3 คีย์หลัก ในการฝึก Mindfulness
ให้ถูกต้องและได้ผล
3 คีย์หลักในการฝึก Mindfulness
3 คีย์หลักของการฝึก Mindfulness มีอะไรบ้าง?
คุณแม่หลายคนคงเริ่มสนใจหรือเริ่มลองฝึก Mindfulness กันแล้วใช่ไหมคะ
เรามาดูว่า 3 คีย์สำคัญของการฝึก Mindfulness
มีอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้การฝึกนั้นถูกต้องและได้ผลเร็วยิ่งขึ้น ไม่ฝึกผิดวิธีจนทำให้เลิกการฝึกไปก่อน
จนทำให้พลาดการเข้าถึงสภาวะภายในที่ทำให้เรา
สามารถสุขสงบกับตนเองและพัฒนาตนเอง
เปลี่ยนแปลงตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คีย์ที่ 1 ฝึก Mindfulness โดยรู้ตามความเป็นจริง
คือ สภาวะอารมณ์อะไรมันจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น ไม่ใช่อยากให้มันมีหรืออยากให้มันเกิดเฉพาะสภาวะอารมณ์
ที่ทำให้เรามีความสุข มีความสงบ มีความสบายใจอย่างเดียว หากแต่ว่ามนุษย์มีทั้งด้านบวกและด้านลบ หากสภาวะอารมณ์ทางด้านลบจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น ไม่ไปต่อต้าน กดข่ม
หรือบิดเบือนไม่ให้มันเกิด ทำให้เราเป็นหินทับหญ้า
คือเมื่อเราโกรธ โมโห อิจฉา เครียด กังวล กระวนกระวายใจ หรือมีความคิดไม่ดีต่างๆ ที่ผุดขึ้นมาเราก็ปล่อยให้มันผุดขึ้นมา
ไม่ใช่ไปกดข่มตัวเองไว้ว่าฉันเป็นนางฟ้า ฉันจะไม่คิดร้ายกับใคร ฉันจะไม่อิจฉาใคร ฉันไม่โกรธ ไม่โมโห ทั้งๆ ที่ข้างในแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เอาความคิดจากสมองมาบิดเบือนหาเหตุผล
ให้ตนเองดูดี และแสร้งบิดเบือนความรู้สึกจริงๆ ที่มันเกิดขึ้น นั่นคือการหลอกตัวเองที่น่าละอายที่สุดเพราะตัวเราเท่านั้นที่รู้ว่าเรากำลังหลอกตัวเราเองอยู่ คนอื่นไม่ได้มารับรู้ด้วยเลยว่า
สภาวะอารมณ์ความรู้สึกข้างในของเรากำลังเกิดความรู้สึกอะไรขึ้นบ้าง แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่เราจะต้องทำเช่นนั้น เพราะการปล่อยให้สภาวะอารมณ์เกิดขึ้นแค่ให้มันเกิดขึ้นที่ภายในใจเรา
เราไม่ได้ไปแสดงออกทางกาย กริยาหรือคำพูดออกไปให้คนอื่นรับรู้ มันเป็นคนละเรื่องกัน
การรู้ตามความเป็นจริง คือการบำบัด เยียวยา ชำระล้างจิตใจตนเองด้วยตนเองและรู้ได้ด้วยตนเองที่ดีที่สุด หากเราสามารถฝึกเป็นประจำ ฝึกบ่อยๆ และทำได้คล่องแคล้วแล้วจิตใจภายในของเราจะซื่อสัตย์
กับความรู้สึกของตนเอง ส่งผลให้เราเป็นคนที่เฉียบขาดในการตัดสินใจและทุกการตัดสินใจจะทำให้เราไม่รู้สึกผิด ไม่รู้สึกโทษตัวเองถึงแม้ว่าผลของการตัดสินใจนั้นไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง
เพราะทุกขณะของปัจจุบันที่เราดำรงอยู่ ที่เรารู้สึก รู้ทันตนเองทุกขณะมันคือความรู้สึกที่แท้จริงที่มาจากตัวตนที่แท้จริงจากภายในของตนเอง
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี
หรือปัญหาไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหน เราก็จะสามารถรับมือกับมันได้ทุกสถานการณ์ เราจะมีสติเสมอ
คีย์ที่ 2 ฝึก Mindfulness ด้วยจิตที่ตั้งมั่น คือการรู้อย่างมีสติ ข้อนี้ต้องอาศัยการฝึกสมาธิเพราะหากเราไม่มีสมาธิ สติจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเราต้องมีการฝึกสมาธิ
อยู่เป็นประจำเพื่อให้เรามีสติรู้ที่มีประสิทธิภาพ ไม่บิดเบือน เข้าข้างตนเองหรือหลอกตนเอง ด้วยความคิดที่ไม่เป็นตามความเป็นจริง ซึ่งการทำสมาธิมีหลายวิธี แต่ง่ายที่สุดและดีที่สุด
คือ การนั่งสมาธิ หากคุณแม่คนไหนสามารถปฏิบัติด้วยวิธีการนั่งสมาธิได้ก็จะช่วยให้การฝึก Mindfulness มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น
แต่หากคุณแม่ที่ยังไม่เคยนั่งสมาธิหรือไม่เคยฝึกสมาธิมาก่อน
ก็ไม่ต้องกังวลไป คุณแม่อาจเริ่มจากการใช้ดนตรีบรรเลงหรือ Meditation music ช่วยให้จิตใจเราสงบลงได้เช่นกันและหากเพิ่งเริ่มฝึกก็ยังไม่ต้องหลับตาก็ได้ พอคุณแม่ทำบ่อยๆ
และคุ้นชินกับการทำสมาธิแล้วคุณแม่ค่อยลองหลับตาและใช้ Meditation music ช่วยให้จดจ่ออยู่กับอารมณ์อันเดียวและพอทำไปนานเข้าก็จะสามารถนั่งสมาธิได้เองโดยไม่ต้องใช้ตัวช่วย
สำหรับเวลาในการทำสมาธิเริ่มแรกอาจจะเริ่มจาก 5 นาที และเพิ่มเป็น 10 นาที 15 นาที ครึ่งชั่วโมง 45 นาที หรือ 1 ชั่วโมงตามแต่คุณแม่ท่านไหนต้องการหรือสามารถทำได้ แต่ไม่ได้แปลว่า
ใครนั่งสมาธิได้นานกว่าแสดงว่ามีสติได้มากกว่า อันนั้นเป็นความเข้าใจผิด สิ่งที่ถูกคือหากนั่งได้แค่ 15 นาทีแต่สภาวะภายในเข้าสู่ความสงบได้มากกว่าก็จะสามารถทำให้เรา
เกิดสติได้ดีกว่าคนที่นั่งสมาธิ 1 ชั่วโมงแต่คิดฟุ้งซ่านทั้งชั่วโมง อันนี้ก็ขอให้เข้าใจในการปฏิบัติด้วยการนั่งสมาธิ และหากคุณแม่ไม่ถนัดด้วยวิธีนี้ก็สามารถใช้วิธีอื่นเช่น
แค่นิ่งหรือเพ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งในสถานที่ที่สงบเงียบอยู่คนเดียวก็จะช่วยให้คุณแม่มีสมาธิขึ้นมาได้เช่นกันหรือวิธีการฝึกสมาธิมีอีกมากมายคุณแม่ก็สามารถเลือกวิธีได้ตามความถนัดของตนเอง
เพื่อจะได้ไม่ต้องฝืนตนเอง ไม่ต้องบังคับตนเองในการฝึก เลือกที่เราสบายใจกับการลงมือปฏิบัติเป็นดีที่สุด
และการฝึกทำสมาธินี้ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเอาแต่ความสงบ แต่หากเป็นการทำสมาธิเพื่อเป็นพื้นฐานหลักในการเดินปัญญาให้มีสติตั้งมั่นอยู่กับเนื้อกับตัว มีสติรู้กายรู้ใจ มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่กับปัจจุบันขณะได้
เพราะหากไม่มีสมาธิ สติก็ไม่เกิด เราก็ไม่สามารถฝึก Mindfulness (การรู้ทันอารมณ์) ได้นั่นเอง
คีย์ที่ 3 ฝึก Mindfulness ด้วยการรู้อย่างเป็นกลางกับทุกสภาวะที่เกิดขึ้น ไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่เข้าไปโกรธ เกลียดอารมณ์ที่เราไม่ชอบและไม่ไปยึดติด
กับอารมณ์ที่เราชอบ หากสภาวะอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้นมันรู้สึกมีความสุข มีความสงบ มีความสบาย มีความอิ่มเอมปิติ
ก็ไม่หลงเข้าไปยินดี ชื่นชมติดอยู่กับความสุข ความสบายนั้น เพียงแค่รู้เบาๆ รู้ว่ามันกำลังมีอารมณ์ความรู้สึกอะไร ณ ขณะนั้น เพียงแค่รู้สึก ไม่แทรกแซง ไม่เข้าไปคิดต่อยอด ไม่เข้าไปยึดติด
อยากจะรักษามันได้ให้ได้นานๆ หรือหากมีอารมณ์ทุกข์ใจ ไม่สบายใจ กังวล กระวนกระวายใจ เครียด ก็ให้รู้ว่าตอนนี้เรากำลังเครียด กำลังไม่สบายใจ รู้มันลงไปว่า ณ ขณะนั้นเกิดสภาวะอารมณ์อะไรและ
รู้แบบไม่เข้าไปคิดฟุ้งซ่านเพิ่มเติม เอาความคิด นึกถึงสถานการณ์ในอดีตเข้ามาผสมชูโรงกับสภาวะปัจจุบันที่มันเกิดขึ้นให้ความคิดเรื่องนั้นๆ
ใช้เวลาอยู่กับเรานานขึ้น บานปลายขึ้น มันก็จะทำให้เราทุกข์ใจ กังวลใจกับมันนานขึ้น ให้แค่เพียงรู้ว่ามันกำลังไม่สบายใจ
มันกำลังกระวนกระวายใจ ไม่เข้าไปโกรธหรือไม่ชอบสภาวะอารมณ์ที่มันกำลังกังวลใจ แค่สังเกตมัน แค่มองดูมันด้วยความรู้สึก ดูห่างๆ
ดูเหมือนกำลังดูว่าตนเองภายในมีอะไรกำลังเกิดขึ้นเหมือนเราดูหนังดูละคร
ว่ามันกำลังเล่นบทเป็นอะไรในกายในจิตใจให้เราดู แต่ไม่ได้ให้เข้าไปจ้อง รอดู บังคับกาย บังคับใจ แค่คอยสังเกตมันห่างๆ รู้มันเบาๆ สบายๆ
ไม่ไปยึดติดกับอารมณ์ที่เป็นความสุขและไม่ไปเกลียดหรือไม่อยากให้มันเกิดอารมณ์ที่เป็นความทุกข์ใจ สภาวะอารมณ์ไหนมันจะเกิด
ก็ปล่อยให้มันเกิด ไม่ไปกดข่ม หรือต่อต้านไม่ให้มันเกิด เพราะทุกสภาวะอารมณ์ที่มันเกิดแค่เป็นผู้สังเกต แค่รู้สึกสักพักมันจะหายไปเอง
Cr. ข้อมูลทั้งหมดสรุปจากการปฏิบัติจริงของผู้เขียนตามคำสอนของหลวงพ่อปราโมท ปราโมชโช
คุณแม่ตั้งใจฝึกกันนะคะ เราจะได้หลุดพ้นจากวิถีชีวิตเดิมๆเดินทางสู่ร่องพลังงานใหม่ที่เป็นพลังงานบวกและไม่กลับไปตกร่องเดิมได้อีก
- เอ ปวีร์ลดา Mindfulness for Moms
#Mindfulness #MindfulnessForMoms #Meditation #Concentration #Awareness #Peaceful #Powerful #Freedom #Smart #Wisdom #TheAwakenToFreedom
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
