24 มิ.ย. 2021 เวลา 11:57 • ประวัติศาสตร์
#37 The Brain Club : History ชายหน้าย่นปริศนา
ชายผู้นี้อ้างว่าเขาอายุ 138 ปี ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง เขาจะกลายเป็นชายที่อายุยืนที่สุดเท่าที่โลกเคยมี ก่อนการบันทึกสถิติกันจริงจังโดยกินเนสส์บุ๊ก
แต่หลายคนกลับพยายามพิสูจน์ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความจริง เป็นเพียงความเข้าใจที่ผิดพลาดทางด้านเวลา
ในบทความนี้ ผมจะพาคุณผู้อ่านกลับไปย้อนรอยเรื่องราวทั้งหมดว่ามีที่มาเป็นอย่างไรบ้าง แล้วชายคนนี้คือใครกันแน่
ชายผู้นี้มีชื่อว่า " จอห์น สมิธ (Chief John Smith ) " ชายชาวอินเดียนแดงฉายา "หมาป่าขาว" แห่งเผ่าชิปเปวา ชนพื้นเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่ในป่าทางตอนเหนือของรัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา
โดยเนื้อหาในบทความนี้ผมขอเรียกว่า " ปู่สมิธ " เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันครับ
ปู่สมิธใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตอาศัยอยู่ในเขตป่าเขาของทะเลสาบสาบคาสส์ ใช้ชีวิตแบบดั่งเดิม ทำงานเลี้ยงสัตว์ ทำเกษตรกรรม ตกปลา ขี่ม้า
ตามคำบอกเล่าของชาวชิปเปวา พยานผู้เห็นเหตุการณ์ และตัวของปู่สมิธเอง ต่างก็บอกว่าปู่เกิดในปี 1784 ซึ่งจะทำให้เขามีอายุมากถึง 138 ปี
หลายคนบอกว่าปู่สมิธคือชนพื้นเมืองอเมริกันที่อายุยืนที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยชาวชิปเปวา มีชื่อเรียกปู่ว่า " Ga Be Nah Gewn Wonce " แปลว่าเนื้ออันเหี่ยวย่น
มีที่มาจากรูปลักษณ์ใบหน้าภายนอกของปู่ ที่เต็มไปด้วยรอยย่นเด่นชัดทั่วใบหน้า จนกลายเป็นภาพจำติดตัวที่ช่วยสนับสนุนคำกล่าวเรื่องอายุของปู่เข้าไปอีก
แต่สิ่งที่ทำให้อายุของปู่สมิธกลายเป็นปริศานาให้ถกเถียงกันแบบไม่จบสิ้น เป็นเพราะว่าไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องชีวิตที่แท้จริงของคุณปู่มากนัก วันเวลาทั้งหมดคือคำบอกเล่าของปากเปล่าของคุณปู่ และคนใกล้ชิด ไม่มีเอกสารที่ระบุวันเดือนปีเกิดชัดเจน เนื่องจากปู่เป็นชนพื้นเมืองอเมริกันโบราณ
เป็นเรื่องธรรมดาที่รอยเหี่ยวย่นจะมองเห็นได้ชัดเมื่อเรามีอายุมากขึ้น แต่รอยย่นบนใบหน้าของปู่สมิธ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเป็นรอยที่เกิดจากกลไกความโรยราทางอายุ
เพราะจากข้อมูลของ Federal Commissioner of Indian Enrollment คาดว่าว่ารอยย่นดังกล่าวน่าจะเกิดมาจากโรค หรือลักษณะเฉพาะบางอย่างที่ติดตัวปู่สมิธมาตั้งแต่แรกแล้ว
ฝนดาวตก
พอล บัฟฟาโล (Paul Buffalo) หนึ่งในชาวพื้นเมืองที่เคยอยู่อาศัยใกล้ชิดกับปู่สมิธตั้งแต่เด็ก บอกว่าปู่สมิธมักจะเล่าให้ฟังเสมอว่าตัวเองมีอายุราวๆ 7 - 10 ปี ตอนเกิด " ดวงดาวร่วงหล่น (The Stars Fell) "
จากคำกล่าวข้างต้นน่าจะหมายถึง " ฝนดาวตกลีโอนิดส์ " ที่เกิดขึ้นในช่วงรุ่งอรุณของวันที่ 13 พฤศจิกายน 1833 ซึ่งเป็นปรากกฏการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่มีกองทัพฝนดาวตกมากกว่าหมื่นดวงโลดแล่นผ่านน่านฟ้าทวีปอเมริกาเหนือทางฝั่งตะวันออก สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจน
2
ถือเป็นเรื่องปกติของชนพื้นเมืองอเมริกัน ที่มักจะนำภัยพิบัติ หรือปรากกฏการณ์ธรรมชาติสำคัญๆ มาใช้กำหนดวันเวลาที่ต้องการกล่าวถึง เพื่อให้ทุกคนสามารถจดจำได้ และช่วยให้สามารถย้อนรอยเวลาในอดีตได้ง่ายนั้นเอง
1
ถ้าหากปู่สมิธมีอายุ 7-10 ปี ตอนเกิดฝนดาวตกลีโอนิดส์จริง เมื่อคำนวณย้อนกลับไปหาปีเกิดของปู่ น่าจะอยู่ประมาณปี 1823 หรือ 1825
นำตัวเลขปีเกิดที่ได้มาหักลบกับปีเสียชีวิต อายุของปู่จะไม่ถึงหนึ่งร้อยปี ซึ่งค่อนข้างห่างไกลกับตัวเลข 137 ปี ถือเป็นคำบอกเล่าที่ขาดความสอดคล้องในแง่ของเวลา ทำให้เราชวนสับสนหนักเข้าไปอีก
The Star Tribune หนังสือพิมพ์เจ้าใหญ่ที่สุดของรัฐมินนิโซตา เคยพยายามรวบรวมข้อเท็จจริงเรื่องอายุปริศนาของปู่สมิธ
ปู่สมิธบอกว่าเขาจดจำสงครามระหว่างชิปเปวากับชาวซู (Chippewa versus Sioux ) ที่เกิดเมื่อปี 1812 ได้อย่างแม่นยำ เพราะเขามีส่วนร่วมในสงครามครั้งนั้นในฐานะหน่วยสอดแนม
ถ้าหากปู่สมิธได้ร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งนั้นจริง เขาอาจจะกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ประมาณ 18 -19 ปี นั่นจะทำให้ปีเกิดของปู่อยู่ที่ประมาณช่วงปี 1794 ซึ่งมีความใกล้เคียงกับปีเกิดที่ปู่กล่าวอ้าง
ปู่สมิธนั้งสูบบุหรี่ในป่า สวมเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมในช่วงปี 1910
จากการสัมภาษณ์คุณบัฟฟาโลเพิ่มเติม ทำให้รู้ว่าในปี 1914 ปู่สมิธหันมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เคยแต่งงานมาทั้งหมด 8 ครั้งในชีวิต แต่กลับไม่มีบุตรในสายเลือดร่วมกับภรรยาคนไหนเลย มีเพียงลูกบุญธรรมคนเดียวชื่อทอม สมิธ ( Tom Smith )
ทางด้านคุณทอมก็เคยออกมายืนยันหนักแน่น ว่าพ่อของเขาอายุ 137 ปีจริงๆ ไม่ได้หวังจะแหกตาชาวโลกแต่อย่างใด
คุณปู่ชื่นชอบที่จะนั้งรถไฟไปในที่ต่างๆ ทางรถไฟก็อนุญาติให้เขานั้งได้ฟรีไม่คิดเงิน เขากลายเป็นที่รักของคนที่พบเห็นเสมอ
ใบหน้าของปู่สมิธที่เราเห็นส่วนมาก คือภาพที่เคยปรากฏอยู่บนโปสการ์ดชาวชิปเปวา ที่ถ่ายโดยช่างภาพที่เห็นความพิเศษในตัวปู่สมิธ เขาให้รูปทั้งหมดแก่ปู่สมิธเพื่อนำไปขายในราคาประมาณ 5 เซ็นต์ ให้เหล่านักเดินทางหรือนักสะสมที่อยากช่วยสนับสนุน
ในปี 1920 ปู่สมิธเคยรอดจากความตายมาได้แบบหวุดหวิด เขาถูกรถไฟเชี่ยวชนขณะเดินข้ามรางรถไฟ ใช้เวลารักษาตัวนานเกือบ 1 เดือน ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ
ภาพถ่ายประมาณปี 1921 ปู่สมิธในวัย 137 ปี
ในปี 1920 ปู่สมิธเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง " Recollections of Ga-be-nah-gewn-wonce " ซึ่งมีชนพื้นเมืองอเมริกันร่วมแสดงด้วย ได้ออกฉายไปทั่วประเทศจึงทำให้ปู่กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั่วอเมริกา
ปู่สมิธเสียชีวิตจากอาการปอดบวมเนื่องจากติดเชื้อ ที่บ้านของลูกชายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1922 อายุรวม 138 ปีตามปีเกิดที่เขาเคยกล่าว
ร่างของปู่สมิทถูกนำไปฝังที่สุสานคาทอลิกไพน์โกรฟ ในทะเลสาบคาสส์ รัฐมินนิโซตา บ้านเกิดแห่งเดียวที่เขาอยู่มาตลอดชีวิต โดยป้ายหลุมศพระบุปีเกิดเป็น 1784
โดยสรุป กุญแจสำคัญที่จะช่วยไขปริศนาคือปีเกิดที่แท้จริงของคุณปู่ แต่เหตุการณ์มันก็ผ่านมานานมากกว่า 200 ปีแล้ว ไม่มีหลักฐานบันทึกน่าเชื่อถือ ประกอบกับคำกล่าวที่ชวนสับสนด้านเวลา อาจะเป็นความทรงจำที่ผิดพลาดของคุณปู่เอง
ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้อายุที่แท้จริงนอกจากตัวปู่สมิธเอง อายุของเขาจึงไม่ได้ถูกยอมรับว่าในฐานะชายที่มีอายุยืนที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา และเรื่องนี้จะยังคงเป็นปริศนาต่อไป จนกว่าจะมีคนสร้างไทม์แมชชีนเพื่อย้อนกลับไปในวันที่คุณปู่ลืมตาดูโลก
เรียบเรียงโดย : สโมสรสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา