นิยายเรื่อง READY PLAYER ONE ของ Ernest Cline เล่าเรื่องราวของโลกอนาคตในปี 2045 ผ่านมุมมองของเวด วัตส์ เด็กหนุ่มกำพร้าอายุ 17-18 ปี ตอนที่แม่ของเวดจากไป ป้าอลิซรับอุปการะเขาเพื่อเอาคูปองอาหารของเวดจากรัฐบาลเท่านั้น ส่วนเวดต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยความรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์เอง
ถึงจะถูกเอาเปรียบแต่การมีที่ซุกหัวนอนก็เป็นเรื่องที่พอรับได้ เวลานี้ผู้คนไม่สนใจใยดีต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและความเหลื่อมล้ำ พวกเขาหมกตัวอยู่แต่ในโลกเสมือนจริงโอเอซิสที่เจมส์ ฮอลิเดย์ สร้างขึ้น
ตัวอย่างหนึ่งของปัญหาในโลกยุคนั้นคือสลัมที่เวดอาศัยอยู่ มันคือสุสานรถยนต์ที่เจ้าของเอามาจอดทิ้งไว้เพราะไม่มีปัญญาจ่ายค่าน้ำมัน ผู้คนที่ไร้บ้านรวมตัวกันอยู่อาศัยตามเขตสุสานรถนี้ สร้างที่อยู่อาศัยสูงขึ้นไปบนฟ้าด้วยส่วนของรถพ่วงหรือวัสดุที่หาได้ในบริเวณนั้นและเรียกมันว่า “แสต็ก”
สิ่งหนึ่งที่เป็นแรงจูงใจและจุดมุ่งหมายในชีวิตของเวดก็คือการตามล่าไข่อีสเตอร์หรือ “The hunt” ที่เริ่มขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้วนับตั้งแต่เจมส์ ฮอลิเดย์ เสียชีวิต พินัยกรรมของเขาระบุว่าจะมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ผู้ที่ไขความลับค้นพบไข่อีสเตอร์ที่เขาซ่อนไว้ในโอเอซิส ซึ่งทรัพย์สินที่ว่านั้นคือหุ้นของ Gregarius Simulation System บริษัทที่เป็นเจ้าของโอเอซิส เป็นบริษัทใหญ่โตและมีความมั่นคงเป็นอันดับหนึ่งของโลก
เนื้อเรื่องในนิยายแตกต่างจากภาพยนตร์มาก เวดยังเรียนไม่จบและอวตารของเขา Parzival บนดาวลูดัสก็กระจอกงอกง่อย ไร้ซึ่งอาวุธหรือชุดเกราะดี ๆ สำหรับฆ่ามอนสเตอร์เพิ่มเลเวล ทว่าหลังจากไขปริศนาแรกได้และเจอกับอาร์ทิมิส (Art3mis) ชะตาชีวิตของเขาก็พลิกผัน พาร์ซิวัลกลายเป็นอวตารชื่อดังในชั่วข้ามคืน โนแลน ซอเรนโต หัวหน้าแผนกค้นหาไข่อีสเตอร์ (Oology) ของบริษัทไอโอไอ (Innovative Online Industry) พยายามทำทุกอย่างเพื่อตามล่าและกดดันให้เขาบอกวิธีไขปริศนาซึ่งรวมถึงการพยายามฆ่าเขาด้วย
ในภาพรวม นิยาย New York Times No. 1 Bestseller เรื่องนี้ดีงามตามคำนิยม การบรรยายฉากต่าง ๆ ของเรื่องตามความรู้สึกนึกคิดของเวดช่วยให้คนอ่านเห็นภาพโลกอันสิ้นหวังหรือดิสโทเปียอย่างชัดเจน จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะเมินเฉยกับโลกภายนอกหรือความเป็นจริงตรงหน้าแล้วหลบหนีไปอยู่ในโอเอซิสหรือโลกเสมือนทั้งวันทั้งคืน
เนื้อเรื่องในช่วงต้นอาจเฉื่อยชาสักหน่อยแต่มันจะลุ้นระทึกขึ้นเมื่อเวดเริ่มไขปริศนาและพบที่ซ่อนกุญแจดอกแรก หลังจากนั้นก็เหมือนรถที่เหยียบคันเร่งจมมิดเท้า มีเบรกและหักหลบบ้างเป็นระยะ ทำให้เราลุ้นระทึกและรู้สึกสะเทือนใจ ไปจนเราเห็นใจเวด เอาใจช่วยให้เขารอดพ้นจากอุปสรรค
อย่างไรก็ดี เวดไม่ใช่พระเอกพ่อพระ เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดในสังคมสลัม แม้จะมีพื้นฐานจิตใจที่ไม่ใช่คนเลวและไม่เป็นพิษภัยกับใคร แต่บางครั้งเขาก็แสดงออกและตอบโต้อย่างหยาบคายอยู่บ้าง
Wade is a bit weird people.
นอกจากนี้ผู้เขียนยังเพียรพยายามใส่หลายสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมป็อปปูล่าของอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1980 ลงในนิยาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวีดีโอเกม ความ Nostalgia หรือการหวนรำลึกถึงอดีตอย่างชื่นชมนี้อาจเป็นจุดที่ขื่นขมจนถึงขั้นแปลกปลอมสำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้สัมผัสสิ่งเหล่านั้นมาก่อนอย่างเช่นผม กลายเป็นว่าอรรถรสของนิยายจืดจางลง 30-40% และยิ่งเกลียดมากเมื่อเวดเน้นย้ำซ้ำ ๆ เรื่อง Learn it by heart
ถ้าผมจะมีคำพูดที่บอกไปถึงเวดได้ ผมก็อยากให้เขารับรู้ว่า
“ผม hurt มากกับวลีนั่น และมันไม่ช่วยอะไรเลย”
⭐️
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
