31 ก.ค. 2021 เวลา 06:45 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Blood Red Sky (2021) – แวมไพร์เวหากับเด็กเปรตทะยานฟ้า
บ่อยครั้งที่หนังบางเรื่องมาพล็อตแบบเกรดบีที่เรามองข้าม แต่ก็เป็นความสนุกที่หลายครั้งเราก็คาดไม่ถึง อาจจะเป็นเพราะความกล้าบ้าบิ่นของตัวพล็อตที่ดูเหนือจริงและการกำกับของเรื่องราวที่ทำให้เราไม่อาจละสายตาไปจากมันได้ เฉกเช่น Snake on a Plane หนังบ้า ๆ ที่จับงูมาใส่เครื่องบินแต่ก็เป็นความหฤหรรษ์ปนสยองที่ไม่น่ามีใครลอกเลียน มาคราวนี้ความบรรลัยได้มาเยือนบนเครื่องบินอีกครั้งใน Blood Red Sky
Blood Red Sky เล่าเรื่องของแม่ลูก นาเดีย และ อีเลียต ที่ขึ้นเที่ยวบินทรานส์แอตแลนติก-473 ไปยังนิวยอร์กเพื่อรักษาอาการป่วย แต่แล้วจับพลัดจับพลูเที่ยวบินที่เธอนั่งกลับถูกผู้ก่อการร้ายยึดเครื่องบิน สถานการณ์เหมือนจะย่ำแย่ที่สภาพร่างกายของเธอไม่พร้อมจะต่อสู้หรือปกป้องลูกของเธอได้ แต่เหตุการณ์ก็กลับพลิกผันหนัก เมื่อบนเที่ยวบินนั้น มีสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมอย่าง “แวมไพร์” โดยสารขึ้นมาด้วย
ว่ากันตรง ๆ หากเราอ่านแค่ตัวพล็อต หนังเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นหนังเกรดบีเรื่องหนึ่งที่เราหามาดูฆ่าเวลาเท่านั้น แต่หนังสัญชาติเยอรมันเรื่องนี้ก็ยังพอมีความหาญกล้าในการเล่าเรื่องที่ดูบี ๆ ให้น่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง โดยหนังดำเนินเส้นเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง มีการตัดสลับเหตุการณ์ที่เล่าเสริมเรื่องราว ซึ่งเรื่องหลักคือการเดินทางบนเที่ยวบินระทึกนี้ ตัดสลับกับการเล่าภูมิหลังที่ทำให้เราเห็นมิติตัวละครซึ่งสอดรับกับพล็อตหลักมากขึ้น โดยระหว่างทางก็มีฉากระทึกขวัญที่มีกลิ่นคาวเลือดแทรกเป็นระยะ
ยอมรับว่าเป็นหนังที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อย เพราะก่อนที่จะเปิดเข้าไปดูใน Netflix นั้น เราไม่ทราบเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังเลย นอกเหนือจากใบปิดที่มีเพียงเครื่องบินกับแวมไพร์ มันจึงค่อนข้างน่าประทับใจในแง่การเล่าของเรื่องราวที่วางจังหวะการเล่าค่อนข้างดี ทั้งเหตุการณ์บนเครื่องบินและการแทรกเรื่องราวภูมิหลังของตัวละครหลักอย่างนาเดียที่ทำได้อย่างใส่ใจและสอดรับกับเหตุการณ์ได้อย่างดี นอกจากนี้การคุมบรรยากาศก็ค่อนข้างทำได้อยู่ ทั้งในฉากโหดก็ทำได้โดยไม่แหวะเกินไป แถมการแสดงของเหล่านักแสดงก็ทำได้ดีน่าประทับใจ โดยเฉพาะ แพรี บอไมสเตอร์ ก็ช่างน่าเห็นใจมาก ๆ
กระนั้นเอง ตัวหนังยังมีจุดด้อยอยู่บ้าง ทั้งจังหวะการเล่าช่วงแรกที่ค่อนข้างช้าและเป็นหนังแวมไพร์ที่ขายความดราม่าระทึกขวัญเป็นหลัก แม้มีหลายจุดที่หนังเล่นกับศีลธรรมกับจิตใจได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้ตัวหนังบางช่วงก็ดำเนินเรื่องที่อาจจะมองข้ามตรรกะไปบ้าง ทั้งการตัดสินใจของตัวละครที่สิ้นสติที่สุดในเรื่องที่แสนบ้าคลั่งและไร้ตรรกะ แม้มันจะดูสมเหตุผลในแง่ของตัวละครก็ตาม รวมถึงตัวละครอย่าง อีเลียต ที่ทั้งน่ารักและน่าชังในแทบทุกการกระทำของตัวละครจนแทบจะกลายเป็นหนึ่งตัวละครเด็กเปรตในโลกภาพยนตร์ ถึงการกระทำเหล่านั้นจะพอดูฟังขึ้นในแง่ของการดำเนินเนื้อเรื่องที่ทำให้เรื่องราวได้ไปต่อก็ตาม
สรุปแล้ว Blood Red Sky คือหนังระทึกขวัญดราม่าที่มาพร้อมพล็อตเรื่องที่ฟังดูเกรดบี แต่ก็ดำเนินจังหวะของเรื่องราวได้อย่างใส่ใจและน่าเชื่อถือ ถึงแม้ตัวละครบางตัวจะมาพร้อมการกระทำที่ไร้ซึ่งตรรกะและชวนหงุดหงิด (น้องอีเลียต เป็นต้น) แต่ก็เป็นบ่อเกิดความฉิบหายที่ผลักดันเรื่องราวไปข้างหน้าได้อย่างน่าติดตาม อีกทั้งการแสดงของแพรี บอไมสเตอร์ ก็ทำได้น่าประทับใจ และคุมบรรยากาศได้อยู่ แม้จะมีบางจุดที่ชวนขำไปบ้างก็ตาม
3.5 / 5
Blood Red Sky (2021)
Directed by Peter Thorwarth
Written by Peter Thorwarth & Stefan Holtz

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา