจบแลบลิ้นใส่คริสต์และวิ่งเข้าบ้านตามหลังคุณหญิงศศิธรไปอย่างรวดเร็ว
“ฝากไว้ก่อนเถอะ...ว่าดีนัก...เดี๋ยวก็จัดให้รู้จักสักที...หื่น...ของจริงแบบไหนกันแน่...” คริสต์เปรยออกมาเบาๆ ยิ้ม และเดินตามไป...
“เฟรเดลิค...แกจะเริ่มงานเมื่อไหร่?” ริต้าเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความระอาและขยะแขยงเฟรเดลิคที่เธอพยายามจะเก็บไว้ส่วนลึกของความรู้สึก
“ก็ขึ้นอยู่กับเธอ...ริต้า เธอหารถให้ฉันไว้ใช้ด้วยสิ...มันจะได้สะดวกเวลาไปไหนมาไหน...” ริต้ามองชายตรงหน้าอย่างหยามเหยียดโดยที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสได้เห็น...
“เข้าใจแล้ว...ฉันจะหาให้ทั้งรถและที่พัก”
“ที่พัก ฉันพักที่นี่กับเธอก็ได้”
“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเราสองคนยังติดต่อกันอยู่ โดยเฉพาะคริสต์ เราต้องต่างคนต่างอยู่”
“โถ่!!! ริต้า...” เฟรเดลิค เอ่ยแค่นั้น ที่เขายอมทำตามที่ริต้าขอนั้น เขาก็เพียงแค่ต้องการหาเป้าหมายใหม่ กอหญ้าก็น่าสนใจ ถึงเธอจะไม่ได้มีฐานะดีมาก แต่ก็พอให้เขาแก้ขัดฆ่าเวลา แต่เรื่องที่ริต้าจะได้กลับไปหาคริสต์นั้น คงยาก เพราะถ้าเขาเป็นคริสต์ เขาไม่มีทางกลับมากินของเก่าที่ไม่คงสภาพแล้ว ช่างไม่รู้ตัวบ้างเลย ‘น่าสงสาร’
‘ณ ห้องชุดคอนโด ชั้นยี่สิบห้า ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร’
อันโตนิโอยิ้มในขณะที่มองภาพบุตรสาวกับคริสต์ที่ต่างไม่มีใครยอมใคร ที่นั่งอยู่บนโซฟารออาหารค่ำ ที่หยอกล้อสำหรับสายตาของเขา
“…เชื่อมั้ยคะ?...ว่าถ้ากิ๊กเอาเรื่องของคุณคริสต์ไปเล่าให้ใครฟัง...ต้องมีคนว่ากิ๊กเพ้อเจ้อแน่ๆ”
“ทำไม?” อันโต หันไปถามกิ๊กอย่างแปลกใจ
“สังคมที่นี่เขามองคุณคริสต์ค่อนข้างเป็นคนไว้ตัว เหมือนอยู่เหนือเมฆอะไรป่านนั้น...ใครจะเชื่อว่ากอหญ้าจะสามารถดึงบุคคลิกอ่อนหวานพาฝัน ที่กิ๊กเองยังไม่อยากเชื่อว่าเขาเป็นแบบนั้น ออกมาให้เห็นได้”
“แต่ผมว่า แบบนี้ต่างหากที่เป็นตัวตนของคุณคริสต์” อันโตเอ่ยและหันกลับไปมองคนที่เอ่ยถึง ที่กำลังแกล้งและพยายามโอบกอดกอหญ้าที่ไม่ยอมให้คริสต์ทำตามใจชอบได้ง่ายๆ
“หยุดนะ!...อย่าทำอะไรลุ่มล่ามได้มั้ย อันโตกับกิ๊ก ก็อยู่นะ”
“ลุ่มล่ามที่ไหน?...คิดมาก” คริสต์ที่ยังคงรัดวงแขนโอบกอดกอหญ้าไว้ที่เจ้าตัวดิ้นไปมาอยู่ตลอด
“ไม่รู้จะตามมาทำไม?...”
“ยายโง่!...เป็นผัวเมียกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ”
“…ว่าที่...เราเป็นแค่ ‘ว่าที่’...ลืมไปแล้วเหรอว่าทุกอย่าง ยังไม่เป็นทางการ...”
“หลอมรวมกันเกือบทุกวัน...ยังใช้คำนั้นอยู่อีกเหรอ”
“ทะลึ่ง!...ไม่อยากพูดด้วยแล้ว...กินข้าวดีกว่า อันโตทำเสร็จแล้ว” กอหญ้าพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน ที่คริสต์ก็ยอมปล่อยง่ายดาย และเดินตามเธอไป เมื่อทั้งสี่ประจำที่กับอาหารมื้อที่พร้อมหน้ากัน
“หญ้าเป็นไรไป?...ทำไมไม่กิน” อันโตเอ่ยถามบุตรสาว เมื่อเห็นกอหญ้าทำหน้าเศร้าๆและเขี่ยอาหารในจาน
“หญ้า!...ฮืออออ....ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลย...ไม่อยากให้อันโตกลับมิลานเลย...ฮือออออ” ทั้งสามคนหยุดการกินทันที เมื่อจู่ๆกอหญ้าก็ปล่อยโฮ!! ออกมาเมื่อต้องตอบคำถามของพ่อ
อันโตต้องลุกจากเก้าอี้ที่นั่งและเดินอ้อมมานั่งคุกเข่าข้างเก้าอี้ที่กอหญ้านั่งอยู่ กอหญ้าโผเข้ากอดอันโตทันที และร้องไห้เหมือนเด็กน้อยไม่ผิด ภาพนั้นทำให้คริสต์ได้แต่มอง เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นกอหญ้า ‘ขี้แย’ เพราะปกติเธอดูจะเข้มแข็งมาก
“ไหนบอกพ่อว่าโตแล้ว...”
“โตแล้ว...แต่ก็อยากกอดพ่อ” อันโตหันไปยิ้มกับคริสต์ที่มองกอหญ้าด้วยแววตาที่เอ็นดูกับภาพตรงนั้นเหลือเกิน อันโตกระชับวงแขนกอดบุตรสาวแน่นขึ้น กว่าอาหารมื้อเย็นจะจบก็เป็นชั่วโมง “กิ๊ก...หญ้าฝากอันโตด้วยนะ” กอหญ้าพูดกับเพื่อนสาวคนสนิทขณะที่ทั้งสองช่วยกันเก็บล้างถ้วยจาน
“ด้วยชีวิตทั้งหมดของกิ๊กเลย” กอหญ้ายิ้มให้กับเพื่อนสาวที่ควบตำแหน่งภรรยาของพ่อ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา