5 ส.ค. 2021 เวลา 00:00 • ครอบครัว & เด็ก
ฉันคือคุณแม่สาย Mindfulness ตอนที่ 7
"พายุอารมณ์ควบคุมด้วย Mindful"
ตอนที่ 7 "พายุอารมณ์ควบคุมด้วย Mindful"
ช่วงนี้ไม่มีคุณแม่ท่านไหนปฏิเสธว่า
การอยู่กับบ้าน อยู่กับลูกมีทั้งสุขและทุกข์
ปนกันไปเพราะเราต้องทั้งดูแลทุกอย่าง
สำหรับลูก ไม่ว่าจะกิจวัตรประจำวัน
และการบังคับลูกเรียนออนไลน์
ใช้คำว่าบังคับกันเลยทีเดียวเพราะ
บ้านไหนมีลูกเล็กไม่เกิน 5 ขวบ
น่าจะเข้าอกเข้าใจกันดี
ที่ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกที่ดูดี
จะกลายเป็นความหงุดหงิดรำคาญใจ
กันทั้งสองฝ่าย
เพราะฝ่ายคุณแม่ก็อยากให้ลูกตั้งใจเรียน
จึงเคี่ยวเข็ญทุกวิถีทางส่วนคุณลูกก็ด้วยวัย
ที่ชอบเล่นและสมาธิสั้นจึงเรียนบ้างเล่นบ้าง
ตามประสาเด็กจึงมีพายุอารมณ์ความหงุดหงิด
ของคุณแม่มาเป็นระรอกๆ ใช่ไหมคะ
เพราะฉะนั้นการฝึก Mindfulness หรือการฝึก
สติอยู่กับปัจจุบันของคุณแม่นั้นสำคัญมากๆ
คุณแม่ต้องปล่อยวางอดีตที่เพิ่งผ่านไป
นาทีที่แล้วที่มีอารมณ์หงุดหงิดให้มาอยู่
ในสภาวะปกติในปัจจุบันขณะทีละขณะๆ
ให้ได้ ไม่งั้นอารมณ์คุณแม่จะก่อตัว
เป็นคลื่นพายุอารมณ์ขนาดใหญ่ได้ง่ายๆ
เลยทีเดียว
ปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้าหาคนเป็นแม่
อยู่ ณ ตอนนี้ บางบ้านก็อาจจะตกงาน
บางบ้านก็อาจจะมีรายได้ลดลง
บางบ้านก็อาจจะต้องปิดกิจการหรือ
ปัญหาอื่นๆ มากมายมหาศาลที่เกี่ยวกับ
อาชีพการงานที่มีผลกระทบกับรายได้
ของคุณแม่อยู่ ณ ขณะนี้ แล้วยังต้อง
ดูแลลูกมากขึ้นเพราะโรงเรียนปิด
การเรียนการสอนทุกโรงเรียน
ต้องปรับตัวในการเป็นคุณครูจำเป็น
ที่ต้องเป็นพี่เลี้ยงของลูกตอนเรียนออนไลน์
ทุกอย่างเปลี่ยนไป
วิถีชีวิตคุณแม่เปลี่ยนไป บางคนที่ปรับตัว
ไม่เร็วก็ดีไป แต่บางคนที่ยังปรับตัวไม่ได้
ต้องใช้สติกำกับตัวเองตลอดเวลา
หนีไม่พ้นเรื่องสติจริงๆ ไม่งั้นคุณแม่
คุมตัวเองไม่อยู่ พาลจะทำให้ลูกของเรา
เกิดความเครียดและที่สำคัญคือ
พฤติกรรมเลียนแบบหากเราแสดงออก
ทั้งทางอารมณ์ คำพูด ท่าทางที่ดูเกรี้ยวกราด
แล้วลูกเราก็จะมีพฤติกรรมเหล่านั้นติดตัวไปด้วย
เวลาคลื่นอารมณ์ลบๆ กำลังก่อตัวกับ
พลังงานลบๆ ที่พร้อมจะระเบิดออกมา
ให้คุณแม่ตั้งสติหายใจเข้าลึกๆ
และมองดูมันภายในใจเราว่าความถี่
ของคลื่นอารมณ์นั้นมันจะมากจะน้อย
สลับกันไปตามสติที่เราฝึกมา
ให้ดูมันอยู่ภายในก่อน อย่างน้อยมัน
จะทำให้ความรุนแรงลดลงตอนที่ปล่อย
มันออกมา ให้คุณแม่ฝึกตนเองนะคะ
มันสำคัญมากๆ
นาทีนี้แหละที่เป็นนาทีทองในสถานการณ์
แบบนี้การกระทบอารมณ์จะเกิดบ่อยมากๆ
ทั้งความเครียดสะสมของตัวคุณแม่เอง
ในเรื่องของอาชีพการงานและรายได้
บวกกับความหงุดหงิดรำคาญใจที่ต้อง
ปรับตัวจากคนเคยทำงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก
และต้องมารับหน้าที่สอนหนังสือให้ลูกอีก
มันก็จะหนักหนาเอาการอยู่สำหรับคนเป็นแม่
แต่หากเราไม่ยอมปรับตัวหรือไม่เริ่มฝึก
ตนเองตั้งแต่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เราไม่รู้ว่า
สถานการณ์จะยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน
และเพราะความคาดเดาไม่ได้นี่แหละ
จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวเอง ต้องวางแผน
ตนเองเพื่อพร้อมรับกับทุกสถานการณ์
ที่กำลังรอจะเกิดขึ้นในอนาคต
การฝึก Mindfulness การทางออกหนึ่ง
สำหรับคุณแม่ที่เป็นการแก้ที่ต้นเหตุ
ของทุกปัญหา
แก้ยังไง?
ก็หากว่าเราฝึกสติดีแล้ว สามารถรู้ทัน
ความคิด รู้ทันอารมณ์ของตนเองได้
รู้ความเคลื่อนไหว การทำงานต่างๆ
ของร่างกายและจิตใจตนเองได้
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าสถานการณ์
ใดๆ ที่จะเกิดขึ้นเราจะมีความสงบจากภายใน
และมองเหตุการณ์ต่างๆ
ด้วยการเป็นผู้ดู และรู้ตามความเป็นจริง
ที่มันเกิดขึ้น จะไม่ตื่นตระหนกไปกับกระแส
จะสามารถมีสติในการหาทางเอาตัวรอด
และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ความสงบจากภายในได้มาจากการฝึก
ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากในการฝึกตน
แค่ความรู้สึกนึกคิดร่างกายขยับ
หรืออะไรก็ได้ที่เกิดขึ้นกับกายกับใจเรา
เราก็แค่รู้สึกตัว หรือที่เรียกว่า รู้สึกตัวทั่วพร้อม
อยู่เสมอๆ นี่คือการฝึก มันง่ายมากๆ
เพียงแค่เริ่มฝึกมันเท่านั้นเอง ฝึกแล้วได้อะไร
ถ้ามันง่ายขนาดนี้ นั่นสิมันง่ายขนาดนี้แต่ทำไม
คนส่วนใหญ่ไม่ยอมฝึกกัน
ฝึกเพื่อให้จิตเราคุ้นชินกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ในปัจจุบันขณะในตอนที่เรายังไม่มีความรุนแรง
ทางอารมณ์และความคิดที่มันยังไม่เข้าครอบงำเรา
ฝึกตอนที่เป็นปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน
เพื่อในตอนที่อารมณ์และความคิดเข้าครอบงำเรา
เราจะได้รู้ทัน รับมือกับมันได้ทันและมันจะช่วย
ให้เราเกิดความทุกข์ในได้สั้นขึ้น เวลาแห่ง
ความทุกข์ของเราที่มันจะเกิดขึ้นมันจะให้เวลา
น้อยลงและผลกระทบจากปีศาจทางอารมณ์
ก็จะน้อยลงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นไม่มี
อะไรเสียหายเลยและฝึกได้ง่ายมากๆ แต่ต้องฝึก
หากเราไม่ฝึก เราจะไม่มีทางรู้ทันมันด้วยการคิด
ไม่มีทาง ไม่มีทางที่จะออกจากห้วงอารมณ์และ
ความคิดครอบงำได้เลยหากปราศจากการฝึกฝน
มาก่อน
ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ อาการอกหัก
หากคนที่ไม่ฝึกสติ Mindfulness มาก่อน
เวลาที่เพื่อนอกหักจะพูดปลอบใจได้เป็นฉากๆ
จากความคิด จากการวิเคราะห์สถานการณ์
ให้กับเพื่อนดูเหมือนว่าจะเก่งมากในการผ่าน
อาการอกหักนั้นไปได้
แต่พอเจอเข้ากับตนเองเล่นเอาไปไม่เป็นเลย
คิดวกไปวนมาและตกอยู่ในห้วงอารมณ์ความ
รู้สึกนั้นหาทางออกมาไม่ได้เลย
เพราะตอนที่ปลอบใจเพื่อนเราไม่ได้เข้าไป
มีส่วนหรือรู้สึกอกหัก เศร้าเสียใจกับเขาด้วย
จึงสามารถใช้ความคิดในการช่วยเพื่อน
แต่ตอนที่อกหักเสียเองเราเข้าไปคลุกอยู่ใน
อารมณ์ความรู้สึกนั้นและประกอบกับความคิด
ที่กำลังเล่นงานเรา Re-play ภาพและเรื่องราว
ในหัวเราซ้ำไปซ้ำมาและหากเราไม่ฝึกสติ
เราจะไม่รู้ทันความคิดหรือรู้ทันอารมณ์นั้น
ได้เลยว่าตนเองกำลังตกเป็นทาสของความคิด
และอารมณ์ความรู้สึกนั้นอยู่
เหมือนกันกับตอนที่คุณแม่ใช้ชีวิตประจำวัน
เลี้ยงลูกทำกิจกรรมต่างๆ ในสภาวะอารมณ์ที่
เป็นปกติก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่พออารมณ์คุณแม่เริ่มขึ้น ความโมโห
กำลังจะผุดขึ้นมากลางอกเราจะไม่สามารถ
รู้ได้เลยว่าเราจะต้องควบคุมตนเอง
ไม่ให้เกิดอารมณ์รุนแรงและตะคอกตะโกน
ใส่ลูกเราจะทำไปแบบไม่รู้ตัวจนเวลาผ่านไป
สักนาทีสองนาทีอารมณ์คุณแม่เย็นลง
ถึงมานั่งเสียใจว่าเราไม่น่าทำแบบนั้นกับลูก
เราเลย นี่เป็นเพียวตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ
ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิต
และก่อกำเนิดพายุอารมณ์ขึ้นในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าจะเป็นกับลูก สามี หรือกับรอบข้าง
มันก็มีแต่ผลเสียทั้งนั้น เพราะฉะนั้นยิ่ง
สถานการณ์เป็นแบบนี้ความสำคัญของ
การฝึกสติ หรือ การฝึก Mindfulness นี้
จึงสำคัญอย่างยิ่ง มันเป็นเครื่องมือที่
สำคัญที่สุดของการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
นี้เลยก็ว่าได้
จึงอยากให้คุณแม่มาเริ่มต้นฝึก Mindfulness
กันนะคะ เพื่อตัวเองและลูกของเรารวมไปถึง
ครอบครัวและคนรอบข้างเราด้วยคะ
สติได้มาจากการฝึก
.
"จงฝึกสติเพื่อมีสติและให้สติตื่นรู้ช่วยเรื่อง
ความสำเร็จทุกด้านในชีวิตคุณ"
- เอ ปวีร์ลดา Mindfulness for Moms
#Mindfulness #MindfulnessForMoms #Meditation #Concentration #Awareness #Peaceful #Powerful #Freedom #Smart #Wisdom #TheAwakenToFreedom #Awaken

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา