Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ครูเอลิน่า Elina
•
ติดตาม
26 ก.ค. 2021 เวลา 00:00 • ครอบครัว & เด็ก
ฉันคือคุณแม่สาย Mindfulness ตอนที่ 1
ฉันคือคุณแม่สาย Mindfulness ตอนที่ 1
ผู้เขียนขอเล่าประวัติและประสบการณ์ของตัวเอง
ให้ฟังกันแบบย่อๆ สักหน่อยเพื่อรู้ที่มาที่ไป
และทำความรู้จักกันมากขึ้นนะคะ
ชื่อ เอ ปวีร์ลดา ธนะพัฒน์มงคล ผู้หญิงวัย 40
ที่เป็นคุณแม่ลูก 1 วัย 3ขวบ ก็เป็นผู้หญิง
ทำงานคนหนึ่งที่เปลี่ยนสถานะตัวเอง
จาก "Working woman" มาเป็น "คุณแม่"
การเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ
อารมณ์และความรับผิดชอบ ครั้งยิ่งใหญ่นี้
ผู้หญิงคนนี้ต้องใช้สติในการตั้งรับและปรับตัว
เพื่อเป็น "คุณแม่" สูงมากๆ
เพราะต้องสูญเสียสังคม หน้าที่การงาน
หุ่น รูปร่างหน้าตา บุคลิกภาพภายนอก
ที่เปลี่ยงแปลงไป และการตัดสินใจ
ในหลายๆ เรื่อง ที่ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยใหม่
ที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ "ลูก" กับบทบาทใหม่
ที่ทำให้ชีวิตผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
จึงทำให้ต้องมีการวางแผนการใช้ชีวิตใหม่
ทำอย่างไรจึงจะมีความสุขในชีวิตของ
"คนเป็นแม่" และยังสามารถใช้ศักยภาพ
ของตนเองได้อย่างเต็มที่ในการทำงาน
หารายได้ ในการทำธุรกิจและยังคงเห็นคุณค่า
ในตนเอง สามารถสร้างคุณค่าให้ตนเองต่อไปได้
ด้วยแรงขับเคลื่อนใหม่ให้มีความสุขและ
สนุกกับการมีชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของผู้หญิงคนนี้
และที่หนักไปกว่านั้นคือ การเป็นคุณแม่ของผู้เขียน
ที่ต้องเลี้ยงลูกอย่างลำพัง สามีรับหน้าที่ทำงานนอกบ้าน
เพื่อหารายได้สำหรับครอบครัว
และการเลี้ยงลูกอย่างลำพังนี้ที่ผู้เขียน
ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกมาก่อน
และไม่มีคนแนะนำหรือคอยช่วยเหลือ
จึงทำให้ผู้เขียนต้องปรับตัว ปรับอารมณ์และ
สู้รบกับทั้งอารมณ์แปรปรวนของตนเอง
ที่สับสนกับหน้าที่ใหม่และอารมณ์ของลูก
ที่แปรปรวนตลอดเวลา
มันจึงเป็นอะไรที่หนักหนาเอาการอยู่เหมือนกัน
ทุกอย่างทุกเรื่องอาศัยการเสริช Google
เพื่อหาคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น
กับพัฒนาการของลูก การร้องไห้ หิว ฉี่ อึ
ท้องอืดหรือแม้กระทั้งร้องไห้ที่ไม่ทราบสาเหตุ
ทำให้ผู้เขียนมึนงงและสับสนกับการทำหน้าที่แม่
ที่เปลี่ยนจาก Working woman มาเป็น
คุณแม่ Full-time มันคนละเรื่องกันเลย
จนทำให้เกิดโรคซึมเศร้า อาการคือ รู้สึกตัวเองไม่มีค่า
รู้สึกตัวเองเป็นภาระ เป็นตัวถ่วงสำหรับสามี (คิดไปเอง)
รู้สึกไม่สามารถทำงานหารายได้ได้เหมือนเมื่อก่อน
ตัดขาดจากสังคมที่เคยมี เพื่อนฝูง ปาร์ตี้
แฮ้งค์เอ้าท์ หรือท่องเที่ยวอย่างอิสระ
วิถีชีวิตแม่มันมาเปลี่ยนผู้เขียนจนทำให้
มีความคิดผุดขึ้นมาว่า
ลูกคือคนที่พรากทุกอย่างในชีวิตเราไป
ลูกคือคนที่ทำให้เราสูญเสียความสุขในชีวิตไป
สภาพจิตใจย่ำแย่มากๆ หากมองแบบโลกสวย
เราควรจะดีใจ มีความสุขที่มีของขวัญตัวน้อยๆ
ได้กำเนิดขึ้นด้วยความรักของพ่อกับแม่
แต่อีกด้านของคุณแม่ที่มันโหดร้ายคือ
การโทษตัวเองและคิดว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาด
ทำผิดพลาดในชีวิตและเมื่อเรามีความคิดในแง่ลบ
ก็ทำให้เราไม่สามารถมีความสุขกับการได้เป็นแม่คน
และมีความสุขกับการเลี้ยงลูกได้อย่างเต็มที่
เพราะมันจะมีเสียงเล็กๆ ในหัวตลอดเวลาว่า
“เอาชีวิตฉันคืนมา”
“เอาไลฟ์สไตล์ฉันกลับมาเดี๋ยวนี้นะ”
เป็นอยู่อย่างนั้นจนสภาพจิตใจด่ำดิ่งลงสู่จุดต่ำสุด
ของสภาวะภายในคือ ไม่หลงเหลือความภาคภูมิใจ
ในตนเองอยู่เลย ไม่สามารเข้มแข็งทางอารมณ์ได้เลย
จิตใจอ่อนไหวง่าย อะไรกระทบนิดหน่อยหรือ
แม่แต่ลูกร้องไห้ก็ทำให้เราร้องไห้และโทษตัวเอง
ว่าทำหน้าที่แม่ไม่ดีพอ
แต่ยังดีที่ก่อนหน้าจะมีลูก ผู้เขียนเป็นคน
ชอบนั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมก็จะมีผล
ของการปฏิบัติติดตัวมาบ้าง
ทำให้มีความสงบทางจิตใจและ
เรียกสติตัวเองกลับคืนมาได้บ้าง
พอลูกย่างเข้า 3 ขวบจึงฮึด ลุกขึ้นมา
ค้นหาวิธีเพื่อที่จะดึงตัวเองกลับมาเป็นคน
ที่มีความภาคภูมิใจในตนเองให้ได้อีกครั้ง
จนได้พบกับหนังสือเล่มนี้ คือ
“The Power of Now พลังแห่งจิตปัจจุบัน”
และจากคำสอนของพระอาจารย์ปราโมท ปราโมชโช
จึงทำให้ผู้เขียนสามารถพบกับความสงบภายใน
ที่เป็นแก่นแท้ของตัวตนของผู้เขียนภายใต้
ความวุ่นวายของตนเองมานานแสนนาน
สติทำให้ผู้เขียนกลายเป็นคุณแม่คนใหม่
Transform (เปลี่ยนแปลง) ตัวเอง
ยิ้มได้มากขึ้น หัวเราะและเล่นกับลูก
ได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
ผู้เขียนไม่ได้เพียงแค่อ่าน ศึกษาเพื่อให้เข้าใจ
แต่ได้ลงมือปฏิบัติและสังเกตการเปลี่ยนแปลง
ตนเองในระดับจิตใจที่แท้จริง
จึงคิดว่าการฝึก Mindfulness มันน่าจะเป็นประโยชน์
กับแม่ๆ ที่กำลังเจอปัญหาในลักษณะเดียวกัน
ผู้เขียนควรจะให้ความรู้และวิธีการปฏิบัติเพื่อแม่ๆ
จะได้หลุดพ้นจากสภาวะที่กล่าวมา
ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบกับตัวเอง
เหมือนที่ผู้เขียนทำมันได้สำเร็จ
สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติตามวิธี Mindfulness
Cr. ภาพจาก Canva
- ความเครียด ความกังวลน้อยลง ผ่อนคลาย
กับสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งแม่และลูก
- มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และสิ่งต่างๆ
รอบตัวได้ง่ายขึ้น สร้างสัมพันธ์อบอุ่นมากขึ้น
ระหว่างแม่กับลูก เสียงตะโกนหรืออาการหยาบคาย
ต่างๆ หายไป
- มีความเข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของตนเอง
และลูกได้มากขึ้น มีความใจเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด
- ลดปัญหาต่างๆ ในการเลี้ยงลูกน้อยลง
เพราะมุมมองที่เปลี่ยนไปของระบบความคิด
และคงสภาวะอยู่ในพลังงานที่เป็นบวก
- มีสติจัดการกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ทุกด้าน
ด้วยการทำงานของสมองที่เป็นระบบและ
มีประสิทธิภาพมากขึ้น
-เอ ปวีร์ลดา Mindfulness for Moms
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Spiritual Guide
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย