Kingdom: Ashin of the North (2021) – อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
ไม่ปฏิเสธว่าในช่วงปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสื่อในเกาหลีใต้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ โดยเฉพาะซีรีส์หลายเรื่องทาง Netflix ที่เบิกโรงอย่างน่าสนใจอย่างซีรีส์ซอมบี้พีเรียด Kingdom ที่สร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างน่าสนใจ ในการผสมผสานแนวประวัติศาสตร์พีเรียดกับซอมบี้ระทึกขวัญได้เอาอยู่ จนล่าสุดได้มีการสร้างภาคแยกพิเศษที่ขยายเรื่องราวมากขึ้น นั่นคือหนังตอนพิเศษอย่าง Kingdom: Ashin of the North
Kingdom: Ashin of the North เล่าเรื่องในช่วงเวลาก่อนซีซั่นแรกของซีรีส์ หลังสงครามกับทางญี่ปุ่น เหล่าชนกลุ่มน้อยหนี่ว์เจินที่อาศัยอยู่แถบทางเหนือของเกาหลี และมักจะถูกใช้ให้เป็นหน่วยสอดแนมให้กับทางโชซ็อน ซึ่งโชซ็อนก็กำลังหวั่นเกรงความป่าเถื่อนจากกลุ่มชนเผ่าหนี่ว์เจินอย่างพาจอวี อาชิน เด็กสาวหนี่ว์เจินที่อาศัยอย่างสงบและหวังจะใช้สมุนไพรเพื่อรักษาแม่ของตน กลับต้องเผชิญกับโศกนาฎกรรมที่น่าโหดร้าย เมื่อทั้งหมู่บ้านถูกสังหารโหด ไฟในใจเธอจึงถูกสุมและหวังจะแก้แค้นให้กับทั้งหมู่บ้านให้ได้
แม้จะเป็นตัวหนังที่ถูกสร้างขยายมาจากซีรีส์ชื่อก้องโลกอย่าง Kingdom แต่จังหวะการเล่าก็ดูจะค่อยเป็นค่อยไปอยู่มาก ทั้งการเล่าที่เต็มไปด้วยข้อมูลการขัดแย้งระหว่างกลุ่มชนเผ่าหนี่ว์เจิน พาจอวี และรั้วประเทศโชซ็อน ก็พลอยให้เราต้องจัดสรรข้อมูลช่วงนี้มากพอสมควร แต่กระนั้นเอง หนังก็ยังคงดำเนินเรื่องและกำกับบรรยากาศน่าหวาดหวั่นได้อยู่หมัด เพียงแต่ตัวหนังภาคต้นนี้ เรื่องราวจะโฟกัสอยู่กับเส้นเรื่องการล้างแค้นของอาชินเท่านั้นเอง
ส่วนที่ต้องชื่นชมก็คือ งานสร้างที่ยังคงถอดแบบภูมิประเทศยุคนั้นได้อย่างน่าเชื่อถือและคุมบรรยากาศน่าพรั่นพรึงได้อยู่หมัด ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รูปแบบบ้านช่องที่แตกต่างกันไป ส่วนต่อมาก็คือ การดำเนินเนื้อเรื่องที่บิดเข้ากับประวัติศาสตร์โชซ็อนได้อย่างน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังขับเน้นในแง่อารมณ์และเป็นการวิพากษ์ถึงระบบรัฐและชนชั้นชายขอบได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนั้น จุดเชื่อมที่ตัวหนังได้วางไว้ไปยังซีรีส์ก็ค่อนข้างเรียบง่ายไม่ซับซ้อน และน่าจะเป็นเซ็ตติ้งแนวทางในซีรีส์ซีซั่นถัดไปได้น่าสนใจไม่น้อยเลยด้วย
กระนั้นเอง ความคาดหวังต่อตัวหนังจึงอาจจะสูงตาม ในเมื่อตัวซีรีส์ทำมาตรฐานความสนุกไว้ค่อนข้างสูง แต่ตัวหนังก็หาญกล้ามากพอที่จะเล่าผ่านโทนหนังที่ค่อนข้างหนักหน่วงและสะเทือนใจไม่น้อย ทำให้หลายคนอาจผิดหวังที่ไม่ได้รับความบันเทิงในรูปแบบที่ระทึกจนเนื้อเต้น อีกทั้งการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างราบเรียบไม่ได้ขับเน้นไปที่การวิ่งหนีซอมบี้แบบตัวซีรีส์ แต่กลับกัน มันทำให้เราเห็นแง่มุมของชนเผ่าหนี่ว์เจินที่ถูกหลอกใช้ วาทกรรมจอมปลอมที่ลวงหลอกให้คนชายขอบยอมก้มหัวต่ออำนาจ แม้สภาพความเป็นอยู่จะอัตคัตหรือแร้นแค้นเพียงใดก็ตาม
ความโป้ปดและน่าสังเวชต่อตัวอาชินก็คือ การที่เธออยู่ในฐานะชนเผ่าหนี่ว์เจิน ทั้งที่แต่เดิมบรรพบุรุษของเธอก็เป็นผู้ตั้งรกรากในดินแดนนั้นมาตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่กลับถูกเปลี่ยนสถานะให้กลายเป็นผู้ขออยู่อาศัยจากชนชั้นปกครองที่เรืองอำนาจ เสวยสุขอยู่ในแผ่นดินใหญ๋โดยไม่สนความลำเค็ญของชนกลุ่มน้อยเหล่านี้เลย และมันยิ่งสะเทือนใจที่เราได้เห็นความเชื่อมั่นที่เหล่าชนกลุ่มน้อยที่มีต่อคำลวงเหล่านั้น เปรียบดั่งวาทกรรม “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” แต่แม้จะเสียสละมากเพียงใด เผ่าหนี่ว์เจินก็ยังเป็นแค่เพียงชนกลุ่มน้อยมิใช่ชาวโชซ็อนแม้แต่กระเบียดเดียว
สรุปแล้ว Kingdom: Ashin of the North คือภาคที่ขยายให้เราเห็นภาพกว้างของแผ่นดินโชซ็อนไกลถึงชายแดน สะท้อนภาพคนชายขอบที่ถูกดูแคลนจากคำลวงของรัฐที่มักหลอกใช้อย่างน่าขมขื่น แม้ตัวหนังจะไม่ได้สร้างความระทึกขวัญมากเท่าตัวซีรีส์ก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นงานบันเทิงที่วิพากษ์สังคมผ่านบริบทชนชั้นสูงและคนชายขอบได้อย่างหนักแน่น
3.5 / 5
Kingdom: Ashin of the North (2021)
Directed by Kim Seong-hun
Written by Kim Eun-hee
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
