24 ก.ค. 2021 เวลา 11:16 • ปรัชญา
เต๋าเต๊กเกง บทที่ ๕๑
第五十一章
道生之,德畜之,物形之,勢成之。
是以萬物莫不尊道而貴德。
道之尊,德之貴,夫莫之命而常自然也。
故道生之,德畜之,長之育之,亭之毒之,養之覆之。
生而弗有,為而弗恃,長而弗宰,是謂玄德。
บทที่ ๕๑
เต๋าให้กำเนิด คุณธรรมให้การหล่อเลี้ยง
วัตถุก่อให้เป็นรูปร่าง เดชะทำให้สัมฤทธิ์ผล
ดังนั้นสรรพสิ่งจึงไม่มีที่จะไม่เทิดเต๋าแลทูนคุณธรรม
การที่เต๋ามีความสูงส่ง คุณธรรมมีความล้ำค่า
ก็เพราะมิได้บงการ จึงคงธรรมชาติเป็นนิรันดร์แล
ดังนั้น เต๋าให้กำเนิด คุณธรรมให้การหล่อเลี้ยง
ดูแลซึ่งสรรพสิ่ง บ่มเพาะซึ่งสรรพสิ่ง
อุ้มชูซึ่งสรรพสิ่ง บริบาลซึ่งสรรพสิ่ง
ฟูมฟักซึ่งสรรพสิ่ง ปกป้องซึ่งสรรพสิ่ง
กำเนิดโดยไม่ครอง กระทำโดยไม่พึ่ง หล่อเลี้ยงโดยไม่บงการ
นั่นคือคุณธรรมอันวิเศษแล
เต๋าให้กำเนิด คุณธรรมให้การหล่อเลี้ยง
สรรพสิ่งในใต้หล้าจะต้องประกอบด้วยสองคุณลักษณะ คุณลักษณะหนึ่งคือแก่น อีกคุณลักษณะหนึ่งคืออานุภาพ แก่นคือประธาน อานุภาพคือพลังที่แสดงออกแห่งประธานนั้น แก่นคือส่วนใน อานุภาพคือส่วนนอก แก่นคือหลักของอานุภาพ อานุภาพคือการแสดงออกของแก่น ไร้แก่นมิอาจมีอานุภาพ ไร้อานุภาพก็มิอาจเห็นซึ่งประโยชน์ของแก่น
แก่นและอานุภาพเป็นสองสิ่งในสิ่งเดียว แยกจากกันไม่ได้ อยู่อย่างเป็นเอกเทศก็ไม่ได้ สองสิ่งจะเอื้อซึ่งกันและกัน และกระทบซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น แก้วน้ำคือแก่น การใส่น้ำคืออานุภาพของแก้ว ดินคือแก่น การให้ผลผลิต การเก็บกักน้ำ การสร้างอาคารบ้านอาศัยคืออานุภาพของดิน ไฟคือแก่น แสงที่เกิดจากไฟคืออานุภาพ เป็นต้น
สรรพสิ่งในโลกย่อมเป็นไปเช่นนี้ ทุกสิ่งเกิดมาจะต้องมีอานุภาพ มีประโยชน์ ต่อให้เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในสายตาของชาวโลก สุดท้ายก็ย่อมจะต้องมีประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในวงจรแห่งธรรมชาติเป็นแท้ นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างแก่นและอานุภาพ
สรรพสิ่งที่มีความสัมพันธ์ของแก่นและอานุภาพเป็นฉันใด เต๋าที่เป็นเอกแห่งสากล เป็นต้นกำเนิดแห่งสรรพสิ่ง ก็ย่อมเป็นฉันนั้นดุจเดียวกัน เต๋าเป็นแก่น คุณธรรมเป็นอานุภาพแห่งเต๋า เต๋าให้กำเนิดสรรพสิ่ง เป็นหลักของสรรพสิ่ง ส่วนคุณธรรมก็ทำหน้าที่ในการหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งให้เติบใหญ่ บำรุงสรรพสิ่งให้มีชีวิตชีวา
คุณธรรมคืออานุภาพแห่งเต๋า เต๋าเป็นแก่นแห่งคุณธรรม คุณธรรมนั้นไร้รูปลักษณ์ คือพลานุภาพที่แสดงออกแห่งเต๋า เป็นพลังที่บำรุงสรรพสิ่ง ผลักดันสิ่งเลวร้ายให้มลาย เป็นพลังที่จับต้องได้ยาก แต่จะแสดงออกให้เราเห็นในรูปของความกตัญญู ความจงรักภักดี ความมีสัจจะ ความสุจริตยุติธรรม และอื่นๆ อีกมากมายสุดที่จะพรรณนาสิ้น ดังนั้นผู้ที่เข้าถึงเต๋า จึงพึงบำเพ็ญคุณธรรมทั้งปวงให้ถึงพร้อม ปฏิบัติคุณธรรมทั้งปวงให้สมบูรณ์ เช่นนี้จึงจะเข้าถึงเต๋าได้
คุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋ามีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ผู้คนไม่รู้จักพลังที่คอยหนุนนำสรรพสิ่งในโลกหล้านี้ เหลาจื่อจึงเรียกพลังที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋านี้ว่า “คุณธรรม”
คุณธรรมทำหน้าที่ในการทำนุบำรุงสรรพสิ่ง หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง ผู้คนรู้จักพลังนี้ในรูปแบบของความกตัญญู ความจงรักภักดี ความมีสัจจะ ความมีเมตตา และอื่นๆ เป็นพลังที่มิอาจจับต้องมองเห็น หากแต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจ ในสมัยราชวงศ์ซ้อง ก็มีขุนนางผู้มีใจอาจหาญท่านหนึ่งนามว่าเหวินเทียนเสียง ก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของพลังแห่งคุณธรรมนี้
ในสมัยนั้น เหวินเทียนเสียงเป็นขุนนางตงฉินที่ถูกขังในคุกใต้ดินเป็นเวลานานถึงห้าปี หลายคนมิอาจทนอยู่กับสภาพอันโหดร้ายภายในคุกจนเจ็บป่วยล้มตายไปเป็นจำนวนมาก สาเหตุเพราะต้องทนทุกข์ทรมานกับพลังร้ายในคุกใต้ดินถึงเจ็ดอย่าง เหวินเทียนเสียงเรียกพลังทั้งเจ็ดนี้ว่าเจ็ดพิษร้าย ประกอบด้วยพิษน้ำ พิษดิน พิษแดด พิษไฟ พิษข้าว พิษไคล พิษศพ ทุกคนต่างมิอาจทนอยู่กับสภาพของพิษร้ายทั้งเจ็ดนี้ได้ หากจะมีเหวินเทียนเสียงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังสามารถหยัดยืนมั่นคงในท่ามกลางพิษทั้งเจ็ดนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน เหวินเทียนเสียงสันนิษฐานว่าต้องมีพลังอยู่อย่างหนึ่งที่คอยทานพิษทั้งเจ็ดนี้ไว้ ท่านไม่รู้ว่าพลังในท่ามกลางฟ้าดินนี้คือสิ่งใด จึงเรียกพลังนี้ว่าเจิ้งชี่ หรือก็คือพลังเที่ยงธรรม เรียกสั้นๆ ว่าพลังธรรม
พลังธรรมที่เหวินเทียนเสียงพบคือรูปแบบหนึ่งของพลังคุณธรรมแห่งเต๋านี้ คุณธรรมนี้เป็นพลังที่คอยหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง ไร้รูปไร้ลักษณ์ มีอยู่ทุกแห่งหน เป็นพลังที่ต่อต้านสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย ยามที่จิตใจของผู้คนมีความเมตตาอันสูงส่ง มีความกตัญญูอันยิ่งใหญ่ มีสัจจะวาจาที่เข้มแข็ง มีความจงรักภักดีอย่างไม่ห่วงกายา มีจิตกรุณาอารียิ่งเทียมฟ้า ยามนั้น คนผู้นี้ก็จะเป็นผู้ที่เข้าถึงเต๋า ด้วยเพราะคุณธรรมต่างๆ ที่เขาได้บำเพ็ญเพียรมา แท้ก็คือพลังคุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋านี้นั่นแล
วัตถุก่อให้เป็นรูปร่าง เดชะทำให้สัมฤทธิ์ผล
ครั้นวัตถุหนึ่งได้กำเนิดขึ้น วัตถุนั้นจะประกอบด้วยรูปร่าง สีสัน และเนื้อสัมผัส นอกจากรูปร่าง สีสัน และเนื้อสัมผัสแห่งวัตถุที่ปรากฏออกในลักษณะที่สามารถเห็นแลจับต้องได้แล้ว เบื้องหลังแห่งวัตถุนั้นก็จะยังมีรายละเอียดที่ไม่สามารถเห็นหรือจับต้องแฝงอยู่อีกมากมาย เราเรียกว่า “ลักษณ์” นั่นเอง
ลักษณ์ของวัตถุหนึ่งมีหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่นแก้วหนึ่งใบ ลักษณ์ก็จะมีเนื้อสัมผัสเรียบรื่นหรือหยาบกระด้าง ความร้อนเย็นของตัวแก้ว ความนุ่มแข็งของวัสดุ สีสันที่ฉูดฉาดหรือเรียบง่ายบนพื้นผิว และยังมีอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อแก้วใบนี้ คนดูอาจจะรู้สึกหลงใหลเคลิบเคลิ้ม อาจจะรู้สึกชิงชังรังเกียจ อาจจะรู้สึกพิศวาสวิปราส เป็นต้น ดังนั้น ครั้นวัตถุทั้งปวงได้ถืออุบัติ วัตถุเหล่านั้นย่อมจะยังให้เกิดเป็นรูปและลักษณ์มากมายสุดที่จะพรรณนาให้สิ้นได้ ด้วยเพราะเหตุนี้ เหลาจื่อจึงกล่าวว่า “วัตถุก่อให้เป็นรูปร่าง”
ครั้นวัตถุหนึ่งๆ ได้อุบัติ นอกจากรูปและลักษณ์ของวัตถุนี้แล้ว ยังต้องมีอีกหนึ่งคุณลักษณะประกอบกัน นั่นก็คือเดชะ หรืออำนาจ หรือประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่นแก้ว แก้วใบนี้นอกจากจะประกอบด้วยรูปร่างหน้าตาที่จับต้องมองเห็น และในส่วนของลักษณะที่เป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกที่มองไม่เห็นแล้ว มันยังต้องมีอีกหนึ่งองค์ประกอบ นั่นก็คือเดชะ หรือก็คือประโยชน์ใช้สอยของแก้วใบนี้ เดชะหรือประโยชน์ใช้สอยของแก้วใบนี้ก็คือใช้สำหรับดื่มน้ำนั่นเอง
ดังนั้น เมื่อเต๋าสร้างวัตถุขึ้นมาสิ่งหนึ่ง คุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋าก็จะทำการหล่อเลี้ยง แลเมื่อวัตถุสิ่งนี้ก่อกำเนิดขึ้นเป็นรูปร่าง มันยังจะต้องมีอัตถะโยชน์ประจำตัวของมันอีกอย่างหนึ่ง วัตถุสิ่งนี้จึงจะนับว่าสำเร็จสมบูรณ์ขึ้นมาได้ เป็นต้นว่าดิน นอกจากรูปร่างของดินแล้ว ยังต้องมีอำนาจหรือประโยชน์แห่งดิน น้ำ นอกจากรูปร่างของน้ำแล้ว ยังต้องมีอำนาจหรือประโยชน์ของน้ำ เป็นต้น
ดังนั้นสรรพสิ่งจึงไม่มีที่จะไม่เทิดเต๋าแลทูนคุณธรรม
ด้วยเพราะเต๋าเป็นผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง อีกทั้งยังมีคุณธรรมที่เป็นอานุภาพแห่งเต๋าคอยเลี้ยง ดังนั้นสรรพสิ่งจึงมิอาจห่างจากเต๋าและคุณธรรมได้ หากสรรพสิ่งห่างจากเต๋าและคุณธรรม ด้วยแม้นจะเป็นเพียงเสี้ยววินาที ก็ย่อมจะต้องพังพินาศย่อยยับเป็นมั่นคง ด้วยเพราะเหตุนี้ สรรพสิ่งจึงเทิดเต๋าและทูนคุณธรรมนั่นเอง
การที่เต๋ามีความสูงส่ง คุณธรรมมีความล้ำค่า
ก็เพราะมิได้บงการ จึงคงธรรมชาติเป็นนิรันดร์แล
สุริยันแม้นประเสริฐ จันทราแม้นเลิศล้ำ แต่เต๋าและคุณธรรมยังประเสริฐเลิศล้ำยิ่งกว่า ฟ้าแม้นยิ่งใหญ่ ดินแม้นไพศาล แต่เต๋าและคุณธรรมก็ยังยิ่งใหญ่ไพศาลมากยิ่งกว่า เหตุที่เต๋าและคุณธรรมมีความประเสริฐเลิศล้ำยิ่งกว่า มีความยิ่งใหญ่สุดพรรณนามากยิ่งกว่า นั่นก็เพราะเต๋าและคุณธรรมมิได้ครอบครองแลบงการสรรพสิ่ง แลปล่อยให้สรรพสิ่งดำเนินไปตามวิถีแห่งธรรมชาตินั่นเอง
ธรรมชาติคือความสวยงาม ธรรมชาติคือความบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดจะงามสมบูรณ์เกินกว่าธรรมชาติรังสรรค์ได้อีกแล้ว เหตุที่ธรรมชาติสามารถรังสรรค์ศิลปะได้อย่างงดงามอย่างที่ไม่มีสิ่งใดสามารถทำได้ นั่นก็เพราะธรรมชาติไม่มีการยุ่งเกี่ยวและปล่อยให้สรรพสิ่งดำเนินไปตามวิถีที่ควรจะเป็นนั่นเอง
ธรรมชาติมีความสวยงามเพราะไม่มีสิ่งใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวฉันใด การที่เต๋าให้กำเนิดสรรพสิ่ง ไม่ถือครองบงการ แลปล่อยให้สรรพสิ่งเจริญไปตามธรรมชาติของมัน ก็เป็นฉันนั้น เพราะธรรมชาติได้ให้บทเรียนแก่เรามานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า ไม่ว่ามนุษย์จะทำการเลียนแบบธรรมชาติอย่างไร สุดท้ายก็มีแต่จะทำให้สิ่งที่รังสรรค์โดยมนุษย์ดูแย่ลงไปทุกที ธรรมชาติจึงสอนหลักอย่างหนึ่งให้เราได้รู้ว่า ไม่มีสิ่งใดจะประเสริฐเท่าการปกครองโดยไม่ปกครองอีกแล้ว แลการปกครองโดยไม่ปกครอง ก็คือวัตรแห่งอกรรมอันวิเศษแห่งเต๋านั่นแล เพราะที่สุดแล้ว การปกครองที่สุดประเสริฐ แท้ก็คือการปกครองโดยอกรรมนั่นเอง
ดังนั้น เต๋าให้กำเนิด คุณธรรมให้การหล่อเลี้ยง
ดูแลซึ่งสรรพสิ่ง บ่มเพาะซึ่งสรรพสิ่ง
อุ้มชูซึ่งสรรพสิ่ง บริบาลซึ่งสรรพสิ่ง
ฟูมฟักซึ่งสรรพสิ่ง ปกป้องซึ่งสรรพสิ่ง
ด้วยเพราะเต๋าให้กำเนิดสรรพสิ่ง และดูแลสรรพสิ่งด้วยหลักแห่งอกรรม ส่วนคุณธรรมที่เป็นอานุนุภาพแห่งเต๋าก็หล่อเลี้ยงบำรุงสรรพสิ่งด้วยหลักแห่งอกรรมเฉกเช่นกัน ด้วยการทำนุบำรุงสรรพสิ่งเช่นนี้ จึงจะนับว่าเป็นการทำนุบำรุงสรรพสิ่งที่จริงแท้ นอกเหนือจากนี้ก็มิอาจนับเป็นการทำนุบำรุงได้เลย หากแต่คือการทำร้ายต่างหาก
ดังนั้นจึงถือว่าเต๋าคือผู้ดูแลสรรพสิ่งอย่างแท้จริง บ่มเพาะสรรพสิ่งอย่างแท้จริง อุ้มชูสรรพสิ่งอย่างแท่จริง บริบาลสรรพสิ่งอย่างแท้จริง ฟูมฟักสรรพสิ่งอย่างแท้จริง แลปกป้องสรรพสิ่งอย่างแท้จริง
กำเนิดโดยไม่ครอง กระทำโดยไม่พึ่ง
หล่อเลี้ยงโดยไม่บงการ
นั่นคือคุณธรรมอันวิเศษแล
หลักการปกครองโดยอกรรม คือหลักการปกครองโดยไม่ยึดมั่น คือหลักการปกครองโดยไม่ดื้อรั้น คือหลักการปกครองที่ให้อิสระ คือหลักการปกครองที่ให้แสดงศักยภาพ แลนี่ก็คือการปกครองสรรพสิ่งแห่งเต๋า
การปกครองสรรพสิ่งแห่งเต๋า แม้เป็นผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง แต่เต๋าก็ไม่เคยยึดมั่นคิดครอบครอง แม้นเต๋าจะทำนุบำรุงสรรพสิ่งจนเติบใหญ่ แต่เต๋าก็ไม่คิดจะพึ่งพิงหวังผลตอบแทน แม้นเต๋าจะหล่อเลี้ยงดูแลสรรพสิ่งจนงอกงาม แต่เต๋าก็ไม่คิดจะครองไว้ใช้งาน นี่คือหัวใจแห่งอกรรม คือหัวใจแห่งการปกครองโดยไม่ปกครอง แลคือคุณธรรมอันวิเศษที่ผู้บำเพ็ญเต๋าพึงระลึกและน้อมนำไว้ในหัวใจ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา