เต๋าเต็กเก็ง
บทที่ 79
第七十九章
和大怨，必有餘怨，安可以為善？
是以聖人執左契而不責於人。
故有德司契，無德司徹。
天道無親，恆與善人。
เต๋าเต๊กเกง
บทที่ ๗๙
ไกล่เกลี่ยความเคืองแค้นอันยิ่งใหญ่
ย่อมยังเหลือความเคืองแค้นอยู่
แล้วจะถือว่าเป็นวิธีการอันประเสริฐได้ไย?
ดังนั้นพระอริยเจ้า จะกุมต้นขั้วสัญญาโดยไม่เร่งรัดกับใคร
ดังนั้น
ผู้มีคุณธรรมจึงดูแลหนังสือสัญญา
ผู้ไร้คุณธรรมจึงกุมการเก็บอากร
อันเต๋าแห่งฟ้านั้นไร้ลำเอียง หากจะนิจเคียงสุชนแล
ไกล่เกลี่ยความเคืองแค้นอันยิ่งใหญ่
ย่อมยังเหลือความเคืองแค้นอยู่
แล้วจะถือว่าเป็นวิธีการอันประเสริฐได้ไย?
ความบาดหมางมีอยู่สองปัจจัย หนึ่งคือจุดยืน สองคือทัศนะ จุดยืนคือเรื่องของสถานะ ทัศนะคือเรื่องของวุฒิปัญญา
คนเราหากมีจุดยืนที่แตกต่าง ต่อให้มองในสิ่งเดียวกัน ก็ย่อมต้องมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ในการนี้ แม้นมีจุดยืนที่ต่างกัน แต่หากมีทัศนะที่ปลอดอคติ ใช้วุฒิปัญญาเข้าพิจารณา โดยไม่ใช่สักแต่เชื่อดวงตาที่มองเห็น เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้มีจุดยืนที่แตกต่าง ก็ย่อมจะเล็งเห็นผลลัพธ์ที่เป็นความจริงได้
อนึ่ง หากมีจุดยืนที่ไม่ต่าง แต่กลับมีทัศนะที่เป็นคติที่แตกต่างกันแล้ว ผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันเป็นแน่แท้ กล่าวคือ ฝ่ายหนึ่งมีวุฒิปัญญาสูงที่เป็นใจปลอดอคติ จึงเห็นความจริงที่กระจ่าง แต่หากอีกฝ่ายมีวุฒิปัญญาต่ำที่มีใจอคติ ก็จะทำให้มองเห็นเป็นอีกผลลัพธ์ที่ถูกบิดเบือน
ดังนั้น อันเรื่องราวทั้งหลาย เพียงต่างมุมมอง ต่างความคิด ต่างมาตรฐาน ต่างภูมิหลัง ต่างชาติพันธุ์ ต่างกาลเวลา ต่างสถานที่ ต่างอารมณ์ ต่างค่านิยม ต่างวัฒนธรรม ฯลฯ ก็จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกันแล้ว นั่นก็เพราะเป็นการมองด้วยเปลือกนอกที่ตา หากแต่มิใช่เป็นการมองด้วยวุฒิปัญญาที่ใจ แลตัวที่กำหนดความสูงต่ำของวุฒิปัญญาจนเกิดความแตกต่าง ก็คือกิเลสที่ทำให้เกิดความอคติที่แตกต่างกันนั่นเอง
ด้วยเพราะเหตุผลนี้ ความแค้นเคืองที่ก่อตัว ต่อให้ไกล่เกลี่ยจนสิ้นความแล้ว สุดท้ายความแค้นเคืองย่อมยังอยู่ เสมือนหนึ่งเชื้อไฟระอุที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกผิวที่เย็นตัว แลรอก่อตัวให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งนั่นเอง
ดังนั้น หากสักแต่ไกล่เกลี่ยความแค้นเคืองที่เปลือกนอก โดยหาได้ขุดรากแห่งอคติที่ภายในแล้ว วิธีการนี้จะเป็นวิธีการที่ประเสริฐได้ไย?
