19 มิ.ย. 2021 เวลา 06:11 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 88
“ผู้กำกับพัฒน์ คุณคงไม่ว่านะคะ ถ้าฉันจะพาคุณศิริไปโรงพยาบาล” ศิริ ที่นั่งเงียบๆ อยู่ในห้องรับแขกของบ้านพักริมทะเลของคริสต์ โดยมีเขมิกาและ ผู้กำกับพัฒน์ที่เดินทางมาถึงโดยใช้เวลาไม่นานหลังจากที่เขมิกาโทร.ไปเชิญเขามา ซึ่งในตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แม้จะพยายามจะถามเหตุผลกับเขมิกา แต่เธอก็ยืนยันให้เขาเดินทางมาฟังเหตุผลและสาเหตุที่บ้านหลังนี้...
“…ผมไม่เข้าใจครับว่าทำไมลูกสาวผมต้องไปโรงพยาบาล” ผู้กำกับพัฒน์ถามอย่างไม่เข้าใจจริงๆ หลังจากที่เขาฟังเหตุผลที่เขาต้องมาที่บ้านหลังนี้เพียงลำพังแล้ว และเรื่องนั้นทำให้เขาอับอายกับการกระทำของบุตรสาวเพียงคนเดียว แต่ผู้กำกับพัฒน์ก็ต้องเก็บอาการความรู้สึกนั้น และกล่าวขอโทษเขมิกา ซึ่งเธอบอกว่าคนที่พวกคุณต้องขอโทษนั้นไม่ใช่เธอ
“ฉันต้องการให้มีการรับรองจากแพทย์ ว่าบุตรสาวของคุณไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใดค่ะ” เหตุผลของเขมิกา ทำให้ศิริและผู้กำกับพัฒน์ เบิกตากว้างมองเขมิกาด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ไม่นะคะ...พ่อ...ศิริไม่ไปนะคะ”
“แต่คุณต้องไป...ฉันต้องมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของคุณคริสต์”
“แต่แบบนี้มันเกินไปนะครับ และศิริก็ยอมรับแล้วว่าคุณคริสต์ไม่ได้ทำอะไรเธอเลย”
“ใช่!…วันนี้คุณศิริพูดแบบนั้นจริง แล้วฉันและพวกเราที่เกี่ยวข้องจะเชื่อได้เหรอคะ ว่าวันข้างหน้าคุณศิริไม่กลับคำ...อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะคะ การกระทำของคุณศิริทำให้พวกเราไม่ไว้วางใจเธอค่ะ...” ผู้กำกับพัฒน์ได้แต่เงียบ และเข้าใจเขมิกาดี คนแบบพวกเขาไม่เคยรังแกใคร ในทางตรงกันข้ามพวกเขาเป็นเจ้านายที่ดีด้วยซ้ำตลอดการทำงานด้วยกันมาหลายปี
“พ่อ!!!!….” ศิริหันไปทางผู้กำกับพัฒน์อย่างขอความเห็นใจ
“…ศิริ...ลูกไม่มีทางเลือก” เขมิกามองสองพ่อลูกที่หันหน้ามามองกัน ศิริ ช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน เมื่อเธอพยายามจะขยับและหนี ผู้กำกับพัฒน์ก็รั้งแขนเธอไว้ “...ศิริ ลูกทำผิดก็ต้องรับผลที่เกิดขึ้น...ทำตามที่คุณเขมิกาบอก”
ศิริร้องไห้ออกมา เขมิกาที่มองอยู่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา แค่ศิริคิดก่อนที่จะทำก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ต้องมารับผล บทลงโทษ ใช่ว่าเขมิกาจะไม่เห็นใจผู้หญิงด้วยกัน การตรวจภายในมันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอะไรนักหนา เพราะยุคนี้ผู้หญิงก็ตรวจกันเยอะแยะเพื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่เป็นโรคร้ายแรง อย่างมะเร็งปากมดลูกที่ใครๆก็ตรวจว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยง แต่กรณีของศิริ เขมิกาต้องการหลักฐานยืนยันเพื่อปกป้องคริสต์ที่เขาไม่ควรจะต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ได้ก่อ และเรื่องนี้มันจะทำให้ชีวิตของคริสต์พังได้เลย...
คริสต์เดินจูงมือกอหญ้ากลับมายังบ้านพัก ในขณะที่เขมิกา ผู้กำกับพัฒน์ และศิริที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหลักฐานความเศร้าโศก ออกมาจากบ้านที่กำลังจะขึ้นรถไปโรงพยาบาลตามความต้องการของเขมิกา
กอหญ้าก้มหน้าหลบตาทุกคน ซึ่งเขมิกาเดินเข้าไปใกล้คริสต์และเอียงกระซิบบอกบางอย่างกับคริสต์ และสวมกอดกอหญ้าที่เธอหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าสบตากับใครทั้งๆที่เธอไม่ใช่คนผิดเลย
คริสต์พยักหน้าตอบรับเขมิกาอย่างขอบคุณ แต่เขาไม่มีโอกาสได้บอกกับเขมิกาเลยว่า บทสรุปของเขากับกอหญ้ากลับจบไม่สวยสักเท่าไหร่ และที่กอหญ้ายอมเดินกลับมาบ้านพักกับเขาก็เพราะคริสต์ยืนยันจะไปส่งกอหญ้าที่บ้านน้องบี ที่กอหญ้าขอไปพักที่นั้นจนกว่าจะกลับกรุงเทพฯ เพราะพวกเขาต้องอยู่ต่ออีกหลายวันเพื่อที่จะต้องถ่ายละครให้ครบทุกตอนที่เกี่ยวกับทะเล
คริสต์และกอหญ้าเดินต่อเข้าไปในบ้านโดยที่คริสต์ไม่แม้แต่ชายตามองศิริแม้สักนิด และท่าทางแบบนั้นของคริสต์ทำให้ศิริปล่อยน้ำตาออกมาอีกครั้งอย่างไม่สามารถหักห้ามเอาไว้ได้ กอหญ้าหยุดเดินและขอรออยู่ที่ห้องรับแขก ทำให้คริสต์ต้องปล่อยมือเธอและเดินกลับเข้าห้องนอนเพื่อสวมเสื้อผ้าและเก็บกระเป๋าให้กอหญ้าทำตามคำขอของเธอด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไม่แพ้กัน
เขมิกาที่จอดรถหน้าบ้านพักอีกครั้ง เมื่อเธอเลื่อนการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ออกไป เมื่อไม่สามารถทิ้งคริสต์และกอหญ้าไว้ได้ แต่ดวงตาก็ต้องหันกลับไปมองที่เก้าอี้ชายหาดที่มีคริสต์นอนอยู่ที่นั้นเพียงลำพัง
“คุณคริสต์!...” เขมิกาเอ่ยเรียกเมื่อเดินเข้าไปใกล้ และแน่ใจว่าคริสต์อยู่เพียงลำพัง คิ้วเรียวของเขมิกาขมวดเข้าหากันทันที
“กอหญ้าขอไปพักที่บ้านน้องบีครับ” คริสต์ตอบข้อสงสัยด้วยน้ำเสียงที่หมดอะไรตายอยาก
“คุณหญ้าไม่เชื่อเหรอคะ?”
“เปล่าครับ...เธอเชื่อว่าผมไม่มีอะไรกับคุณศิริ...แต่หญ้าขอเวลาลบเลือนภาพของผมกับคุณศิริในห้องนั้น”
“โถ่วววว...คุณหญ้า...ทำไมต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้กับพวกคุณด้วยนะ” คริสต์ไม่มีเสียงตอบกลับ สายตาเขามองไปยังท้องทะเลที่มีเพียงแสงจันทร์ ทำให้ท้องทะเลสวยงามไปอีกแบบ แต่ความสวยงามนั้นก็ไม่อาจลดทอนความเจ็บปวดในหัวใจของคริสต์ลงได้เลย
“พี่เขมไปพักผ่อนเถอะครับ...”
“ค่ะ...เดี๋ยวพี่เอามื้อเย็นมาให้ที่นี่นะคะ คุณคริสต์ต้องทานนะคะ เพราะยังมีหน้าที่ที่คุณคริสต์ต้องทำในวันพรุ่งนี้นะคะ...” เขมิกากล่าวเตือนสติของคริสต์ ซึ่งคริสต์ก็พยักหน้าแต่...
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมเข้าไปทานในบ้านครับ” เขมิกายิ้มออกมาพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในบ้านเตรียมมื้อเย็นที่ล่วงเวลามานานแล้วให้กับคริสต์
“พี่หญ้าทานน้ำเต้าหู้ทรงเครื่องนะคะ...น้องบีไปซื้อมาให้นะคะ” น้องบีที่ได้รับคำขอจากคริสต์ก่อนที่เขาจะกลับว่าฝากดูแลกอหญ้าด้วย และน้องบีก็รับปากอย่างแข็งขันว่าจะดูแลกอหญ้าอย่างดีที่สุด
กอหญ้ายิ้มและรับแก้วน้ำเต้าหู้นั้นมา และกินจนหมด เพราะเธอไม่อาจทำให้ความหวังดีของน้องบีต้องได้รับความผิดหวัง
“ขอบใจจ๊ะ...พี่ขอไปอาบน้ำนอนนะคะ...น้องบีไปนอนก่อนนะคะ” น้องบีพยักหน้ารับพร้อมรับภาชนะที่ใส่น้ำเต้าหู้ที่หมดแล้วมา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา