'The Pumpkin Plan กลยุทธ์ฟักทองยักษ์'
ถ้าอยากให้ธุรกิจไปรอด ต้องตัดลูกค้าส่วนใหญ่ทิ้ง
สิ่งนี้คือประเด็นหลักของหนังสือกลยุทธ์ฟักทองยักษ์ หรือ The Pumpkin Plan ที่พูดถึงการทำธุรกิจธรรมดาให้เป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ หัวใจหลักของหนังสือเล่มนี้พูดในประเด็นที่แย้งกับหนังสือแนะนำการทำธุรกิจหลายเล่มเลยทีเดียวค่ะ
การทำธุรกิจที่ดีไม่ใช่ธุรกิจที่หาเงินได้เยอะ แต่ถ้าอยากเป็น “ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ” จริงๆ ต้องเป็นคนที่ใช้แรงและเวลาไปในเรื่องที่สร้างคุณค่าจริงๆให้กับธุรกิจ เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการที่ทำงานทั้งวันทั้งคืน ดูแลลูกค้า และทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ใช่ผู้ประกอบการแต่เป็นเพียงลูกจ้างในบริษัทของตัวเองเท่านั้น
วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะมารีวิวหนังสือแนะนำด้านธุรกิจที่พูดถึงประเด็นที่ว่าการทำธุรกิจเหมือนกับการปลูกฟักทองอย่างไร จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ในความคิดของเรามีอยู่ 2 จุดด้วยกันค่ะ
(1) การเปรียบเทียบการปลูกฟักทองกับการทำธุรกิจ
ในเล่มนี้ได้พูดถึงการปลูกฟักทองยักษ์ที่ได้รางวัลที่มีขนาดใหญ่ถึง 500 กิโลกรัม เมื่อเราเดินเข้าไปในไร่ฟักทอง ไม่ว่าฟักทองลูกอื่นๆจะสวยงามหรือดูน่าอร่อยแค่ไหน แต่สายตาของคนที่ไปเยี่ยมชมทุกคนก็จะสนใจหรืออยากได้แต่ฟักทองลูกยักษ์ที่ชนะรางวัล
การทำธุรกิจก็เหมือนกันค่ะ ธุรกิจที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จก็ควรทำตัวเป็นฟักทองยักษ์เช่นกัน แทนที่เราจะเป็นฟักทองธรรมดาที่หาที่ไหนก็ได้ ถ้าเราทำธุรกิจจนเป็นฟักทองยักษ์ได้แล้ว ธุรกิจของเราจะขายตัวเอง โดยที่ไม่ต้องใช้การตลาดหรือค่าโฆษณาราคาแพง
การปลูกฟักทองยักษ์ คือการหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุด ปลูกฟักทองทั้งไร่ กำจัดวัชพืช และ หาลูกที่เติบโตดีที่สุด และ หมั่นรดน้ำดูแลฟักทองลูกที่ดี และ ตัดลูกที่เติบโตได้ไม่ดีออก และดูแลเฉพาะลูกที่ดี และทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ลูกฟักทองยักษ์เพียง 1 ลูก
การทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็เหมือนกัน เราต้องหาไอเดียที่เปรียบได้เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุด อาจจะเป็นเรื่องที่เราทำได้ดี หรือ มี Passion กับมันก็ได้ แต่จุดสำคัญไม่ใช่แค่การหาเมล็ดพันธุ์เท่านั้น มันคือการที่เราต้องกล้าตัดฟักทองลูกที่ไม่ดีออก ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ บอกวิธีการคือให้นำลูกค้าทั้งหมดที่เรามีมาเรียงจากคนที่สร้างมูลค่าให้บริษัทมากที่สุด หรือ เราชอบมากที่สุด สร้างปัญหาน้อยที่สุดแบบที่อยากได้อีก โดยที่เลือกมาซักประมาณไม่กี่คนหรือ 20% ของลูกค้าทั้งหมด และสัมภาษณ์คนกลุ่มนั้นว่าจริงๆแล้ว คนกลุ่มนี้ต้องการอะไรบ้าง และปรับเปลี่ยนธุรกิจตนเองให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้
ในระหว่างนี้หากว่าจะต้องเสียลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ไปบ้าง เช่น ลูกค้าขี้บ่น ลูกค้าที่ไม่เคยพอใจอะไร แต่ซื้อนิดเดียวก็ปล่อยไป มุ่งมั่นทำเพื่อกลุ่มลูกค้าที่เราอยากได้อีกไปเรื่อยๆ
ถ้าหากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราจะเหลือแต่ลูกค้าที่เรายินดีจะดูแล และลูกค้าเองก็จะรู้สึกว่าตัวเองพิเศษ เราจะสามารถทำธุรกิจแบบที่ไม่ต้องขายวิญญาณโดยที่สามารถเติบโตขึ้นได้จริง เพราะเรากำลังให้สินค้าหรือการบริการที่ลูกค้ามีความสุขกับมันจริงๆ และจะเริ่มเกิดการบอกเล่าปากต่อปากที่ทำให้เราไม่ต้องโฆษณาและหาลูกค้าใหม่ซึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายราคาแพง
(2) ตัวอย่างธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ
หลักการของกลยุทธ์ฟักทองยักษ์ข้อหลักก็มีตามข้อ (1) แต่จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือการยกตัวอย่างจริงของธุรกิจที่ใกล้จะเจ๊งที่ถูกพลิกมาได้ด้วยกลยุทธ์ฟักทองนี้ มีตั้งแต่อุตสาหกรรมการบิน ร้านค้าออนไลน์ เทคโนโลยี จนไปถึงการเป็นศิลปิน
เมื่อมีตัวอย่างในแต่ละอุตสาหกรรม จะเห็นว่าถึงแม้จะใช้กลยุทธ์เดียวกัน แต่พอโจทย์ในแต่ละธุรกิจเปลี่ยนไป ก็จะมีการประยุกต์นำไปใช้ในวิธีที่ต่างๆกัน ซึ่งพออ่านแล้ว ต่อให้ไม่ใช่ธุรกิจของเราก็ทำให้เราเปิดโลกและนำวิธีการของอุตสาหกรรมอื่นมาใช้กับธุรกิจตัวเองได้ด้วยค่ะ
โดยส่วนตัว เราชอบการเขียนลักษณะนี้มากที่ยกตัวอย่างจริง พร้อมทั้งชื่อคนและชื่อแบรนด์มาให้เราได้ศึกษา และที่สำคัญยังมีการอธิบายทฤษฎีในการทำธุรกิจ แต่อธิบายออกมาให้เข้าใจง่ายๆ พร้อมกับวิธีที่นำไปปฏิบัติได้จริง
เราว่าจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ นอกเหนือจากประเด็น “การกล้าตัดลูกค้า” แล้ว คือวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจมาก การใช้ภาษาที่สนุกและตลก พร้อมกับประสบการณ์จริงที่ทั้งรุ่งและร่วงในการทำธุรกิจ เป็นหนังสืออีกเล่มนึงที่แนะนำให้ผู้ประกอบการที่กำลังอยากพลิกฟื้นธุรกิจค่ะ 🙂
……………………………………………………..
ชื่อหนังสือ: The Pumpkin Plan กลยุทธ์ฟักทองยักษ์
นักเขียน: Mike Michalowicz
จำนวนหน้า: 252
ราคา: 240 บาท
สำนักพิมพ์: WeLearn
Overall: 4/5
……………………………………………………..
Score Explanation
Writing Style: 4.5/5 เพราะว่าเขียนสนุกและตลกดี ชอบในส่วนที่มีการยกตัวอย่างธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมมากๆเลยค่ะ
Time worthiness: 4/5 หนังสือไม่ยาวมากและมีตัวอย่างเยอะ แต่ประเด็นสำคัญจะอยู่ในช่วงบทแรกๆ ที่เหลือจะเป็นการขยายความ
Content Usefulness: 3/5: สำหรับผู้ประกอบการที่ธุรกิจกำลังมีปัญหา ควรอ่านแบบ 5/5 เลยค่ะ แต่สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่ได้มีประโยชน์มากนัก
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
