เรื่องเล่าครั้งที่แล้วเขียนถึงชีวิตที่หายนะวายวอดของราชินีแมรี่แห่งสก็อตแลนด์ผู้จบชีวิตด้วยการถูกบั่นคอฐานเป็นกบฏวางแผนจะแย่งชิงบัลลังก์อังกฤษไปจากราชินีอีลิซาเบธ ส่วนในตอนนี้จะเล่าภาคต่อว่าชีวิตหลังความตายของราชินีผู้นี้เป็นเช่นไร ดังที่พระนางได้ปักลงในผืนผ้าเพื่อหาอะไรทำในระหว่างที่ถูกกักขังอยู่ที่อังกฤษเป็นเวลา 19 ปีว่า "En ma Fin gît mon Commencement..." หรือ "In my End is my Beginning..." หรือ “ในจุดจบของข้าก็เป็นจุดเริ่มต้นของข้า”
ภาพที่วาดจากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์การประหารชีวิตราชินีแมรี่ ภาพนี้น่าจะวาดขึ้นเมื่อปี 1613 โดยศิลปินชาวดัตช์ (Image: National Galleries of Scotland)
🪓สิ่งที่ทำเพื่อระลึกถึงคือหน้ากากแห่งความตาย
ก่อนหน้านี้ได้เล่าถึงประวัติศาสตร์ของหน้ากากแห่งความตายหรือ Death Masks ไปแล้ว โดยปกติหน้ากากแห่งความตายกับรูปปั้นจำลองจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำพิธีศพสำหรับสมาชิกราชวงศ์ แต่ด้วยข้อหากบฏที่ทำให้ราชินีแมรี่ถูกตัดหัวจึงไม่มีพิธีฝังศพอันยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นต่อสาธารณชน
เชื่อกันว่าหน้ากากใบนี้เป็นหน้ากากแห่งความตายของราชินีแมรี่ (Image: New York Times)
บ้าน Lennoxlove House ของดยุกแห่งแฮมิลตันในสก็อตแลนด์ และเป็นสถานที่เก็บหน้ากากแห่งความตายที่เชื่อว่าเป็นของราชินีแมรี่ไว้ด้วย (Image: Undiscovered Scotland)
• Jedburgh mask
หน้ากากอีกใบถูกเรียกว่า ‘หน้ากากเจ๊ดเบอเรอะ’ ซึ่งถูกพบที่โบสถ์ปีเตอร์เบอเรอะ สถานที่ฝังศพของราชินีแมรี่แห่งแรก คนที่พบหน้ากากใบนี้ตรงสถานที่นี้คือ Dr. Charles Hepburn