31 ก.ค. 2021 เวลา 13:04 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
It’s Okay to Not Be Okay
นักแสดงนำ : Kim Soo Hyun, Seo Yea Ji และ Oh Jung Se
หลังจากที่ดู :
ซีรีส์ผลงานของ Netflix กับการกลับมารับบทพระเอกเต็มตัวอย่าง Kim Soo Hyun ที่เพิ่งปลดประจำการจากทหารเมื่อปี 2019 หลังก่อนหน้านี้มาในฐานะนักแสดงรับเชิญเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่อง Hotel del Luna และ Crash Landing on You ที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้า การมันรับบทเรื่องนี้ค่อยข้างหนักและยากพอควร เพราะต้องเล่นกับอารมณ์ของคนด้วยครับ
ที่ว่าเล่นกับอารมณ์ เพราะพระเอกของเรื่องนี้ รับบทเป็น ผู้ดูแลในโรงพยาบาลจิตเวชรื่นรมย์ ที่ต้องมาดูแลคนไข้พิเศษ โดยคนไข้แต่ละคนก็มีปมแตกต่างกัน นอกจากจะดูแลคนไข้ของเขาเองแล้ว ตัวเขายังคงมีปมส่วนตัวและยังต้องดูแลพี่ชายที่เป็นออทิสติกและเป็นแฟนคลับตัวยงของนางเอกของเรื่อง ซึ่งรับบทโดย Oh Jung Se ที่ถ่ายทอดออกมาในบทนี้ได้อย่างดีมาก ส่วนนางเอกของเรื่องที่รับบทโดย Seo Yea Ji เป็นนักเขียนนิทานเด็กที่มีชื่อเสียง จะว่าไปเธอเองก็มีภาวะต่อต้านสังคมและอาจพูดได้ว่าไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นัก
นอกจากในเรื่องราวของโรงพยาบาลจิตเวชรื่นรมย์ ยังสอดแทรกความเป็นภาพแฟนตาซีในนิทานของนางเอก ตัดสลับกับเหตุการณ์ในปัจจุบันเปรียบเทียบกันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นปมเด็กหญิง เด็กชาย ระหว่างคู่พระเอกนางเอก ปมการกลัวผีเสื้อของพี่ชายพระเอก และบางครั้งก็มีอาการคลุ้มคลั่งเวลาอยากได้ของอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วไม่ได้ ทั้งสามคนลึกๆ แล้วต่างคนต่างก็เยียวยาทางจิตใจซึ่งกันและกัน เพราะหากดูลึกๆ แต่ละคนก็จะมีปมทางจิตหน่อยๆ กันทั้งสิ้น
เรื่องนี้จัดหนักจัดเต็มทั้งความดาร์ค ความโรแมนติก ความเศร้าปนเหงา ความตลก ความอบอุ่น ครบทุกอารมณ์ในทุกตอน เพราะเราจะได้เห็นฉากโรแมนติกของพระเอกนางเอก ฉากความรักของพี่น้องระหว่างพระเอกและพี่ชาย ฉากมิตรภาพระว่างคนไข้ด้วยกันเอง ระหว่างคนไข้กับเจ้าหน้าที และระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกัน เราจะได้เห็นภาพแฟนตาซีเป็นอนิเมชั่นสวยๆ ในหลายๆ ฉาก รวมถึงเราจะได้เห็นวิธีการรักษาโรคอาการป่วยทางจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งบางครั้งก็ไม่ใช่แค่ว่า เขาจะเป็นคนโรคจิตเสมอไป
ในส่วนของนักแสดงสมทบ ก็รับส่งกับตัวละครหลักกันได้เยี่ยม เป็นที่จดจำได้ดี คนหนึ่งที่มักจะได้รับการพูดถึงมาก ที่แม้จะออกมาแค่ 3 EP เท่านั้น นั่นคือ Kwak Dong Yeon รับบทเป็นลูกชายนักการเมืองที่ไม่ได้มีดีแค่มาแก้ผ้าโชว์ จะเป็นอย่างไรลองติดตามกันๆ เพราะหลังจบเรื่องนี้ เขาผันตัวเองไปรับบทในนักแสดงสมบทเรื่อง Vicenzo ที่ผู้ชมหลายคนชื่นชอบเขามาก จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวผมคงได้รีวิวอีกทีครับ
ในส่วนเพลงประกอบนั้น ทำออกมาได้น่าฟังในทุกๆ เลยก็ว่าได้ ต้องบอกว่า เลือกเพลงที่ชอบได้ยากมากอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว แต่ถ้าให้เลือกเพียงหนึ่ง ก็ขอเลือกเพลงนี้เนอะ เพราะชอบในเสียงทำนองเพลง ฟังที่เพราะและฟังสบายๆ สำหรับช่องทางรับชม สามารถติดตามได้ทาง Netflix ครับ
เพลงประกอบที่ชอบ : In Your Time - Lee Su Hyun
 
คะแนนโดย Peter : 8/10
โฆษณา