25 ก.ค. 2021 เวลา 00:31 • ปรัชญา
เต๋าเต๊กเกง บทที่ ๕๔
第五十四章
善建者不拔,善抱者不脫,子孫以祭祀不輟。
修之於身,其德乃真;修之於家,其德乃餘;
修之於鄉,其德乃長;修之於邦,其德乃豐;
修之於天下,其德乃普。
故以身觀身,以家觀家,
以鄉觀鄉,以邦觀邦,以天下觀天下。
吾何以知天下之然哉?以此。
บทที่ ๕๔
ผู้ชำนาญการสร้าง ย่อมไม่โค่น
ผู้ชำนาญการประคอง ย่อมไม่หลุด
แลลูกหลานจักเซ่นสรวงไม่ขาดสาย
บำเพ็ญสู่ตน คุณธรรมจึงจริงแท้
บำเพ็ญสู่ตระกูล คุณธรรมจึงเหลือล้น
บำเพ็ญสู่นิคม คุณธรรมจึงยืนนาน
บำเพ็ญสู่ชาติบ้านเมือง คุณธรรมจึงเจริญ
บำเพ็ญสู่ใต้หล้า คุณธรรมจึงไพศาล
ดังนั้น ใช้กายพินิจกาย ใช้ตระกูลพินิจตระกูล
ใช้นิคมพินิจนิคม ใช้ชาติพินิจชาติ ใช้ใต้หล้าพินิจใต้หล้า
เหตุใดข้าจึงล่วงรู้ถึงความเป็นไปแห่งใต้หล้า
ก็ด้วยประการฉะนี้แล
ผู้ชำนาญการสร้าง ย่อมไม่โค่น
ผู้ชำนาญการประคอง ย่อมไม่หลุด
แลลูกหลานจักเซ่นสรวงไม่ขาดสาย
ผู้ชำนาญการสร้าง จะต้องรู้ดิน รู้น้ำ รู้ลม รู้แดด รู้คำนวณ รู้ประเมิน เมื่อมีความชำนาญรอบรู้ในศาสตร์เหล่านี้แล้ว ยามสร้างสิ่งใดย่อมจะมั่นคงไม่หักโค่นเป็นแน่แท้ ต่อให้ต้องประสบลมฝนเป็นเวลานับร้อยปี สิ่งก่อสร้างนี้ก็จะยังคงตระหง่านได้อย่างมั่นคง
แต่แม้นผู้ชำนาญการสร้างที่ปราดเปรื่องจะสร้างสิ่งปลูกสร้างที่อลังการเช่นกำแพงเมืองจีนที่มีอายุยืนยงได้นับพันปีก็จริง แต่สุดท้ายก็ยังต้องมีวันดับสลายในสักวันหนึ่ง หากจะมีเพียงการสร้างคุณธรรมอันประภัสสรเท่านั้นจึงจะเป็นที่กล่าวขานได้อีกตราบนานแสนนาน ด้วยแม้นกาลเวลาจะไหลเลื่อนไปนานนับหมื่นปี ตราบเท่าที่ยังมีมนุษยชาติ เรื่องราวแห่งคุณธรรมอันประภัสสรก็จะยังคงเป็นอมตะเคียงคู่ดินฟ้า หรือแม้นจะสิ้นซึ่งมนุษยชาติแล้ว คุณธรรมอันงดงามก็ยังคงเป็นที่จดจำในหมู่เทพยดา แลนี่ต่างหากจึงจะเรียกว่าไม่มีวันโค่นล้มอย่างแท้จริง
กำแพงเมืองจีนแม้นยืนยาว แต่ก็ยังมิอาจยืนยง จึงนับประสาอะไรกับการสร้างอำนาจชื่อเสียง สร้างบ้านสร้างคฤหาสน์เล่า เพราะแม้นจะสร้างไว้อย่างวิจิตรพิสดารให้ลูกหลานอย่างไร แต่สุดท้ายลูกหลานก็จะจดจำผู้สร้างในฐานะพ่อแม่ ฐานะปู่ย่าเท่านั้น ต่อจากนั้นความทรงจำในฐานะผู้สร้างก็จะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา โดยหาได้ระลึกและสำนึกถึงผู้สร้างในฐานะบรรพชนแต่อย่างใดไม่
ส่วนผู้ที่ชำนาญการประคอง ย่อมต้องเป็นผู้รู้หนักรู้เบา รู้ผ่อนรู้ดึง รู้ประเมินคุณโทษ เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการประคองสิ่งใดก็ย่อมจะประคองให้มั่นคงไม่หลุดล้มเป็นแน่แท้
แต่ไม่ว่าจะเป็นการประคองเสาคานก็ดี ประคองต้นพฤกษาก็ดี ประคองสัมพันธภาพก็ดี หรือจะเป็นการประคองชาติบ้านเมืองก็ดี เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เหตุปัจจัยหนึ่ง วาระหนึ่ง การประคองนี้ย่อมจะเสื่อมอานุภาพและล้มโค่นไปในที่สุด ด้วยเพราะการประคองด้วยสติปัญญา การประคองด้วยความสามารถ และการประคองด้วยพละกำลัง ย่อมมิอาจเหนือยิ่งกว่าการประคองด้วยบารมีอันอุกฤษฏ์ไม่
ด้วยเพราะบารมีคือพลานุภาพที่สร้างขึ้นด้วยคุณธรรมอันวิศุทธิ์ มีเพียงคุณธรรมอันวิศุทธิ์นี้เท่านั้นจึงจะสามารถประคองได้อย่างยืนยง และย่อมจะไม่หลุดร่วงลงไปเป็นแน่แท้ เพราะการประคองด้วยกำลัง กำลังมีวันสิ้นสุด และผู้ที่ถูกประคองด้วยกำลัง ย่อมมีความอึดอัดและอยากจะดิ้นหลุดออกไปทุกเช้าค่ำ ส่วนการประคองด้วยบารมี ผู้คนย่อมศิโรราบจำนนอยู่ภายใต้การปกแผ่แห่งบารมีโดยมิยอมห่างหายไปไหน ดังนั้นการประคองด้วยบารมี จึงย่อมเหนือว่าการประคองใดๆ ทั้งปวง
ด้วยเพราะการสร้างทรัพย์สินปราสาท สุดท้ายก็จะถูกช่วงชิงจากกาลเวลา การประคองด้วยปัญญาพละกำลัง สุดท้ายก็จะถูกยื้อแย่งจากเหตุปัจจัย หากจะมีเพียงการสร้างคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ ประคองด้วยบารมีอันไพศาลเท่านั้น จึงไม่มีสิ่งใดสามารถช่วงชิงยื้อแย่ง และย่อมเป็นที่สักการะเทิดทูนของลูกหลาน ด้วยแม้นกาลเวลาจะล่วงพ้นไปแล้วเนิ่นนาน อนุชนก็จะยังคงจดจำย้ำเตือนมิเคยเลือน
บำเพ็ญสู่ตน คุณธรรมจึงจริงแท้
บำเพ็ญสู่ตระกูล คุณธรรมจึงเหลือล้น
บำเพ็ญสู่นิคม คุณธรรมจึงยืนนาน
ด้วยการที่ผู้ทรงเต๋าจะไม่มุ่งสร้างเคหะวัตถุที่ภายนอก หากจะมุ่งบำเพ็ญสร้างคุณธรรมอันอุกฤษฏ์ที่ภายใน ผู้ทรงเต๋าจะไม่มุ่งประคองรูปลักษณ์ที่ภายนอก หากจะมุ่งบำเพ็ญประคองบารมีอันประภัสสรที่ภายใน ดังนั้น การบำเพ็ญสู่ตนเช่นนี้ จึงทำให้คุณธรรมภายในมีความจริงแท้ไม่เสื่อมสลาย
ทั้งนี้ ผู้มุ่งในเต๋าจะไม่เพียงแต่บำเพ็ญคุณธรรมตนให้จำเริญเท่านั้น หากยังจะมุ่งบำเพ็ญสู่วงศ์ตระกูลและครอบครัว กล่อมเกลาวงศ์ตระกูลให้อยู่ในหนทางแห่งเต๋า ด้วยการบำเพ็ญเช่นนี้จึงทำให้คุณธรรมมีความเหลือล้น และเป็นที่สักการะอภิวันท์ของอนุชนลูกหลานสืบไปอย่างยาวนาน
อนึ่ง ผู้ทรงเต๋าจะไม่หยุดเพียงบำเพ็ญคุณธรรมตนให้จำเริญ หรือบำเพ็ญคุณธรรมตนให้กว้างขวางเพื่อเชิดชูวงศ์ตระกูลเท่านั้น หากยังจะยกระดับคุณธรรมตนให้กว้างใหญ่ไปสู่นิคมบ้านเกิด ยังให้ผู้คนในนิคมต่างอาบอิ่มอยู่ในคุณธรรมอันบริสุทธิ์ ยังให้นิกรน้อยใหญ่ต่างมุ่งมั่นดำเนินในเส้นทางแห่งเต๋า คุณธรรมที่บำเพ็ญจึงมีความยืนนาน และเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญของผู้คนอีกนานแสนนาน
บำเพ็ญสู่ชาติบ้านเมือง คุณธรรมจึงเจริญ
บำเพ็ญสู่ใต้หล้า คุณธรรมจึงไพศาล
นอกจากนี้ ผู้ทรงเต๋าจะไม่หยุดเพียงแค่บำเพ็ญคุณธรรมเฉพาะตนให้จำเริญ บำเพ็ญคุณธรรมสู่ตระกูลจนเป็นที่สักการะแห่งอนุชน และบำเพ็ญคุณธรรมสู่นิคมบ้านเกิดจนเป็นที่แซ่ซ้องเท่านั้น หากยังจะมุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญคุณธรรมสู่ประเทศชาติ ยังให้ประชาราษฎ์ต่างอาบอิ่มอยู่ในคุณธรรมอันพิศุทธิ์ แลรู้ฝันใฝ่มุ่งหน้าปฏิบัติเต๋าอย่างเต็มกำลัง คุณธรรมที่บำเพ็ญจึงมีความเจริญกว้างใหญ่ และเป็นที่ยกย่องของชาวประชาไม่มีวันลืม
แต่กระนั้น แม้ท่านผู้ทรงเต๋าจะมุ่งมั่นบำเพ็ญคุณธรรมแห่งตนจนจริงแท้ บำเพ็ญคุณธรรมสู่ตระกูลจนเหลือล้น บำเพ็ญคุณธรรมสู่นิคมจนยืนนาน และบำเพ็ญคุณธรรมสู่ประเทศชาติจนเจริญวัฒนาแล้ว ท่านยังจะมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ มีจิตใจอันไพศาล โดยจะไม่ยอมหยุดอยู่เพียงแค่ให้ตนได้เจริญ หากยังจะมีความกตัญญูให้ตระกูลได้เจริญ ไม่เพียงแต่จะให้ตระกูลได้เจริญ หากยังจะมีความสำนึกที่จะให้นิคมบ้านเกิดได้มั่งคง ไม่เพียงแต่ให้นิคมบ้านเกิดได้มั่นคง หากยังจะมีความจงรักที่จะให้ประเทศชาติได้อำไพ และไม่เพียงแต่ให้ประเทศชาติมีความอำไพ หากยังจะมีมหาเมตตาให้ไพร่ฟ้าในใต้หล้าได้หลุดพ้นกันถ้วนหน้า ดังนั้นผู้ทรงเต๋าที่มีจิตมหาเมตตากรุณา จึงย่อมวิริยะบำเพ็ญคุณธรรมตนให้ยิ่งใหญ่ไพศาล แลเจริญปณิธานออกจรรโลงชาวโลกให้อยู่ในกระแสเต๋าตราบชั่วกาลนาน
ดังนั้น ใช้กายพินิจกาย ใช้ตระกูลพินิจตระกูล
ใช้นิคมพินิจนิคม ใช้ชาติพินิจชาติ ใช้ใต้หล้าพินิจใต้หล้า
ดังนั้น ผู้ที่ทรงเต๋า เขาจะเป็นผู้ที่เข้าใจตนเองอย่างเป็นกลาง มีใจที่ปลอดจากอคติทั้งหลาย เช่นภยาคติ มายาคติ โลภะคติ โมหะคติ โทสะคติ เป็นต้น เมื่อเขามีความเป็นกลางและมองตนเองและโลกอย่างที่เป็น ไม่ได้มองตนเองและมองโลกอย่างที่ตนเองอยากมอง ยามนั้น เขาย่อมสามารถพิจารณาตนเองได้อย่างถูกต้องปลอดจากอคติ และแน่นอนว่าย่อมพินิจพิจารณาผู้อื่นได้อย่างถูกต้องปลอดอคติด้วยเช่นกัน
ด้วยเพราะปัจเจกเป็นองค์ประกอบแห่งตระกูล ตระกูลเป็นองค์ประกอบแห่งนิคม นิคมเป็นองค์ประกอบแห่งชาติ และชาติเป็นองค์ประกอบแห่งใต้หล้า ดังนั้น ครั้นผู้ทรงเต๋าสามารถพินิจพิจารณตนเองและผู้อื่นได้อย่างจริงแท้แล้ว เขาย่อมสามารถพิจารณาผู้คนที่อยู่ในตระกูลและเข้าใจผู้คนในตระกูลได้อย่างจริงแท้ด้วยเช่นกัน เมื่อผู้ทรงเต๋าเข้าใจผู้คนในตระกูลตนเองได้อย่างจริงแท้แล้ว เขาย่อมจะเข้าใจผู้คนในตระกูลอื่นได้อย่างจริงแท้ไม่แผกกัน เมื่อผู้ทรงเต๋าเข้าใจทุกตระกูลได้อย่างจริงแท้แล้ว เขาย่อมมีความเข้าใจในนิคมตนได้อย่างจริงแท้ไม่ต่างกัน เมื่อผู้ทรงเต๋ามีความเข้าใจนิคมตนได้อย่างจริงแท้แล้ว เขาย่อมมีความเข้าใจนิคมอื่นได้อย่างจริงแท้เสมอกัน เมื่อผู้ทรงเต๋ามีความเข้าใจนิคมอื่นๆ ได้อย่างจริงแท้แล้ว เขาย่อมจะมีความเข้าใจความเป็นจริงของประเทศชาติตนได้อย่างจริงแท้เท่าเทียมกัน เมื่อผู้ทรงเต๋ามีความเข้าใจประเทศชาติตนได้อย่างจริงแท้แล้ว เขาย่อมจะเข้าใจทุกประเทศในใต้หล้าได้อย่างจริงแท้ด้วยเหมือนกัน เมื่อผู้ทรงเต๋ามีความเข้าใจทุกประเทศชาติได้อย่างจริงแท้แล้ว เขาย่อมมีความเข้าใจความเป็นจริงแห่งใต้หล้าได้อย่างจริงแท้ได้แน่นอน
เหตุใดข้าจึงล่วงรู้ถึงความเป็นไปแห่งใต้หล้า
ก็ด้วยประการฉะนี้แล
มีคนถามว่า เหตุใดท่านเหลาจื่อจึงมีความเข้าใจใต้หล้าได้อย่างถ่องแท้เล่า โดยแท้นั้นก็เพราะมีความเข้าใจตนเองอย่างเป็นกลาง และเข้าถึงเต๋าในตัวตนนั่นเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา