20 มิ.ย. 2021 เวลา 04:46 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 91
เอี๊ดดดดดด เสียงเบรครถที่หน้าบ้านบ่งบอกอารมณ์ของคนขับ คริสต์ดับเครื่องลงจากรถทันที และเดินเข้าบ้านของตนที่ตัวเองมั่นใจว่า ในบ้านจะมีเพียงเขาตามลำพัง เพราะถ้ากอหญ้าอยู่ที่บ้านเขาตอนนี้ UPSIDE DOWN <นิยามรักปฏิวัติสองโลก> คงมีจริง โลกที่สองที่อยู่อีกฝั่งตรงข้ามตามกฎแรงโน้มถ่วงที่เกิดขึ้นได้
คริสต์ที่ตอนนี้ตัวเองก็รู้สึกไม่พอใจทุกสิ่งอย่างรอบตัว แม้แต่แก้วน้ำที่เขาคว้า เพื่อที่จะเอาออกมาจากที่แขวนหน้าบาร์เครื่องเดิม มันก็ช่างเอาออกมายากเย็นเหลือเกินในตอนนี้
“โธ่เว้ย!!!!!” คริสต์ตะโกนเสียงดังออกมา และเลิกที่จะหยิบแก้ว เปลี่ยนเป็นไปหยิบขวดไวน์ที่เขาไม่สนใจแล้วตอนนี้ว่าเป็นยี่ห้ออะไร เขาต้องการอะไรเย็นๆที่ผสมแอลกอฮอล์บ้างเพื่อดับความเร้าร้อนในร่างกาย “อึก อึก อึก” เสียงกลืนไวน์ที่คริสต์ยกดื่มทั้งขวดทันที หลังจากที่เขาเปิดฝามันออก
คริสต์ขบกรามแน่น พร้อมด้วยดวงตาที่แดงก่ำ รวมถึงใบหน้าที่ตอนนี้แดงเช่นกันโดยที่ไม่ชัดเจนในสาเหตุว่าเป็นเพราะไวน์ที่ลดไปครึ่งขวดหรือจากความโมโห กรุ่นโกรธ ในอารมณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คริสต์ไม่ได้อยากกลับมาบ้านเพื่ออยู่ลำพังแต่เขามีทางเลือกไม่มาก และที่มีไม่มากอีกอย่างในตัวเขาคือ ความอดทน ในเรื่องของกอหญ้า ที่เขาไม่รู้ว่าจะยอมให้กอหญ้าทำตามอารมณ์ของเธอที่เป็นอยู่แบบนี้ได้นานแค่ไหนเช่นกัน
“เอ่อ!...ขอโทษค่ะคุณคริสต์ คือแม่ให้มาถามว่าคุณคริสต์จะรับมื้อเย็นที่ไหนคะ?” เด็กในบ้านของคุณหญิงศศิธรเดินเข้ามาถามอย่างกลัวๆ และเธอเนื้อตัวสั่นมากขึ้นเมื่อเห็นสายตาของคริสต์มองมาที่เธอ...
“ไม่กิน!” คริสต์พูดเท่านั้นและเดินขึ้นชั้นสอง แสดงออกชัดเจนว่าเขาต้องการอยู่คนเดียวเพียงลำพัง เด็กในบ้านรีบเดินออกจากบ้านของคริสต์ทันที และวิ่งไปหาแม่ที่เป็นแม่ครัวให้กับคุณหญิงศศิธรมานานมากแล้ว
“แม่!…”
“แก้วเป็นอะไร หน้าตาตื่นขนาดนั้น”
“ก็คุณคริสต์นะสิ!...น่ากลัวมาก”
“ไร้สาระ...แล้วเธอจะรับมื้อเย็นตรงไหน”
“ไม่กิน...คุณคริสต์บอกแค่นั้น”
“อ้าว!!!…ทำไมเป็นแบบนั้นไป...”
“ก็หนูบอกแล้วว่าคุณคริสต์น่ากลัวมากเลยแม่...สายตาที่แกหันมามองหนูนะขวางๆ น่ากลัวมากเลย...ต้องเกี่ยวกับคุณกอหญ้าแน่เลยแม่ เพราะไม่เห็นเธอกลับมาด้วย”
“แล้วทำไงล่ะคราวนี้ คุณหญิงท่านก็ไม่อยู่ คุณคริสต์ไม่ฟังและยอมใครหรอกมีเพียงคุณหญิงกับคุณกอหญ้าเท่านั้น...อ้อ!...ต้องโทรหาคุณเขม” แม่กาญพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดหาเขมิกาทันที
“คุณเขมค่ะ...คือว่า....” แม่กาญเล่าเหตุการณ์ให้เขมิกาฟัง “...เอาอย่างนั้นเหรอค่ะ...ค่ะ...เดี๋ยวดิฉันจะลองโทร.ค่ะ” แก้วขมวดคิ้วมองแม่อย่างแปลกใจ
“ทำไมเหรอแม่ คุณเขมให้แม่โทร.หาใคร?”
“คุณกอหญ้า...” แม่กาญตอบคำถามบุตรสาวพร้อมกับทำตามคำแนะนำของเขมิกา
Grrrrr Grrrr กอหญ้าที่กำลังทำบะหมี่สำเร็จรูปเพื่อประทังชีวิตเป็นมื้อเย็น เพราะในห้องคอนโดชุดของเธอไม่มีอะไรเลยนอกจากบะหมี่กับน้ำเปล่าที่แช่อยู่ในตู้เย็น หลังจากที่ช่างกุญแจกลับไป กอหญ้าก็ไม่อารมณ์จะออกไปซื้อเสบียงเข้าห้องเลย
กอหญ้าขมวดคิ้ว เมื่อหน้าจอแสดงชื่อคนที่โทร.เข้ามา ‘แม่กาญ’ กอหญ้าบันทึกชื่อตามคำเรียกที่เธอเรียกแม่ครัวที่บ้านคุณหญิงศศิธร
“สวัสดีค่ะ...แม่กาญ”
“คุณกอหญ้า...”
“ค่ะ...ว่าแต่แม่กาญเป็นอะไรเหรอเปล่าคะ?” กอหญ้าถามกลับด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง เพราะตลอดเวลาที่เธออาศัยอยู่ที่นั้นเธอได้รับการดูแลอย่างดีจากคนทำงานทุกคนในบ้านหลังนั้น แม่กาญเป็นแม่ครัวที่เอาใจใส่เธอเช่นกัน เพราะแม่กาญจะคอยถามว่าเธอชอบกินอะไร ไม่ชอบอะไร ทั้งของหวานของคาว “แม่กาญจะได้จัดได้ถูกนะคะ” คำพูดของแม่กาญที่ใจดีกับเธอเช่นกัน
“ปะ...เปล่าค่ะ...แม่กาญไม่ได้เป็นอะไร...แต่คุณคริสต์สิค่ะ เธอไม่ยอมทานอาหารนะคะ...” กอหญ้ากรอกตาเมื่อได้ฟัง เธอไม่ได้กรอกตาใส่แม่กาญ แต่เธอกรอกตาให้กับความงี่เง่าของคริสต์ ที่เขาโชคดีกว่าเธอที่ไม่ต้องฝากท้องกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ตอนนี้คงกำลังได้ที่พร้อมกินแล้ว
“ตามใจเขาเถอะค่ะ แม่กาญ แค่มื้อเดียวคงไม่เป็นไรมั้งคะ?...แม่กาญทำพวกผัดผักง่ายๆ วางไว้ในครัวนั้นแหละค่ะ...เดี๋ยวเขาหิวก็คงเดินไปหาอะไรทานเอง” กอหญ้ากรอกเสียงบอกแม่กาญไป และเดินกลับมาเปิดฝาถ้วยบะหมี่ของตัวเองที่พร้อมกินแล้ว ด้วยใบหน้าที่เซ็งสุดๆ และกดวางสายเมื่อปลายสายตอบรับตามคำแนะนำนั้น
คริสต์สะดุ้งตื่นเมื่อนาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่ม ภายในห้องมืดมิดมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่ คริสต์ลุกขึ้นมานั่ง เขารู้สึกมึนๆ สาเหตุคงมาจากเขาท้องว่างที่วันนี้เขายังไม่ได้กินอะไรเลยหลังจากที่เขาทานขนมปังกับกาแฟตอนเช้าที่กองถ่าย และกลับมาเขายังดื่มไวน์หมดไปอีกหนึ่งขวด
คริสต์เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้า เมื่อเสร็จแล้วเขาก็เดินลงบันไดมุ่งสู่ประตูทางออกของบ้านเขา และเดินเลี่ยงประตูใหญ่ทางเข้าตึกใหญ่ที่ตอนนี้ปิดสนิท เขาเดินไปตามทางเดินเล็กข้างกำแพงเพื่อไปยังห้องครัวที่จะมีประตูทางเข้าแยกมา และแน่นอนเขารู้ว่ามันจะไม่ล็อค เพราะทุกคนในบ้านจะรู้ว่าถ้าเขากลับดึกๆ เขาจะไม่รบกวนคนในบ้าน คริสต์จะเข้ามาจัดการตัวเองหาอะไรทานเองในครัวนี้
คริสต์กดสวิสท์ไฟ แสงไฟดวงเล็กๆสว่างขึ้น บนโต๊ะมีบางอย่างวางไว้ พร้อมโน้ตที่แปะบอกไว้ “คุณกอหญ้า บอกว่าให้ทำผัดผัก วางไว้บนโต๊ะให้คุณคริสต์...” คริสต์ขมวดคิ้วพร้อมรอยยิ้ม เพราะไม่งั้นมื้อนี้คริสต์คงไม่พ้นไข่เจียวราดข้าวที่เขาทำเป็นประจำ ยามที่เขาหิวในยามวิกาลและไม่ได้แจ้งที่บ้านให้รู้ล่วงหน้าว่าเขาจะกลับมาบ้าน และเมนูนี้ที่เกิดขึ้นก็น่าจะเป็นแม่กาญคงโทร.ไปหากอหญ้าและบอกว่าเขาไม่ยอมกินข้าว แม่กาญก็ยังคงเป็นแม่กาญ เป็นห่วงเขายังไงก็ยังคงเหมือนเดิม และเป็นไปไม่ได้เลยที่คนในบ้านจะไม่รู้ว่าเขากับกอหญ้ากำลังมีปัญหากัน เมื่อจู่ๆวันนี้เขากลับมาเพียงลำพัง
คริสต์เดินไปหยิบจานและตักข้าวพอประมาณ และหยิบช้อนส้อมมาวางไว้ที่โต๊ะเดียวกับที่มีผัดผักที่อยู่ในฝาครอบสีเงินครอบไว้ คริสต์เดินไปเปิดตู้เย็นที่แช่น้ำและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ ซึ่งอีกตู้จะแช่พวกอาหารสดผักที่วางคนละฟากกำแพง น้ำเปล่าหนึ่งขวดถูกหยิบออกมาวางข้างๆจานข้าว เมื่อทุกอย่างพร้อมคริสต์จัดการกับอาหารตรงหน้าทันที สายตาอดไม่ได้ที่จะต้องชำเลืองไปมองโน้ตใบนั้น และดวงหน้าของกอหญ้าก็ปรากฎขึ้นตามความคิดของเขา เหมือนดั่งเวลาที่ผ่านมายามที่คริสต์กลับบ้านค่ำมืดโดยที่กอหญ้ากลับมาก่อน เธอมักจะมานั่งตรงข้ามเขา เพื่อเป็นเพื่อนเขาทานข้าวมื้อเย็นในยามวิกาลทุกครั้งในห้องแห่งนี้ เพียงแต่คืนนี้ไม่ใช่คืนแรกที่เขากินตามลำพังเพราะแบบนั้นมันก่อนที่เขาจะได้รู้จักกับกอหญ้า....
“สองวัน...เท่านั้น” คริสต์พึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะสลัดภาพมโนที่เขาวาดมาเองออกไปจากตรงนั้น เพราะคนอย่าง คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์ นะเหรอจะไร้คู่เคียงกายนานได้...
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา