15 ก.ย. 2021 เวลา 13:51 • ไลฟ์สไตล์
"เพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์"
" ... เราพยายามฝึกตัวเอง
แล้วพอเราผ่านวิกฤตมาได้แต่ละครั้ง ๆ
เราจะเติบโตขึ้น ทุกครั้งที่เติบโตขึ้น
เราจะมีภูมิต้านทานความทุกข์ในโลกได้มากขึ้น
เราจะเข้าใจสัจธรรมได้มากขึ้น
อย่างเรามีชีวิตสบาย ต่อมาพ่อแม่เราเกิดปุบปับตายไป
กลายเป็นลูกกำพร้าอะไรอย่างนี้
เราก็ลำบากอยู่ช่วงหนึ่งเดี๋ยวเราก็ปรับตัวได้
มีประสบการณ์แล้ว ต้องช่วยตัวเองตั้งแต่เด็ก ๆ
แต่งงานแต่งการมีครอบครัวอบอุ่น
วันหนึ่งสามีไปบวชอะไรอย่างนี้
เราก็ว้าเหว่จิตใจ มีความทุกข์
เราก็อยากมีที่พึ่ง อยากได้ที่พึ่งอันโน้นอันนี้
อยากได้คนใหม่อะไรอย่างนี้ อันนั้นมันยังไม่โต
ถ้าเราเติบโตเราก็จะรู้ว่า
ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นเรื่องปกติของชีวิต
เราสามารถดูแลตัวเองได้
ไม่ต้องเอาชีวิตไปฝากไว้กับคนอื่น
ถ้าเราทำได้เราก็เติบโตขึ้น
เราไม่กลัวการอยู่คนเดียว
เราจะไม่กลัวความเงียบเหงา
1
เพราะเราไม่เคยเหงาเลย
เรามีเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ก็คือ สติ สมาธิ ปัญญา
เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเราไม่ค่อยทอดทิ้งเรา
ถ้าเราไม่ทอดทิ้งเขา
อย่างเพื่อนเราที่เป็นมนุษย์
หรือคนที่เรารักอะไรอย่างนี้
เราพึ่งพาอาศัยกันอยู่ เขาพร้อมจะทิ้งเราเมื่อไรก็ได้
บางทีก็ทิ้งตอนเป็น ๆ ไปหาคนอื่น
หรือว่าไปเรียนต่อต่างประเทศ เราถูกทิ้ง
บางทีก็ทิ้งตาย เขาตายไปเรายังอยู่
ถ้าจิตที่มันเคยฝึกมันอยู่ได้ด้วยตัวเอง
มันไม่ต้องคร่ำครวญเศร้าโศกแสวงหาที่พึ่งภายนอก
ถ้าเราทำแบบนั้นเราก็ต้องพึ่งคนอื่นตลอดชีวิต
ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ด้วยตัวเองได้
ฉะนั้นถ้าเราเข้าใจโลกเข้าใจชีวิต มีประสบการณ์ชีวิต
ผ่านสิ่งเลวร้ายทั้งหลายมา เราเข้าใจมัน
เราจะอยู่กับมันได้อย่างมีความทุกข์น้อย ๆ ไม่ทุกข์มาก
ทุกข์ก็ทุกข์ประเดี๋ยวประด๋าว
เราต้องทำใจไว้เลยนะว่า
ถ้าความสุขของเราอิงอาศัยคนอื่น อิงอาศัยสิ่งอื่น
ไม่มั่นคงหรอก
เพราะคนอื่นแปรปรวนได้
ตัวเราเองก็แปรปรวนได้
สิ่งอื่นก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ
1
อย่างบางคนอยากใหญ่อยากโต อยากมีตำแหน่ง
อยากเป็นโน้น อยากเป็นนี้ เป็นก็เป็นชั่วคราว
สุดท้ายก็ไม่ได้เป็น
1
ถ้าความสุขของเราอิงอาศัยคนอื่น อิงอาศัยสิ่งอื่น
ความสุขของเราไม่มั่นคงหรอก
เพราะคนอื่นแปรปรวนได้
ตัวเราเองก็แปรปรวนได้
สิ่งอื่นก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ
ถ้าอยู่มาจนแก่ขนาดหลวงพ่อจะเห็นเลยว่า
คนที่แย่งกันใหญ่แย่งกันโต สุดท้ายก็ตายหมด
ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
ถ้าเราฝึกสมาธิให้ดี มีหูมีตา
เรานึกถึงคนใหญ่คนโตที่เขาล่วงลับไปแล้ว
เราจะรู้สึกเลยมันอึดอัด มันไม่มีความสุขหรอก
แย่งกันแทบเป็นแทบตาย
สิ่งที่ได้ก็คืออบายภูมิ ได้ประโยชน์อะไรนักหนา
ฉะนั้นเราเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต
เราพออยู่พอกินดำรงชีวิตอยู่ได้
ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนคนอื่น
ชีวิตที่สะอาดหมดจดพึ่งตัวเองได้ พึ่งตัวเองได้ดีที่สุด
อย่างในทางวัตถุ
พระเจ้าอยู่หัวองค์ก่อนท่านสอนเรื่องพอเพียง
ถ้าเรามีชีวิตพอเพียง ถึงวันนี้เราก็ยังไม่เดือดร้อน
มันพอเลี้ยงตัวเองได้ หาอยู่หากินได้ ไม่จำเป็นต้องรวย
มีโอกาสรวยก็รวย ถ้าไม่มีโอกาสก็ไม่ต้องรวยก็อยู่ได้
พอเพียงในทางกายภาพ
ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติเราพอเพียงทางใจด้วย
มันมีความสุข
ชีวิตคนเราต้องการอะไรมากมาย
เสื้อผ้าเรามี 2 – 3 ชุดก็พอใช้แล้ว
พระมีชุดเดียวพระยังพอใช้เลย
มีข้าวกินวันหนึ่งสัก 2 – 3 มื้ออะไรนี้ก็ดีแล้ว
พระกินมื้อเดียวยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย
ฉะนั้นถ้าจิตใจเรารู้จักคำว่า พอ
เราไม่ลำบากแล้ว ลำบากก็ลำบากนิด ๆ หน่อย ๆ ... "
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
28 สิงหาคม 2564
ติดตามการถอดไฟล์บรรยายฉบับเต็มจาก :
ขอบคุณรูปภาพจาก : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา