13 ก.ค. 2021 เวลา 01:44 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จับตามองนโยบายรัฐบาล หลังประเทศไทยถอยหลังกลับมาที่เดิม
จับตามองนโยบายรัฐบาล และมาตรการเยียวยาหลังประกาศล็อกดาวน์
📌 เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังจากที่เคยใช้มาตรการดังกล่าวในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นมากนับตั้งแต่มีการระบาดระลอกที่ 3 และระบบสาธารณสุขไทยกำลังเข้าใกล้ขั้นล่มสลาย
จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในไทย
📌 ทำไมถึงใช้เวลานานกว่าจะล็อกดาวน์? ประเทศไทยเคยมีประสบการณ์การล็อกดาวน์มาแล้วในปีก่อน และได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ว่าสามารถป้องกันโรคระบาดได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในปีนี้ประเทศไทยกลับถูกจัดอันดับให้อยู่ลำดับท้าย ๆ ในด้านการจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาด การแจกจ่ายวัคซีน และการเคลื่อนไหวทางสังคมโดย Nikkei COVID-19 recovery (ไทยเป็นอันดับที่ 118 จาก 120 ประเทศ) ซึ่งแน่นอนว่านี่จะเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล
📌การที่รัฐบาลสื่อสารไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน ทำให้ความเชื่อมั่นลดลง น่าแปลกใจที่ประเทศไทยได้รับอนุญาตให้ผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าในประเทศ แต่แผนการแจกจ่ายวัคซีนกลับไม่มีประสิทธิภาพและสร้างความสับสนให้กับประชาชน ในตอนนี้คนไทยที่ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วมีเพียงร้อยละ 12 เท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อยู่มาก
สัดส่วนของผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด - 19 อย่างน้อย 1 เข็ม
จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น การล็อกดาวน์ และการแจกจ่ายวัคซีนที่ล่าช้า เศรษฐกิจไทยจึงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากเดิมที่ทางธนาคารกรุงเทพมองว่า GDP ปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 1 – 2 แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ทางเรามองว่าอาจจะมีการปรับลดได้ในอนาคตหากการแพร่ระบาดยังไม่สามารถควบคุมได้
📌นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่การระบาดระลอกที่ 3 เริ่มต้นขึ้น เรายังไม่เห็นการออกมาตรการเยียวยาที่ตรงจุด และทันการ สำหรับการช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตามทางเราก็มองว่าทางรัฐบาลจะยังคงมีมาตรการสนับสนุนในรูปแบบคล้าย ๆ เดิมเช่น การให้เงินช่วยเหลือทางตรง การลดหย่อนภาษี การลดค่าสาธารณูปโภค และการพักชำระหนี้อย่างที่เคยทำในปีที่แล้วออกมาเร็วๆนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ระดับใกล้เคียงกับเพดานที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 60 แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลเนื่องจากถ้าหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้จากนโยบายดังกล่าว หนี้สาธารณะต่อ GDP ก็อาจจะปรับลดลงมาได้
ดัชนี SET และค่าเงินบาท
📌รัฐบาลควรที่จะหลีกเลี่ยงการสร้างแผลเป็นให้กับระบบเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างเต็มที่และตรงจุด ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ เนื่องจากถ้าหากธุรกิจต่าง ๆ ล้ม การจ้างงานก็อาจจะลดลงตามไปด้วย โดยกรณีศึกษาจากประเทศอังกฤษพบว่าการที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือด้านการจ้างงาน ทำให้คนในประเทศอังกฤษกว่า 11 ล้านคนไม่ต้องตกงาน
1
Google Mobility ประเทศไทย
📌มาตรการทางการเงินยังมีความสำคัญต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ มาตรการพักชำระหนี้สำหรับสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเงินกู้เพื่อการพาณิชย์ยังคงเป็นนโยบายที่จำเป็น รัฐบาลควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในช่วงนี้ เพราะเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอนในระยะข้างหน้าหากมีการแจกจ่ายวัคซีนอย่างทั่วถึง
2
Global Economic Update
ผู้เขียน : บุรินทร์ อดุลวัฒนะ Chief Economist, Bnomics
ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
#Bnomics #เศรษฐศาสตร์ #Economics #เศรษฐกิจ #ล็อกดาวน์ #มาตรการเยียวยา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา