17 ก.ค. 2021 เวลา 01:30 • อาหาร
ส่องโลกของ “เต้าหู้” ความอร่อยที่ปฏิเสธไม่ได้ ในทุกมื้ออาหาร
เต้าหู้ หนึ่งในอาหาร ที่เราจะพบได้แทบจะเกือบทุกร้านอาหาร หรือ ทุกร้านสะดวกซื้อ จนบางทีกลายเป็นเมนูสั่งอาหารที่เรียกจนติดปากไปเลยก็บ่อย (เช่นแกงจืด “เต้าหู้” หมูสับ)
แล้วเรื่องราวของ “เต้าหู้” เป็นอย่างไรนะ ?
งั้นวันนี้พวกเรา InfoStory พร้อมกับ “เส่งเฮง เต้าหู้ใบตอง” จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกัน
เต้าหู้ คืออะไร ?
เต้าหู้ เป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ที่เกิดจากการแปรรูปของถั่วเหลือง อุดมไปด้วยโปรตีน
ลักษณะเป็นก้อนแข็งหรืออ่อนนุ่ม มีสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวนวล
เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า “เต้าหู้” กำเนิดมาตั้งแต่เมื่อไร ?
เต้าหู้ และ น้ำเต้าหู้ มีต้นกำเนิดที่นานมากกว่า 2,100 ปี โดยเชื่อกันว่ามีจุดเริ่มต้นมาจาก ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
ผู้ที่คิดค้นการแปรรูปถั่วเหลือง ก็คือ เจ้าชายหลิวอัน ในช่วงต้นราชวงส์ฮั่น
เจ้าชายต้องการที่จะหาเครื่องดื่มร้อน ที่จะช่วยบรรเทาอาการป่วยไข้ให้กับพระมารดาของเขา
ซึ่งในขณะนั้น พระมารดาป่วยหนัก ขนาดที่ไม่สามารถทำการเสวยเคี้ยวอาหารได้
เจ้าชายหลิวอัน เชื่อว่าถั่วเหลืองคือแหล่งโปรตีน และ มีคุณค่าทางสารอาหารชั้นเลิศ แต่เพราะพระมารดาไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ จึงต้องเคี่ยวถั่วเหลืองให้อยู่ในรูปที่กลมกลืนไปกับของเหลวอย่างน้ำซุป
เจ้าชายจึงได้สั่งให้พ่อครัวหลวง ทำการบดถั่วเหลือง และผสมเข้าไปในน้ำซุป พร้อมผสมเกลือเล็กน้อย
จึงได้ออกมาเป็นน้ำซุปถั่วเหลือง
หลังจากที่ปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง น้ำซุปถั่วเหลืองนี้ ก็จับตัวกันเป็นก้อนสีขาวดูนุ่มนวล
แถมรสชาตินั้นก็ออกมาอร่อยเลิศ จนพระมารดาถึงกับต้องยกนิ้วให้ (จริงๆแล้ว เขาไม่ได้ยกนิ้วหรอกนะ เราแค่นึกภาพตามน่ะ)
ก่อนที่ต่อมานวัตกรรมการแปรรูปอาหารจากถั่วเหลืองนี้ จะได้ถูกชาวจีนเรียกว่า “豆腐” อ่านว่า “โตวฟู” ส่วนคนฮกเกี้ยนเรียกว่า “ต๋าวหู”
และชื่อเรียกของเต้าหู้เนี่ย ก็ค่อย ๆ เริ่มเรียกกันหลากหลาย ที่แพร่ขยายไปตามเหล่าประเทศนักล่าอาณานิคมต่าง ๆ เช่น
คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โทฟุ (Tofu)
คนอังกฤษเรียก Bean Curd หรือบางครั้งก็เรียกทับศัพท์ว่า Tofu เช่นกัน
เรื่องชื่อเรียกของเต้าหู้ ก็ยังสะท้อนไปยังความเข้าใจในอีกหลากหลายมุมของชาติต่าง ๆ นะ เช่น
ชาวฝรั่งเศสเรียกว่าเต้าหู้ว่า “Fromage de soja (ชีสถั่วเหลือง)”
หรือ บางครั้งชาวจีนเรียกเต้าหู้ถั่วเหลือง ที่มีโปรตีนสูง เปรียบว่าเป็น “เนื้อไร้กระดูก”
ต่อเนื่องมาจากเรื่องราวของเต้าหู้ถั่วเหลืองที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอด
เพื่อน ๆ ยังทราบอีกไหมว่า เต้าหู้ถั่วเหลืองเนี่ย ไม่มีคอเลสเตอรอลนะ !
และเต้าหู้ยังมีสารเลซิติน ที่ได้มาจากถั่วเหลือง ซึ่งช่วยในการลดระดับไขมันที่ไม่ดี (LDL) และช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำอีกด้วยนะ
แต่ที่เราเข้าใจว่าเต้าหู้บางชนิดน่ะมีคอเลสเตอรอล
แบบนั้นก็ต้องย้อนกลับไปดูที่ส่วนผสมของเต้าหู้ ว่ามีอะไรอยู่บ้างเนอะ
(ยกตัวอย่างเช่น เต้าหู้ไข่ เต้าหู้ทอด)
ก็พอหอมปากหอมคอกับความเป็นมาของเต้าหู้
เราจะเห็นได้ว่าส่วนประกอบหลักของเต้าหู้เนี่ย ก็คือ “ถั่วเหลือง” ที่ถูกนำมาแปรรูปเนอะ
(อาจจะไม่ใช่กับเต้าหู้ไข่ เพราะส่วนใหญ่เต้าหู้ไข่จะไม่ได้ใช่ถั่วเหลืองเป็นเบส)
ทีนี้ มันก็จะมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับ “ถั่วเหลือง”
ซึ่งส่วนตัวพวกเราเคยได้ยิน กลุ่มคนที่บอกว่า “ทานถั่วเหลืองมากๆ แล้วเป็นมะเร็ง อย่าไปทานเยอะ”
อันนี้เราไม่แน่ใจ ว่ากลุ่มคนเหล่านั้น ไปเอาความเชื่อแบบนี้มาจากไหน...
แต่พวกเราคาดว่า มาจาก 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ
1. สารเคมีที่ตกค้างในผลิตภัณฑ์ทำให้เป็นมะเร็ง
2. ถั่วเหลืองและน้ำเต้าหู้ ทำให้เป็นมะเร็งเต้านม
อะ เรามาไขข้อข้องใจไปพร้อม ๆ กันเลย
สำหรับสาเหตุข้อกล่าวหาแรก เรื่องสารเคมีที่ตกค้าง
เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อถั่วเหลืองเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีปลูกแบบตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO โดยได้ใช้ร่วมกับยาฆ่าวัชพืชที่ได้รับการทดลองว่าฆ่าวัชพืชอื่นๆ กลับออกมาทำการทดลองโดยเอาสารที่อยู่ในยาฆ่าวัชพืชมาเพาะเลี้ยงในห้องแล็บ จึงทำให้เกิดความเชื่อและข้อกล่าวหาว่าสิ่งเหล่านี้ คือสารตกค้างที่จะอยู่ในถั่วเหลือง ซึ่งไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง
[ไขข้อข้องใจ ข้อกล่าวหาที่ 1] ว่า “ไม่เป็นความจริงทั้งหมด”
จริงอยู่ ที่สารตกค้างจากยาวัชพืชในถั่วเหลืองนั้น เป็นอันตราย
แต่ว่า มันไม่ได้เข้มข้นเหมือนกับกลุ่มถั่วเหลืองที่นำมาเพาะเลี้ยงในห้องแล็บ (ซึ่งมันไม่มีทางหลุดรอดออกมา อย่างที่เขาลือกัน)
ผลงานวิจัยจึงไม่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด และ ยังไม่มีการทดลองกับคนให้เห็นภาพจริงจังด้วย กล่าวโดยสรุปคือ ณ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยันชัดเจนว่าสารตกค้างในถั่วเหลือง จะทำให้เกิดมะเร็งได้จริงๆ
แล้วเพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ทุกวันนี้บริษัทผลิตเต้าหู้ถั่วเหลืองที่มีใบ Certificate หรือบางแห่งที่ผลิตเต้าหู้ออร์แกนิกเนี่ย เขาจะนำถั่วเหลืองอินทรีย์ปลอดสาร และ Non-Gmo มาใช้งาน
ซึ่งทำให้เรื่องราวข้อกล่าวหาแรก ไม่มีน้ำหนักไปในทันที
สำหรับสาเหตุข้อกล่าวหาที่ 2 เรื่องมะเร็งเต้านม
เรื่องมันเกิดขึ้น จากการเชื่อมโยงง่าย ๆ คือ
ถั่วเหลืองมีสารชื่อ “Isoflavones” มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะกระตุ้นเซลล์มะเร็งให้เจริญเติบโต....
[ไขข้อข้องใจ ข้อกล่าวหาที่ 2] ว่า “ไม่พบหลักฐานทางการแพทย์ ที่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง”
จากหลักฐานการทดลองที่พบในคน สรุปได้ว่า ถั่วเหลือง และน้ำเต้าหู้ ไม่ได้ทำให้คนเป็นมะเร็งเต้านม
และยังมีการทดลองของสถานบันวิจัย Memorial Sloan Kettering Cancer Center และ Weill Cornell Medical College ในคนไข้มะเร็งเต้านมระยะที่ 1 และ 2 จำนวน 140 คน ให้ลองบริโภคกินโปรตีนถั่วเหลือง เป็นอาหารหลัก เป็นระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับ คนอีกกลุ่มคือกลุ่มที่คนไข้มะเร็งเต้านมแต่ไม่ได้บริโภคโปรตีนถั่วเหลือง
ผลปรากฎว่ากลุ่มที่บริโภคถั่วเหลือง มีการเติบโตของมะเร็ง พอ ๆ กับกลุ่มที่ไม่ได้บริโภค
แต่เนื่องจากเรื่องราวการทดลองตรงนี้ มันมีระยะที่สั้นเกินไป แถมทดลองในผู้ป่วยที่เป็นโรคอยู่แล้ว จึงอาจเห็นผลไม่ชัดมาก
แต่อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาเพิ่มเติมทางการแพทย์ ที่ระบุในทางตรงกันข้ามว่า
กลุ่มคนที่กินถั่วเหลืองมาก ก็ยิ่งมีโอกาสในการเป็นมะเร็งเต้านมต่ำกว่าคนที่ไม่ได้กิน
เนื่องจาก ถั่วเหลือง มีฮอร์โมนจากพืชที่ชื่อว่า “ไฟโตเอสโทรเจน” ที่มีการวิจัยพบว่ามีผลในการป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อผู้หญิงวัยทองคือช่วยชะลอภาวะหมดประจำเดือนและลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม
และยังมีการอ้างอิงถึง สถิติของคนญี่ปุ่นและคนจีน ที่นิยมบริโภคเต้าหู้ถั่วเหลือง ก็ยังมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งเต้านมที่ต่ำ อีกด้วยนะ
หมายเหตุ : ซึ่งเรื่องราวข้อมูลดังกล่าว มีบางส่วนได้ถูกอ้างอิงจาก นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัว หัวหน้าศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาลพญาไท 2
ต่อมา อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงก็คงจะทำให้เนื้อเรื่องไม่สมบูรณ์
เพราะพวกเราอุตส่าห์พูดเรื่องราวของความเชื่อที่ผิด และ ความจริงที่ถูกไปแล้ว
ก็คงต้องกล่าวถึง เทรนด์สายสุขภาพอย่าง “เต้าหู้ออร์แกนิก” ที่กำลังเป็นที่ถูกพูดถึงอยู่ในเวลานี้
พวกเราคิดว่า เพื่อน ๆ หลายคน คงเคยได้ยินจากโฆษณาตามแบรนด์เต้าหู้ต่าง ๆ
ที่มีการหยิบชื่อของ “เต้าหู้ออร์แกนิก” มาใช้งาน
แล้ว “เต้าหู้ออร์แกนิก” เรื่องนี้ มันจริง หรือ แค่สร้างเรื่องราวขึ้นมา ?
คำตอบก็คือ “เป็นเรื่องจริง” จ้า
ในส่วนตรงนี้พวกเราก็ไม่รอช้า ได้ทำการสอบถามสัมภาษณ์เพิ่มเติมกับคุณสปอนเซอร์ผู้ผลิตเต้าหู้ออร์แกนิกของเราในบทความนี้ อย่าง อย่างแบรนด์ “เส่งเฮง เต้าหู้ใบตอง”
ก็ทำให้พวกเราเข้าใจ และ จะมาสรุปให้เพื่อน ๆ เข้าใจกันตาม ดังนี้นะ
เต้าหู้ออร์แกนิก คือเต้าหู้ที่ทำจากวัตถุดิบ “ถั่วเหลืองออร์แกนิก” ที่ได้รับการรับรอง เป็นถั่วเหลืองอินทรีย์ปลอดสาร และ Non-Gmo
และก็ ไม่ใช่ว่า ใคร ๆ จะสามารถกล่าวเรียกตัวเองได้ว่า เป็นผู้ผลิตเต้าหู้ออร์แกนิก ได้ง่าย ๆ
เพราะบริษัทผู้ผลิตเต้าหู้ออร์แกนิก จะต้องได้รับใบรับรอง ด้วยนะ !
คือเจ้าใบรับรอง นี้ ก็จะได้มาจาก ขั้นตอนกระบวนการผลิตเต้าหู้ออร์แกนิก ที่ตรงตามมาตรฐาน ของสหภาพยุโรป และ มาตรฐาน GMP/HACCP
ซึ่งจะต้องถูกตรวจสอบขั้นตอนตั้งแต่แหล่งเพาะปลูก ระบบเกษตรอินทรีย์
ว่าต้องไม่มีการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง ฆ่าหญ้า ปุ๋ยเคมี สารปฏิชีวนะ การปนเปื้อน และไร้ซึ่งการตัดแต่งพันธุกรรมใดๆ
จนไปถึงการตรวจสอบสถานที่เก็บวัตถุดิบ โรงงานที่ผลิต ขั้นตอนการผลิตเต้าหู้ ในทุกวิธีเลย
ทั้งหมดก็เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการปนเปื้อนใดๆ จนเป็นสินค้าออร์แกนิก
โดยทั้งหมดนี้จะได้รับการรับรองจากสหภาพยุโรป
เมื่อผ่านแล้ว ก็จะได้รับใบรับรองและมีสัญลักษณ์ตราใบไม้เขียวข้างผลิตภัณฑ์ นั่นเองจ้า
ตราใบไม้เขียวแบบนี้
สุดท้ายนี้ ขอพวกเราเกริ่นสั้น ๆ เกี่ยวกับบริษัทเส่งเฮงเต้าหู้
เผื่อเพื่อน ๆ ที่อ่านจบบทความเรื่องราวสบายสมองสไตล์ InfoStory นี้แล้ว
เกิดอยากลองของอร่อย ๆ ขึ้นมา จะได้ตามไปจัดหามาทานกันได้
เส่งเฮง เต้าหู้ใบตอง เป็นธุรกิจที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า 60 ปี แล้ว ก่อตั้งโดยสองสามีภรรยาเชื้อชาติจีน ด้วยเคล็ดลับในการผลิตเต้าหู้แบบดั้งเดิม ทำให้เต้าหู้มีรสชาติเข้มข้นจากถั่วเหลืองแท้ๆ มีผิวและเนื้อที่เนียนนุ่ม โดยไม่ใช้สารปรุงแต่งเพิ่มเติม
โดยชื่อ “เส่งเฮง” เป็นภาษาจีน มีความหมายว่า ความเจริญรุ่งเรือง และความโชคดี โดยการเลือกใช้ชื่อนี้ ก็เพื่อจะต้องการให้ผู้บริโภคได้รับความโชคดีด้วยเช่นกัน
 
ยิ่งอายุเยอะ ก็ยิ่งเก๋าประสบการณ์
เพราะบริษัทเส่งเฮงเต้าหู้ ได้ทำการพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน โดยเน้นการโอบกอดปรับตัว ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมไปถึงมาตรฐานการผลิตที่ได้การรับรองจากนานาชาติ
(มีใบรับรอง ของ เต้าหู้ออร์แกนิกจากสหภาพยุโรป และ มาตรฐาน GMP/HACCP ด้วยนะจ้า)
ทั้งหมดก็เพื่อทำให้เส่งเฮง เป็นเต้าหู้ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
จุดเด่นของเต้าหู้เส่งเฮง ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ลูกค้าติดใจมากที่สุด คือเป็นเต้าหู้สูตรจีนโบราณ เนื้อเนียนนุ่ม เต้าหู้สดในใบตอง เต้าหู้เหลืองนิ่ม และ เต้าหู้ขาวแข็งออร์แกนิกไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่ใส่ผงชูสหรือสารปรุงแต่งรสชาติใด ๆ และ ไม่มีโซเดียม นะจ้า
พวกเราลองทานแล้ว ขอยกนิ้วให้เลย ! (อันนี้พวกเรายกจริง ๆ นะ)
แม้ว่า กาลเวลาจะเปลี่ยนผ่านไปมากเท่าไร…
จุดที่น่าสนใจคือ เส่งเฮง ยังคงรักษาเอกลักษณ์การใช้ใบตอง ในการห่อหุ้มเต้าหู้สดเอาไว้ เหมือนเช่นในอดีต
เพื่อส่งต่ออัตลักษณ์นี้ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงวิถีคนรุ่นก่อน
กับชื่อที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง “เส่งเฮง เต้าหู้ใบตอง”
แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
-ขอขอบคุณข้อมูลจาก เส่งเฮงเต้าหู้ใบตอง
โฆษณา