ดังนั้นพระอริยเจ้า
จะกุมต้นขั้วสัญญาโดยไม่เร่งรัดกับใคร
การสลายความเคืองแค้น จะต้องสลายที่ใจ เพราะต้นเหตุแห่งความเคืองแค้นนั้นก็คือใจที่มีความอคตินั่นเอง แลผู้ที่จะทำการสลายที่ต้นรากแห่งความเคืองแค้นนั้นลงได้ ก็คงจะเป็นแต่พระอริยเจ้าเท่านั้น
ด้วยเพราะพระอริยเจ้าคือผู้ที่ทรงเมตตาการุณย์อันยิ่งใหญ่ แลมีแต่เพียงแสงแห่งความเมตตาการุณย์นี้เท่านั้นที่จะสลายความขับข้องหมองใจลงได้ ด้วยเพราะพระอริยเจ้าคือผู้ที่ทรงพระบารมีอันอุกฤษฏ์ แลมีแต่เพียงพระบารมีอันอุกฤษฏ์นี้เท่านั้น ที่จะสลายกิเลสที่เป็นต้นรากแห่งความเคืองแค้นนั้นลงได้
ด้วยเพราะเหตุนี้ พระอริยเจ้าจึงเปรียบเสมือนผู้กุมต้นขั้วสัญญาที่พร้อมให้โอกาสโดยไม่เร่งรัดทักทวงกับใคร ด้วยเพราะพระอริยเจ้าได้เปี่ยมด้วยพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นท่านจึงให้โอกาสได้กลับตัวอย่างอดทน แลคอยประศาสน์คุณธรรมให้ซึมซับเข้าไปอยู่ในหัวใจของปวงชนอย่างไม่ย่อท้อ
ดังนั้น
ผู้มีคุณธรรมจึงดูแลหนังสือสัญญา
ผู้ไร้คุณธรรมจึงกุมการเก็บอากร
ด้วยเพราะเหตุนี้ ผู้มีคุณธรรมจึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง ด้วยเพราะผู้ปกครองที่ทรงคุณธรรม จึงจะสามารถสลายความเคืองแค้นแห่งปวงประชาลงได้ หากปล่อยให้ผู้ไร้คุณธรรมทำหน้าที่ปกครองปวงประชา ไม่เพียงแต่จะมิสามารถสลายความเคืองแค้นลงได้เท่านั้น หากแต่ยังจะยิ่งตอกย้ำให้เกิดความแตกแยกสาหัสมากขึ้นไปอีก ดังนั้น ผู้มีคุณธรรมจึงทำหน้าที่ปกครอง ส่วนผู้ไร้คุณธรรมก็ทำหน้าที่รับสนองบัญชา
ยามผู้มีคุณธรรมเป็นผู้ปกครอง ผู้ไร้คุณธรรมเป็นผู้ใต้บัญชาแล้ว ในยามนี้ ผู้ปกครองจะประหนึ่งลม ส่วนผู้ใต้ปกครองจะประหนึ่งหญ้า หญ้าที่อยู่ใต้ลม ย่อมล้มลู่ตามลมเป็นแน่แท้
อันเต๋าแห่งฟ้านั้นไร้ลำเอียง
หากจะนิจเคียงสุชนแล
เต๋าแห่งฟ้าจะสถิตซึ่งความยุติธรรม ไม่มีเลือกที่รัก ไม่มีมักที่ชัง ยามฟ้าประสาทสายฝนและแสงแดดในปฐพี ฟ้าก็ไม่เคยลำเอียงที่จะให้สายฝนแสงแดดกับผู้ใดอย่างจงใจ หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ใดอย่างเจตนา ทั้งหมดล้วนได้รับโอกาสอย่างทัดเทียมกันเสมอ
ฟและแม้นฟ้าจะไม่เลือกที่รักมักที่ชังก็จริง แต่ฟ้าก็มักจะปกป้องคุ้มครองคนดี คอยสนับสนุนคนดี แลคอยช่วยเหลือเกื้อกูลให้คนดีได้เข้าถึงเต๋าอย่างแท้จริง
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
