12 ส.ค. 2021 เวลา 21:59 • นิยาย เรื่องสั้น
บันทึกกึ่งนิยาย ตอนที่ 10
"Do you believe in True Love?"
1
เที่ยวถ้ำ / เบนและพี่คริส
6 มีนาคม 2545
วังเวียง, ประเทศลาว
รีบตื่นเช้า เอาผ้าไปส่งซัก ที่ลาวมีร้านรับซักเสื้อผ้าให้กับนักท่องเที่ยวแบกเป้อยู่กระจายเต็มไปหมด แถมราคาแสนถูกและใช้เวลาไม่นาน ตอบคำถามที่เคยสงสัยมาก่อนว่า พวกที่เที่ยวเป็นเดือนมีเป้อยู่ใบเดียว เค้าซักเสื้อผ้ากันยังไง ซักตากในห้องน้ำเหรอ
รีบเดินไปร้านเน็ต เช็คอีเมล์ ส่งข่าวอย่างเร็ว ๆ แล้วแวะกินอาหารเช้าง่าย ๆ ก่อนจะไปพบเบนที่จุดนัดพบ วันนี้เบนพาเพื่อนมาด้วยชื่อคริสเตียน อายุ 41 เป็นชาวฝรั่งเศสเหมือนกัน เนื่องจากพี่คริสสื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยแสนน้อย เราสองคนเลยไม่ค่อยได้คุยอะไรกัน ปล่อยให้เบนเป็นศูนย์กลางของเรื่องแทน
มอเตอร์ไซด์ที่เราได้ 2 คันสภาพดูไม่ค่อยน่าไว้ใจ แต่อ้ายเจ้าของร้านก็บอกให้ลองทดสอบดูก่อน มันยังใช้ได้ดีกว่าสภาพที่เราเห็น พี่คริสเลือกคันที่แย่กว่า และยกคันที่ดีให้เบนเพราะต้องพาฉันซ้อนท้ายไปด้วย ฉันเห็นพี่คริสเลือกก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องพูดกัน รีบส่งเสียงขอบคุณออกไปในทันที พี่คริสยิ้มรับ
1
เราเติมน้ำมันกันหมื่นกีบและคิดว่าน่าจะพอสำหรับไปและกลับ เป้าหมายของสองหนุ่มคือตะเวนชมถ้ำต่าง ๆ ตามแผนที่ ส่วนเป้าหมายของฉันคือไปไหนไปกัน ฉันไม่ได้อยากดูถ้ำแต่อยากชมวิวมากกว่า และฉันก็บรรลุเป้าหมายตั้งแต่พี่เบนบิดรถออกมาจากวังเวียง
จะว่าวังเวียงเหมือนชนบทบ้านเราก็ได้ แต่สวยกว่า ธรรมชาติที่สะอาดมาก บริสุทธิ์มาก ทิวทัศน์สองข้างทางเขียวชะอุ่ม นอกจากไร่นา ก็ไร่กล้วยที่เยอะมาก ภูเขาหินรูปทรงแปลกตาเหมือนเคยเห็นในภาพวาดของจีน ธารน้ำใส แม่น้ำน้อยที่เห็นเป็นระยะ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เรียงราย ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ บวกกับอากาศที่เย็นสบายของปลายฤดูหนาว ทำให้ฉันต้องถามตัวเองว่า ฉันหลุดมาที่ไหนกัน ทำไมงดงามอย่างนี้
ไม่ว่าเราจะหยุดพักที่ไหน พี่น้องชาวลาวมักจะเข้ามาพูดคุยช่วยเหลือตลอดเวลา ยิ่งถ้าทำท่าว่ากำลังดูแผนที่หรือปรึกษาอะไรกัน ไม่นานจะต้องมีใครสักคนโผล่หน้ามาช่วยชี้ทางเสมอ
อากาศที่เย็นปกติ เมื่อขี่มอไซด์จะเย็นเพิ่มขึ้นไปสองเท่า ทำให้เราหยุดพักกินชาร้อนตามเพิงร้านค้ากันถี่หน่อย เพราะเมื่อใครตะโกนถามตอนเห็นเพิงร้านค้าว่า “Hot Tea?” ที่เหลือก็จะตอบว่า “Yes!” โดยพร้อมเพรียง แล้วเลี้ยวรถเข้าจอด
อำเภอ “กาสี” เป็นอำเภอที่ดูใหญ่พอควร เพราะเป็นที่จอดรถบัสไม่ว่าจะมาจากเวียงจันทร์หรือไปหลวงพระบาง เราเลือกนั่งที่เพิงร้านค้าใกล้กับที่จอดรถพอดี สั่งชาร้อนแก้วละพันกีบมาถือในมือให้คลายหนาว
เรานั่งกันเงียบ ๆ จิบชาร้อนและนั่งมองผู้คนที่ทยอยลงจากรถบัส ฉันใจลอยไปไม่รู้ตัวคอยตรวจเช็คเหล่านักเดินทางว่ามีชายร่างสูงหัวโล้นใส่แว่นตาสีทองและต่างหูห่วงสองข้างหรือไม่ รถจอดทีละคันฉันก็ตรวจไปเสียทุกคน จนเบนมาสะกิดว่าไปกันเถอะ
1
เรามาจอดตรงสะพานข้ามแม่น้ำที่จะข้ามไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยปกติพี่น้องชาวลาวจะสร้างสะพานกันขึ้นมาเองเพื่อเก็บค่าข้ามสะพานจากนักท่องเที่ยว
ถ้าเป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่ทางการสร้างไว้พวกเราใช้ได้ไม่เสียเงิน ซึ่งสะพานเก็บส่วยนี้มีทั่วไปตามจุดท่องเที่ยว ภูเขาตรงหน้ามีหมอกละเลี่ยคลอเคลียอยู่บนยอด เสียงแม่น้ำไหลเอื่อย โขดหินน้อยใหญ่ส่งเสียงเรียกหา
ฉันผู้ที่พร้อมจะควักเงินห้าร้อยกีบเพื่อข้ามสะพานไปยังภาพตรงหน้า แต่เบนและพี่คริสยังต่อรองกับเอื้อยผู้เก็บค่าผ่านทาง เบนถามว่าว่ายข้ามไปต้องเสียเงินมั้ย เอื้อยยิ้มทำท่าทางว่ายน้ำแล้วบอกว่าฟรี
เออ​!! อีเบน!! แกเสียค่าน้ำชาร้อนพันกีบมากี่แก้วแล้ววันนี้ จะมางกกับเงินห้าร้อยกีบทำไมเนี่ย
3
ที่นี่มีถ้ำอยู่สองสามแห่ง ต้องจอดมอไซด์ไว้แล้วเดินไป ตอนที่เราตัดสินใจว่าจะไปทางไหน ก็มีคุณลุงเดินมานำทางให้ เราเดินตามคันนากันมาพักใหญ่ก็ถึงหน้าถ้ำ
ลุงอธิบายว่าในถ้ำมีระยะทางสองกิโลเมตร ด้านในมีน้ำให้ว่ายเล่นได้ แต่ข้างในมันมืดมากนะ แล้วลุงก็ควักอุปกรณ์จากย่ามออกมา “แต่ฉันมีนี่”
กระบอกไฟฉายขนาดใหญ่อยู่ในมือลุง พร้อมกับเสนอราคาค่านำทางคนละ ห้าพันกีบต่อหนึ่งกิโล นั่นแปลว่าถ้าไปจนสุดถ้ำคือสองกิโล ไปกลับสี่กิโล คนละสองหมื่นกีบ สามคนก็หกหมื่นกีบ
อืมมมม ลุงคงไม่รู้สินะว่าเมื่อกี๊เค้าเถียงกันเรื่องจะว่ายน้ำข้ามมาเพื่อจะไม่ต้องเสียค่าข้ามห้าร้อยกีบน่ะ
1
เดินกลับกันมาด้วยความผิดหวังของลุง ฉันเลยแอบให้เงินลุงไปสองพันกีบกระซิบบอกว่า ขอโทษที่ไม่ได้ตกลงถามรายละเอียดและราคากันก่อน เสียเสียเวลากันไปหมด ลุงขอบใจแล้วรับเงินไปแบบหน้าจืด ๆ
ถึงแม้จะไม่ได้เที่ยวถ้ำ แต่เราก็ใช้เวลาอยู่ที่หมู่บ้านนี้พักใหญ่ เบนได้เพื่อนเป็นลิงน้อยจอมมารยา เจ้าลิงตัวนี้ถูกผูกไว้กับเสาด้วยเชือกยาว มันก็จะวิ่งซนไปมา และนักท่องเที่ยวก็มักจะตกเป็นเหยื่อความน่ารักของมันทันทีที่สบตา จากนั้นมันก็จะกอดจะซบ แล้วหลับตาพริ้มเหมือนอยู่ในอ้อมกอดแม่
ความสนุกเริ่มขึ้นเมื่อแม่เบนอยากจะผละจากลูกลิงแล้ว แต่ลูกลิงไม่ยอม ที่เคยน่ารักก็แยกเขี้ยวขู่เมื่อพี่คริสจะไปช่วยแกะออก เดือดร้อนชาวบ้านต้องแห่กันมาช่วยหลอกล่อเพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่ เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกันอยู่นานก็ไม่เป็นผล พอเห็นเจ้าของบ้านโผล่มาเท่านั้นทุกอย่างก็คลี่คลายอย่างรวดเร็ว แม่เบนก็เป็นอิสระอีกครั้ง
1
เราออกจากหมู่บ้านนั้นมาไม่นานก็แวะกินอาหารกลางวันที่เพิงร้านค้าแห่งหนึ่ง เจ้าของร้านเป็นน้องสาวคนสวย ตักน้ำพร้อมกับน้ำแข็งมาวางไว้ให้ ฉันตอบขอบใจออกไปทันที เบนก็รีบตอบกลับไปเช่นกันว่า We don’t drink, thank you
เบนบอกว่าพวกเราชาวฝรั่งจะเลี่ยงการดื่มน้ำแบบนี้ ทุกคนจะถูกบอกกล่าวต่อ ๆ กันมาว่าให้พกขวดน้ำที่ซื้อมาเองมากกว่า ฉันมองขวดน้ำสีขาวขุ่นในมือเบนแล้วก็คิดในใจว่า อืมม แกแน่ใจนะว่าน้ำในขวดแบบนี้สะอาดปลอดภัย
หลังจากที่ขับรถตระเวนเที่ยวหมู่บ้านกันทั้งวันและไม่ได้ชมถ้ำเลยสักแห่งแม้จะอยู่ปากถ้ำแล้วก็ตาม เป้าหมายของฉันบรรลุไปนานแล้ว แต่เป้าหมายเบนและพี่คริสยังคงเลื่อนลอย เราตัดสินใจกลับเมื่อเช็คเวลาและคำนวนว่าน่าจะถึงวังเวียงพอดีที่จะคืนรถ เราก็จะได้ปิดทริปของวันอย่างสมบูรณ์ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์น้ำมันหมดขึ้นมาซะก่อน
ทั้ง ๆ ที่เติมน้ำมันมาเท่ากันแต่ของพี่คริสยังเหลืออีกเยอะ ฉันกับเบนก็มอบหมายให้พี่คริสออกไปล่าน้ำมัน เมื่อพี่คริสบิดรถออกไปแล้ว ฉันกับเบนก็นึกขึ้นได้ว่าพี่คริสพูดภาษาอังกฤษไม่ได้นี่หว่า แล้วแกจะปฎิบัติภาระกิจสำเร็จมั้ยเนื่ย ซึ่งเราประมาทพี่คริสไม่ได้เลย เขากลับมาพร้อมกับน้ำมันหนึ่งขวดและรอยยิ้มแห่งความภูมิใจ
1
เราถึงวังเวียงในตอนบ่ายแก่ แยกย้ายร่ำลากันไป แล้วนัดเจอกันอีกครั้งในตอนเย็น ฉันเดินกลับมาที่พัก ระหว่างทางเจอกับพี่คริสโตเฟอร์ ชาวฝรั่งเศสที่เคยเจอกันเมื่อเช้าวันใส่บาตรที่หลวงพระบาง
เอาล่ะวันนี้จะเป็นวันชาติฝรั่งเศสของฉันก็แล้วกัน พี่เขาเพิ่งมาถึงเมื่อสาย ๆ เมื่อถามข่าวคราวกันเรียบร้อย พี่คริสโตเฟอร์ก็จะพาฉันไปดูที่พักเพื่อหาห้องพักใหม่ เพราะฉันไม่อยากจ่ายคืนละ $4 อีกต่อไปแล้ว
เราเดินหาที่พักจนไปเจอที่หนึ่งในย่านซอมบี้ ห้องเตียงเดี่ยวมีห้องน้ำในตัวคืนละ $2.5 แต่ไม่มีน้ำอุ่น ซึ่งคุณลุงเจ้าของบ้านบอกว่าพรุ่งนี้จะหาห้องมีน้ำอุ่นให้
ฉันบอกทางและชื่อร้านอาหาร Phuban2 ให้กับพี่คริสโตเฟอร์ไปเจอกันเย็นนี้ถ้าเขาอยากได้เพื่อนคุยเพื่อนกินข้าวเพื่อนดื่มเบียร์ หกโมงครึ่งคือเวลานัดหมาย
คราวนี้ฉันกลับไปที่พักได้อย่างสบายใจเพราะเคลียร์เรื่องที่พักใหม่ได้แล้ว เจอพี่เดวิดที่หน้าบ้านถามว่าคืนนี้จะแวะมามั้ย ฉันตอบแบ่งรับแบ่งสู้ และรู้สึกว่าเมืองวังเวียงนี่ดีจังแฮะ เดินไปทางไหนก็เจอแต่คนคุ้นเคย ขออย่างเดียวอย่าเจออีไมเคิลอีกละกัน นึกได้ดังนั้นก็เกือบตบปากตัวเอง เพราะถ้าเป็นละครไทย เดี๋ยวยังไงนางเอกก็ต้องเจอพระเอกที่แสนจะรำคาญอยู่ดี
4
ขี้เกียจรออ่านเป็นตอน ๆ มี E-Book นะคะ
👇
โฆษณา